Liên VOV5 -  
(VOVworld) – จอร์จทาวน์เป็นเมืองเอกของรัฐปีนัง ตั้งอยู่บนเกาะปีนัง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของช่องเขามะละกา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเนื่องจากมีความงามทางวัฒนธรรมที่ผสมผสาน กันอย่างลงตัวในประเทศมาเลเซียที่สวยงาม ในรายการชายคาอาเซียนวันนี้ ทางผู้จัดทำขอแนะนำนครจอร์จทาวน์
(VOVworld) – จอร์จทาวน์เป็นเมืองเอกของรัฐปีนัง ตั้งอยู่บนเกาะปีนัง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของช่องเขามะละกา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเนื่องจากมีความงามทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวในประเทศมาเลเซียที่สวยงาม ในรายการชายคาอาเซียนวันนี้ ทางผู้จัดทำขอแนะนำนครจอร์จทาวน์
|
นครจอร์จทาวน์(Photo:nhigiatravelcom ) |
สีครามของท้องฟ้าและมหาสมุทร สีเขียวอ่อนของป่าปาล์ม และเหลือง อ่อนของแสงอาทิตย์ยามเช้าทำให้เมื่อมองจากที่สูงลงมาจะเห็นเมืองจอร์จทาวน์เหมือนของเล่นชิ้นเล็กท่ามกลางภาพของเกาะปีนังที่มีสีสันฉูดฉาด จอร์จทาวน์เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานยาว๑๓กิโลเมตรซึ่งเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อข้ามพ้นสะพานแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบของเมืองเก่า จอร์จทาวน์ได้รับการก่อสร้างในศตวรรษที่๑๕ในยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษ ชื่อเมืองมาจากกษัตริย์จอร์จที่๓ การอยู่ร่วมของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและแตกต่างความเชื่อคือชาวยุโรป จีน มาเลย์และอินเดีย เป็นต้นได้ทำให้วัฒนธรรมตะวันออกผสมผสานอย่างกลมกลืนกับวัฒนธรรมตะวันตก โดยเฉพาะ อาหารการกิน คุณวานฟาน ชาวเมืองจอร์จทาวน์คนหนึ่งกล่าวว่า“นักท่องเที่ยวชอบมาเยือนที่นี่เพราะอาหารอร่อย เพียงเดินเท้าไปตามเส้นทางสายต่างๆท่านจะเห็นแกงกะหรี่แบบอินเดีย ข้าวมันไก่จีนและหมียักเกี้ยนของมาเลเซีย” นักท่องเที่ยวชอบอาหารของที่นี่ โดยเฉพาะ อาหารจีนที่ร้านอาหารชื่อดังTek Sen Restaurant “เผ็ดร้อนมาก ไก่ย่างนี้ เนื้อนุ่ม หนังกรอบ น้ำซอสรสออกเปรี้ยวๆอร่อยมาก ข้าวผัดกุ้งก็อร่อย ผมชอบมาเยือนจอร์จทาวน์เพราะทั้งสามารถหารับประทานแฮมเบอร์เกอร์หรือข้าว ”
|
โบสถ์ในนครจอร์จทาวน์ (Photo:thegiodep.Info ) |
นร้านอาหารที่มีคนมาอุดหนุนแน่นร้านก็จะถึงถนนที่เงียบสงบท่ามกลางกลิ่นกำยานหอมจากวัดโบราณต่างๆที่ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี๑๘๐๐ เช่น Kuan Yin Temple และTua Peh Kong เดินต่อไปอีกนิด ท่านจะรู้สึกแปลกใจเพราะนึกว่ากำลังอยู่ในโลกภาพยนตร์ของศตวรรษก่อนที่มีรถสามล้อวิ่งช้าๆผ่านบ้านรูปกล่องไม้ขีดไฟ หลังคากระเบื้องสีแดงสด และได้ยินเสียงดนตรีจากแผ่นเสียงเก่าๆ สีแดง เหลืองและเขียวของพวงมาลัยที่หน้าวัดฮินดู เสียงดนตรีBollywood ดังขึ้นจากเขตLittle Indiaของชาวอินเดียที่คึกคักเป็นพิเศษในวันที่มีแสงแดด กลิ่นอบเชย ดอกจันทร์และพริกไทยกับเสียงร้องขายของพ่อค้าแม่ขาย การอพยพมาอยู่ที่ที่ของชาวอินเดียทำให้วัฒนธรรมของจอร์จทาวน์มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ออกจากLittle Indiaแล้ว ท่านก็จะเห็นสุเหร่าอิสลามของชาวมาเลย์ที่อยู่ใกล้ๆ ภายในสุเหร่า บรรดาผู้ชายใส่ชุดสีขาว และโสร่งกำลังสวดมนต์ บนถนนในจอร์จทาวน์ ท่านจะพบสตรีชาวมาเลย์ที่นับถือศาสนาอิสลามโพกศีรษะด้วยผ้าหลากสี ใส่เสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวคลุมเท้าซึ่งจุดเด่นบนเครื่องแต่งกายของพวกเธอคือเข็มกลัดผ้าพันคอหรือเครื่องประดับอัญมณีที่โดดเด่น
|
บันไดที่แสดงให้เห็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตก (Photo:cuóconghiendai ) |
ที่จอร์จทาวน์ การผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมต่างๆได้แสดงให้เห็นผ่านวิถีชีวิต โดยเฉพาะด้านภาษาซึ่งที่ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง คุณวันฟาน ชาวจอร์จทาวน์กล่าวว่า “ในเมืองจอร์จทาวน์ มีโรงเรียนของชาวจีน อินเดีย และของรัฐบาลมาเลเซีย ภาษามาเลย์เป็นภาษากลาง แต่นักท่องเที่ยวจะรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่า เด็กทุกคนสามารถพูดภาษาจีน ฮินดู และอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว” ภาษา อาหารการกิน สถาปัตยกรรม กลิ่นกำยานหอมพร้อมกับชาวจอร์จทาวน์ที่มีอัธยาศัยดีจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากเมื่อได้มาสัมผัสนครเล็กๆสวยงามแห่งนี้จนอยากกลับไปเยือนอีกครั้ง./.
Liên VOV5