การฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งของการท่องเที่ยวไทย
Minh Ngoc-VOV5 -  
(VOVWORLD) -การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย มีส่วนร่วมร้อยละ 11 -12 ของจีดีพี ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง ซึ่งแสดงให้เห็นจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2022 อยู่ที่กว่า 11 ล้านคนและใน 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2023 อยู่ที่กว่า 13 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจในสภาวการณ์ที่การท่องเที่ยวของประเทศต่างๆกำลังพยายามฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด -19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีเทคนิคใดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราจะมาหาคำตอบกันผ่านบทความเรื่อง “การฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งของการท่องเที่ยวไทย”
นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. |
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มียุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ได้รับการประเมินว่า มีความพร้อมเพรียง หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้รับการควบคุม ไทยได้มีแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021 ไทยได้ปฏิบัติโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox) เป็นการนำร่อง ซึ่งเป็นโครงการที่อนุญาตให้ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว และสามารถเที่ยวภูเก็ตได้เป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่ปฏิบัติ โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างดี นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท.ประเมิน ความสำเร็จของโครงการนี้ว่า
“ประเทศไทยของเราให้ความสำคัญต่อเรื่องการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก หลังสถานการณ์โควิด ต้องยอมรับว่าประเทศไทย เราพยายามที่จะขับเคลื่อนประเทศโดยค่อยเป็นค่อยไป ถ้าใครพอจำได้ ในปลายปี 2564 เราเริ่มการทำ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เราเปิดเฉพาะพื้นที่บางพื้นที่ก่อนเพื่อจะทดลองว่า หลังสถานการณ์โควิด ประเทศไทยสามารถมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน เราค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยดี เราก็เลยขยายพื้นที่ในปี 2565 แล้วก็เปิดทุกพื้นที่พร้อมกัน แล้วเราก็ต้องยอมรับว่า มีการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยดี ดังนั้น การที่เราเปิดประเทศเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้เพิ่มเติมและรวดเร็ว”
ปี2023 ไทยได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 25 ล้านคน เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ไทยกำหนดแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters”และดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และการบริการการท่องเที่ยวไทยผ่าน 5FSoft Power ซึ่งประกอบไปด้วย Food,Festival,Fight,Film และFashion ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานที่ยั่งยืน สำหรับ Food รัฐบาลไทยกำหนดปี 2023 เป็นปีแห่งอาหารไทย โดยได้จัดงาน "Bangkok International Food Festival 2023"เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนตามถนนคนเดินและถนนอาหารต่าง ๆ เช่น เยาวราชก็มีการขยายพื้นที่ ส่วน Fight ได้มีการจัดเทศกาลมวยไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการเข้าร่วมของนักมวยเกือบ 4 พันคน ซึ่งได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกโดย Guinness World Records เพื่อนำมวยไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น ส่วนFestival และFashion ท้องถิ่นต่างๆในไทยได้จัดงานเทศกาลต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะงานเทศกาลสงกรานต์ปี 2023 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ถึง 1 หมื่น 8 พันล้านบาท สำหรับFilm บริษัทนำเที่ยวต่างๆของไทยมีแผนการแนะนำแพ็คเกจทัวร์เมืองแห่งภาพยนตร์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2023 นาย ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เผยว่า
“ปีการท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด“Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” ก็เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถศึกษารูปแบบการท่องเที่ยวที่มีความหมาย รูปแบบการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ดื่มด่ำกับชีวิตแบบไทยและการค้นคว้าใหม่ๆ พวกเราหวังว่า นักท่องเที่ยวจะพึงพอใจเมื่อมาเที่ยวไทย”
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก (Photo: Dantri) |
ตามข้อมูลสถิติของ ททท. ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 นักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 60 เป็นนักท่องเที่ยวที่กลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง ส่วนร้อยละ 40 เป็นนักท่องเที่ยวที่มาไทยเป็นครั้งแรก หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยพวกเขาเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและมีความมั่นใจเมื่อกลับมาเที่ยวประเทศไทย ดังนั้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 70 กลับเที่ยวไทยเป็นครั้งที่สองและ ร้อยละ 30 มาเที่ยวเป็นครั้งแรก นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. เผยว่า
“เรามีสำนักงานที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญ ประเทศไทยเอง พี่เชื่อว่า แหล่งท่องเที่ยวของเราถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวซ้ำหรืออะไร ถึงแม้เป็นแหล่งท่องเที่ยวซ้ำก็ตาม แต่มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมและมีสิ่งใหม่ๆ ประเทศไทยเราให้ความสำคัญต่อเรื่องการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ดังนั้น แม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่นักท่องเที่ยวเคยมาก็ตามแต่มันจะมีการเพิ่มเติมในรายละเอียดของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆอีก ยกตัวอย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวก เราก็รู้ว่า มันมีการขายของ แต่มันก็จะมีการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวอย่างอื่นที่ใกล้เคียงหรือมีการเพิ่มจำนวนของผู้ประกอบการเข้าไป ซึ่งบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวมาพบ ก็อาจสร้างความประทับใจเพิ่มเติม มันไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนเดิมอะไรทุกอย่าง การท่องเที่ยวต้องพัฒนา เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ นี่เป็นสิ่งที่ประเทศไทยพยายามขับเคลื่อน”
นอกจากการมีศักยภาพด้านวัฒนธรรม อาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ไทยยังมีจุดแข็งด้านการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในภูมิภาค นี่คือการดำเนินงานของสำนักงานตัวแทน 29 แห่งของททท.ในต่างประเทศ โดยทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมของไทย ช่วยให้ไทยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่คล่องตัว ไทยมีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการต้อนรับนักท่องเที่ยว 25 -30 ล้านคนในปี 2023.
Minh Ngoc-VOV5