(VOVWORLD) -ชาชักคือเครื่องดื่มประจำชาติของมาเลเซียและหาดื่มได้ทั่วไปในภาคใต้ของไทย แต่ในหลายปีมานี้ ชาชักเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากพนักงานอ๊อฟฟิสและวัยรุ่นในทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
เวลา 15.00 น. พวกเรามาที่ร้านกูโรตีแอนด์ชาชักในตัวเมืองหัวหิน กลิ่นหอมของโรตีทำให้เรารู้สึกหิวมาก หลังจากที่เราสั่งอาหารว่างและลองดื่มชาชักที่หวานอร่อย เราได้นั่งฟังคุณแอน เจ้าของร้านเล่าประวัติความเป็นมาของเครื่องดื่มพิเศษนี้“ชาชักคือจริงๆ สูตรมาจากภาคใต้ของประเทศไทย ก็คือแบบคนอิสลาม เขาจะนิยมทานชาชักกับโรตีตอนเช้า เป็นอาหารเช้า ตอนนี้ก็ขยายมาถึงกรุงเทพฯ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยเลย นอกจากชาชักก็จะมีอย่างอื่นที่ชักได้เหมือนกัน ที่มีนม เพราะว่านมมันจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดฟอง นมสดชัก นมชมพูชัก นมกาแฟชัก ก็ทำได้ค่ะ…ชอบตอนนี้ ทุกเพศทุกวัยแล้วค่ะ แม้แต่เด็กๆเล็กๆ ก็ทานชาได้และทานชาเข้มด้วย ไม่ได้ทานชาแบบอ่อนๆ ไม่ได้ทานแบบเบาๆ ทานเข้มเหมือนผู้ใหญ่”
คุณจะรู้สึกแปลกใจแน่เมื่อทราบว่า เครื่องดื่มสีส้มอร่อยนี้มีส่วนผสมที่ง่ายๆ คือชาดำ นมและน้ำมะนาว ถ้าหากมองผ่านๆ ชาชักก็ดูไม่แตกต่างจากชาไทยชนิดอื่นๆแต่จุดเด่นของชาชักอยู่ที่ฟองที่เกิดจากการชัก ที่ดูเหมือนปุยเมฆกำลังลอยอยู่บนชา ยิ่งมีฟองเยอะ ชาก็ยิ่งอร่อย ดังนั้นเคล็ดลับในการชงชาและการชักจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมไปถึงวัตถุดิบ โดยเฉพาะชาดำก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน “ชาที่เราใช้เป็นชาสูตรเฉพาะของเรา วิธีการที่จะทำให้ชาอร่อยคือวิธีการต้ม เทคนิคการต้มชา กรองชา ก่อนที่จะได้ชาในหม้อก่อนที่จะชัก”
คุณแอน เจ้าของร้านกูโรตีแอนด์ชาชักในตัวเมืองหัวหิน |
คำว่า “ชาชัก” มาจากเทคนิคการชงที่มีการเทชากลับไปกลับมาระหว่างแก้วสองใบจนเกิดฟอง เป็นการทำให้ชาเย็นลง และทำให้ชากับนมผสมเข้ากันได้ดี ซึ่งคนที่ชักชาเก่งๆ สามารถชักชาได้ห่างถึง 1 เมตรโดยไม่หก การชงชาแบบนี้ได้กลายเป็นศิลปะ ซึ่งบางคนที่มาซื้อก็เพราะอยากดูวิธีการชงชาพิเศษนี้ นางสาว หงอกเฮิน นักศึกษาชาวเวียดนามที่กำลังศึกษาในประเทศไทยและคุณ เฟืองถาว นักท่องเที่ยวคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า
“ ชาชักคือเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีสองชนิดคือ ชาดำและชาเขียว คุณสามารถพบเห็นร้านชาชักในตลาดกลางคืนในประเทศไทย โดยจะได้ชมเทคนิคการชักชาที่ถือเป็นศิลปะพิเศษของผู้ชงชา พวกเขาส่วนใหญ่มีผิวคล้ำและสวมหมวกของชาวมุสลิม การชักชากลับไปกลับมาระหว่างแก้วสองใบจะทำให้เกิดฟอง ชากับนมผสมเข้ากันดี น่าดื่มมาก”
“ ฉันมีความประทับใจเป็นอย่างมากต่อวิธีการชงชาชักของไทย เมื่อกล่าวถึงการชงชาก็มักจะนึกถึงวิธีการชงเครื่องดื่มหรือเหล้าธรรมดาๆ แต่การชงชาชักเป็นการแสดงศิลปะอย่างแท้จริง โดยผู้ชงชาจะเทเครื่องดื่มกลับไปกลับมาระหว่างแก้วสองใบที่ห่างกันถึง 1 ช่วงแขนโดยชาในแก้วไม่หก ชาชักอร่อยมาก มีรสเข้มของชาดำ รสหวานของนมและฟองเนียนนุ่มอร่อยเหมือนครีม”
สำหรับคนไทย ชาชักไม่เพียงแต่เป็นแค่เครื่องดื่ม หากยังเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรม โดยชาชักสำหรับคนไทยก็เหมือนกาแฟที่อยู่ในใจของคนเวียดนาม ถ้าหากมีโอกาสไปเยือนประเทศไทยที่สวยงาม อย่าลืมลองดื่มชาชักที่ไม่ใช่แค่ชาธรรมดาแต่เป็นชาที่มีรสชาติของเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยที่น่าสนใจนี้กันนะคะ.