ความทรงจำเกี่ยวกับความสามัคคีของพันธมิตรการสู้รบเวียดนาม-ลาวสถิตอยู่ในใจของประชาชนทั้งสองประเทศ
Minh Đức -  
(VOVWORLD) - เพื่อปฏิบัติภารกิจระหว่างประเทศที่สูงส่งและคำสั่งสอนของประธานโฮจิมินห์เจ้าหน้าที่ ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามได้พยายามฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง รวมถึงยอมสละชีพเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่พรรคและประชาชนได้มอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดีและสร้างชัยชนะต่างๆในสมรภูมิลาว โดยในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมอเมริกา ทหารอาสาเวียดนามได้ร่วมกับกองทัพและประชาชนลาวรบชนะนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์นั้น ได้สร้างนิมิตหมายของความมุ่งมั่นตั้งใจ การเสียสละเลือดเนื้อและน้ำใจไมตรีระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศ
เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประธานประเทศลาวทองลุน สีสุลิด กล่าวปราศรัยในสถาบันการศึกษาราชการแห่งชาติโฮจิมินห์ |
ในช่วงปี 1945-1975 กองทัพเวียดนามได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพและประชาชนลาวในการต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาจนได้รบชัยชนะ โดยเฉพาะทหารอาสาเวียดนามได้ร่วมกับทหารและประชาชนลาวในการต่อสู้เพื่อปกป้องเส้นทางโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาเจื่องเซินเพื่อมีส่วนร่วมต่อชัยชนะของการปฏิวัติของทั้ง 3 ประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชา เลขาธิการใหญ่พรรคฯประธานประเทศลาวทองลุน สีสุลิด ได้กล่าวถึงความเสียสละของทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามด้วยความซาบซึ้งใจว่า
“ในช่วงการสู้รบที่ดุเดือดและความเป็นความตายอยู่ห่างกันแค่เสี้ยวนาที ทหารอาสาเวียดนามหลายหมื่นนายได้จากครอบครัวและบ้านเกิดเพื่อเคลื่อนทัพข้ามเทือกเขาเจื่องเซินเพื่อช่วยเหลือกองทัพและประชาชนลาวในการต่อต้านนักล่าอาณานิคมทั้งเก่าและใหม่ด้วยความเต็มใจโดยในสมรภูมิเกือบทุกแห่งในประเทศลาว ล้วนมีการประสานงานระหว่างทหารเวียดนามและทหารลาวเพื่อสร้างชัยชนะต่างๆและนำไปสู่ความสำเร็จในการปลดปล่อยประเทศลาวและการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมปี 1975”
นอกจากช่วยเหลือประเทศลาวในการก่อสร้างองค์กรทางการเมือง พัฒนากองทัพและฐานที่มั่นปฏิวัติ ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามยังได้ช่วยลาวพัฒนารูปแบบสงครามประชาชน ฝึกกองกำลังติดอาวุธ การสร้างสรรค์องค์กรพรรค รวมทั้งแถวขบวนเจ้าหน้าที่เพื่อสามารถดำเนินภารกิจการปฏิวัติของลาว ส่วนในการต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกา ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามได้ช่วยพัฒนากองทัพประเทศลาวเพื่อเป็นกองกำลังแกนหลักของกองกำลังติดอาวุธและประชาชนลาวในการสู้รบ อีกทั้งสร้างสรรค์องค์กรสามัคคีรักชาติเพื่อประสานงานกับกองทัพประเทศลาวในการต่อสู้ พันเอก เล มาย อดีตปลัดสำนักงานคณะกรรมการทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามแขวงหลวงพระบางได้เผยว่า ในช่วงที่ปฏิบัติภารกิจในประเทศลาว แม้จะประสบความยากลำบากมากมาย แต่เจ้าหน้าที่ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามก็ได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากทางการปกครอง ทหารและประชาชนลาวอยู่เสมอ
“พวกเราได้ช่วยเหลือพรรคสาขาแขวงหลวงพระบางในการจัดตั้งองค์กรพรรคระดับอำเภอและตำบล อีกทั้งอบรมเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรค ตลอดจนรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และชี้นำให้ประชาชนทำการปฏิวัติ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่หนักหน่วงมาก”
เลขาธิการใหญ่พรรค ประชาชนปฏิวัติลาว ประธานประเทศลาว ทองลุน สีสุลิดและประธานประเทศเหงวียนซวนฟุก เข้าชมนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ |
ส่วนเลขาธิการใหญ่พรรคฯประธานประเทศลาวทองลุน สีสุลิด ยังเล่าถึงช่วงเวลาที่เพิ่งเดินทางมากรุงฮานอยครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 1969 โดยบรรยากาศในช่วงนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจเนื่องจากการถึงแก่อสัญกรรมของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งศัตรูก็คิดว่า การถึงแก่อสัญกรรมของประธานโฮจิมินห์จะทำให้แหล่งพลังจูงใจของการปฏิวัติเวียดนามลดลงจึงได้ฉกฉวยโอกาสนี้เปิดการโจมตีในทั่วประเทศเวียดนามเพื่อมุ่งทำลายจิตใจของคนเวียดนาม แต่ผลกลับกลายเป็นว่าจิตใจแห่งการปฏิวัติ การต่อต้านสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลไซ่ง่อนเพิ่มมากขึ้นด้วยคำขวัญ “ทำการต่อสู้เพื่อปกป้องภาคใต้และรวมประเทศเป็นเอกภาพ”
“ความทรหดอดทนและการเสียสละของเจ้าหน้าที่ทหารเวียดนามและลาวได้สร้างมรดกอันล้ำค่าให้แก่คนรุ่นหลังคือประเทศลาวและประเทศเวียดนามที่มีเอกราช เสรีภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ประชาชนมีความอิ่มหนำผาสุก ประเทศลาวและภาคใต้เวียดนามได้รับการปลดปล่อยและสามารถรวมประเทศเวียดนามเป็นเอกภาพตามความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์ ประธานไกรสร พรหมวิหารและประธานสุภานุวงศ์”
ทั้งนี้ เมื่อหวนมองช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่รุ่งโรจน์ ประชาชนเวียดนามและลาวต่างรู้สึกภาคภูมิใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่และความสามัคคีพิเศษระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นนิมิตหมายของความมุ่งมั่น การเสียสละเลือดเนื้อและน้ำใจไมตรีระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศที่กำลังได้รับการสานต่อและมีการสนับสนุนกันในภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาของแต่ละประเทศ.
Minh Đức