(VOVWORLD) -เมื่อเดือนกันยายนปี 2022 รถบรรทุกทุเรียนของเวียดนาม ได้ผ่านจุดผ่านแดนนานาชาติหิวหงิในจังหวัดหลางเซินเพื่อส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการหลังความพยายามเจรจามาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งความสำเร็จนี้มีส่วนร่วมไม่น้อยจากเกษตรกรเวียดนาม ที่พยายามปรับปรุงแนวคิดและวิธีการปลูกเพื่อส่งออกทุเรียนเวียดนามไปยังตลาดโลก
ทุเรียนเวียดนามได้ส่งไปยังจุดผ่านแดนหิวเหงิ เพื่อส่งออกไปยังตลาดจีน |
“ในปีก่อนๆ ราคาทุเรียนไม่มีเสถียรภาพแต่เมื่อปี 2022 เราสามารถส่งออกทุเรียนอย่างเป็นทางการด้วยราคาที่ดีขึ้น คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 หวังว่า ในอนาคต การส่งออกทุเรียนจะมีเสถียรภาพเพื่อช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นใจและพยายามมากขึ้นในการปลูกและช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น”
“ก่อนหน้านี้ รายได้ของเราไม่มีเสถียรภาพเนื่องจากราคามีความผันผวน แต่หลังจากที่เราสามารถส่งออกอย่างเป็นทางการ ก็มีความมั่นใจและมีชีวิตที่ดีขึ้น รายได้ในปีนี้ของเราสูงกว่าปีก่อนประมาณร้อยละ 10-20”
“การลงนามในสัญญาส่งออกอย่างเป็นทางการ และการดูแลเอาใจใส่ของผู้นำทุกระดับและทางการท้องถิ่นได้ช่วยให้เกษตรกรสามารถส่งออกทุเรียนได้ในราคาที่สูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น”
นี่คือความภาคภูมิใจของเกษตรกรปลูกทุเรียนในตำบล อีเอ โยง อำเภอกรงปั๊ก จังหวัดดั๊กลั๊ก ในขณะที่เป็นผู้ส่งออกทุเรียนคนแรกๆ ไปยังตลาดจีนตามพิธีสารเกี่ยวกับการส่งออกทุเรียนอย่างเป็นทางการที่เวียดนามและจีนได้ลงนามเมื่อเดือนกันยายนปี 2022 หลังจากที่ข่าวนี้ได้รับการเผยแพร่ ราคาทุเรียนในเวียดนามได้เพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่า
หลัง 1 ปีที่พยายามปลูก ทุเรียน 90 ตัน ในพื้นที่ 4.7 เฮกตาร์ของครอบครัวของนาย เจิ่นวันเชี้ยน ในหมู่บ้าน ยุง ตำบล อีเอ โยง อำเภอ กรงปั๊ก ได้รับการส่งออกไปยังตลาดจีน นี่คือผลสำเร็จแห่งความพยายามในการปลูกทุเรียนในตลอด 18 ปีที่ผ่านมา นาย เชี้ยน กล่าวว่า
“ครอบครัวของเราปฏิบัติตามมาตรฐานเพื่อสามารถส่งออกอย่างเป็นทางการ เน้นถึงคุณภาพและผลิตตามใบสั่งซื้อของผู้บริโภค”
ในหลายปีที่ผ่านมา เมื่อถึงฤดูเก็บผลผลิตทุเรียน นาย เชี้ยนและเกษตรกรในหมู่บ้านมักจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องการขาย แต่นับตั้งแต่ที่มีพิธีสารดังกล่าวและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีตามมาตรฐาน VietGap ได้ช่วยให้การปลูกทุเรียนมีเสถียรภาพและมีราคาสูงขึ้น จนเปลี่ยนแปลงความคิดของเกษตรกรให้พยายามทำการเกษตรอย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ครอบครัวของนาง หวูถิมิงห์เติม ในตำบล อีอา โยง ปลูกทุเรียนมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี แต่ในอดีตมักจะประสบความยากลำบากในการจำหน่าย เพราะถ้าหากฤดูไหนที่มีผลผลิตมาก ราคาขายก็จะตกต่ำ แต่ในปีนี้ ครอบครัวของเธอสามารถส่งออกทุเรียนได้ 17 ตันและได้กำไรดี ซึ่งการลงนามในพิธีสารดังกล่าวถือเป็นกรอบทางนิตินัยที่มีความชัดเจน เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกษตรกรเวียดนามทำการผลิตแบบมืออาชีพและในขอบเขตที่กว้างใหญ่มากขึ้น นาง หวูมิงห์เติม เผยว่า การจำหน่ายสินค้าที่มีเสถียรภาพได้ช่วยให้เกษตรกรมีความยินดีและตั้งใจปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวด
“ตัวดิฉันเองก็เผยแพร่ข้อมูลให้แก่เกษตรกรในกลุ่มเพื่อสามารถทำการผลิตได้ดีที่สุด ถึงแม้จะส่งออกหรือไม่ก็ตาม เกษตรกรแต่ละคนต่างมีความปรารถนาที่จะส่งออกให้ได้มากที่สุดด้วยราคาที่มีเสถียรภาพ ดังนั้น พวกเราได้พยายามปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากตลาดจีน เราพยายามให้สินค้าไปถึงมือของผู้บริโภคโดยคงความสดอร่อยและปลอดภัยที่สุด”
ไม่เพียงแต่หลุดพ้นจากความยากจน แต่เกษตรกรในจังหวัดดั๊กลั๊กยังคงสร้างฐานะที่มั่นคง มีส่วนร่วมสร้างชื่อเสียงและเครื่องหมายการค้าให้แก่ทุเรียนเวียดนามในตลาดโลกอีกด้วย.