Gojek Vietnam กับภารกิจช่วยเหลือพัฒนาพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่อย่างยั่งยืน

(VOVWORLD) - นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในเวียดนามตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน บริษัท Gojek Vietnam สังกัดเครือบริษัท GoTo ของประเทศอินโดนีเซีย ได้มีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่รวมกว่า 200,000 ราย ซึ่งในตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท Gojek Vietnam มีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมทำประโยชน์ในระยะยาวเพื่อสังคม รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนากลุ่มพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน

นาย ฝ่ามแถ่งดาด อายุ 22 ปี จากเมืองไฮฟอง เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยชลประทาน เพิ่งเสร็จสิ้นการวิ่งงานเที่ยวที่ 5 ของวันนี้ ซึ่งสำหรับเขา การเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่กับ Gojek Vietnam เป็นการทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้เสริมระหว่างเรียนในกรุงฮานอย โดยเฉลี่ยแต่ละวันสามารถวิ่งงานได้ประมาณ 15-20 เที่ยวต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง มีรายได้ประมาณ 5-6 ล้านด่องต่อเดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายค่าเช่าหอพัก ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่น ๆ และยังพอเหลือสำหรับการออม ส่วนนาย เลวันจ่อง อาศัยที่เขตนามตื่อเลียม กรุงฮานอย รายได้จากการเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่กับบริษัท Gojek เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยเขาเองมีประสบการณ์ในงานนี้มากกว่า 3 ปี ตั้งแต่ปี 2020 ที่บริษัท Gojek Vietnam ยังใช้ชื่อเดิมคือ GoViet ซึ่งรายได้สูงสุดที่เขาเคยได้รับอยู่ที่ 20 ล้านต่อเดือน เมื่อกล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับบริษัท Gojek Vietnam นายดาดและจ่อง เผยว่า

“จริง ๆ ตอนแรก ผมก็มีความลังเลใจในการเลือกทำงานกับบริษัทที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ในที่สุด ผมได้ตัดสินใจเลือก Gojek เนื่องจากมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ง่ายสุดสำหรับนักศึกษา โดยค่าคอมมิชชั่นที่บริษัทเก็บจากพาร์ทเนอร์อยู่ที่ร้อยละ 33 ต่อการวิ่งงานหนึ่งเที่ยว ซึ่งก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม”

“มีเพื่อนร่วมงานบางคนของผมเคยลองสมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นเพื่อเปรียบเทียบรายได้ที่รับจริง แต่ท้ายที่สุดก็มาร่วมงานกับบริษัท Gojek ส่วนตัวผมเองทำงานกับบริษัท Gojek มาตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะผมเห็นว่าค่าคอมมิชชั่นของบริษัทที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นไม่ต่างกันมากนัก นอกจากนี้ บริษัท Gojek ยังมีการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การแจกหมวกกันน็อค เสื้อกันฝน สนับสนุนแพ็คเกจซื้อน้ำมันรถให้แก่ผู้ขับ รวมถึงให้คะแนนสะสมตามความขยันอีกด้วย”

Gojek Vietnam กับภารกิจช่วยเหลือพัฒนาพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่อย่างยั่งยืน - ảnh 1พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ Gojek ในเวียดนาม (ภาพจาก Gojek)

ในฐานะเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สร้างความเชื่อมโยงกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่หลายแสนคน บริษัท Gojek Vietnam พยายามสร้างรายได้ที่ดีให้แก่พาร์ทเนอร์ พร้อมช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและวิธีการให้บริการแบบมืออาชีพ โดยบริษัท Gojek Vietnam ได้ดำเนินโครงการและข้อคิดริเริ่มต่างๆ เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจให้แก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทุกคน โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังวิกฤตโควิด-19 รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรม “ที่ที่เรียกว่าบ้าน” ให้แก่พาร์ทเนอร์เกือบ 4 พันคน การแจกตั๋วหนังฟรีกว่า 8 พันใบให้แก่พาร์ทเนอร์และครอบครัวที่อาศัยในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ การมอบของขวัญให้แก่ผู้ขับจักรยานยนต์ที่มีอายุมากกว่า 55 ปีภายใต้โครงการ “แทนคำขอบคุณแก่ผู้ขับสูงอายุที่ร่วมงานกับ Gojek มาเป็นเวลานานและมีผลการทำงานที่ดี” หรือโครงการสนับสนุนในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง

ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงบ่อยพร้อมการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างต่อเนื่องจากบริษัทที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นรายอื่นๆ ในเวียดนาม เช่น Grab, Be, MyGo, FastGo  เทคโนโลยีและวัฒนธรรมขององค์กรที่บริษัทฯ กำลังปฏิบัติถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บริษัท Gojek Vietnam มีความแข็งแกร่งและสามารถประสบความสำเร็จมากมายในเวียดนาม นาง เหงวียนถิอทูเวิน ผู้จัดการฝ่ายชุมชนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ Gojek Vietnam เผยว่า

“ในฐานะเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี พวกเราเชื่อว่า การพัฒนาเทคโนโลยีด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากทั้งกลุ่มพาร์ทเนอร์และผู้ใช้บริการผ่านช่องทางการบริการลูกค้า ช่วยให้พวกเราสามารถปรับปรุงบริการต่างๆ  โดยในปีที่ผ่านมา พวกเราได้เปิดฟังก์ชันราว 40 รายการให้แก่ผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะการรับสมัครพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ให้แก่บริการ Gocar ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 ซึ่งได้เปิดโอกาสการทำงานและหารายได้เสริมให้แก่ตลาดแรงงานในเวียดนาม”

Gojek Vietnam กับภารกิจช่วยเหลือพัฒนาพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่อย่างยั่งยืน - ảnh 2นาง เหงวียนถิอทูเวิน ผู้จัดการฝ่ายชุมชนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ
Gojek Vietnam (ภาพจาก Gojek)

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัท Gojek ยังให้ความสำคัญต่อความรู้สึกในการใช้บริการและความคิดเห็นจากลูกค้ามาโดยตลอดเพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการพร้อมอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุด นาง เหงวียนถิเฮียน และนายโด๋ต๊วนแอง อาศัยในกรุงฮานอย แบ่งปันความรู้สึกหลังการใช้บริการต่างๆ ของ Gojek ว่า

“บริการของ Gojek น่าพอใจมีโปรโมชั่นส่วนบ่อย การใช้งานแอพฯ ก็ง่ายและมีครบทุกบริการ ได้แก่ บริการรับส่งคน บริการรับส่งสินค้าหรืออาหารทางออนไลน์ ซึ่งสะดวกจริงๆ”

“ข้อเสียอย่างเดียวของ Gojek คือการเรียกรถในบริเวณชานเมืองเพราะมีพาร์ทเนอร์ไม่มาก แต่ในพื้นที่เขตเมืองโดยรวมแล้ว บริการค่อนข้างโอเคครับ ผมชอบใช้ Gojek เพราะคูปองส่วนลดเยอะแถมราคาถูกกว่าบริษัทอื่นๆ”

“Gojek และลูกค้าของ Gojek ต้องพัฒนาไปด้วยกัน” เป็นคำยืนยันของผู้จัดการฝ่ายชุมชนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ Gojek Vietnam เหงวียนถิทูเวิน โดยในกรอบงาน Vietnam Connect Forum ที่มีขึ้น ณ นครดานัง เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัท Gojek Vietnam ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 50 บริษัท FDI ยอดเยี่ยมประจำปี 2022-2023 เนื่องจากมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อชุมชน พร้อมยังได้รับรางวัลมังกรทองเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นรางวัลที่เชิดชูกลุ่มสถานประกอบการที่เป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการผลิต รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่มีผลงานที่น่าประทับใจในการฟื้นตัวภายหลังวิกฤตโควิด-19 พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน.

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ Gojek เป็นผู้บุกเบิกในการจัดหารูปแบบระบบนิเวศ super-app ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีการใช้งานในเมืองต่างๆ กว่า 200 แห่ง ให้บริการอำนวยความสะดวกในการจองรถ ชำระเงิน สั่งอาหาร และอื่นๆ กว่า 20 รายการ โดยที่เวียดนาม super-app นี้ได้สร้างความเชื่อมโยงกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่กว่า 200,000 ราย และพาร์ทเนอร์ร้านอาหารกว่า 80,000 ราย รวมถึงจำนวนผู้ใช้ชาวเวียดนามนับหลายล้านคน ผ่านการให้บริการ 3 แบบ ได้แก่ บริการจองรถหรือ GoRide บริการสั่งอาหารหรือ GoFood และบริการเดลิเวอรี่หรือ GoSend.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด