แนะนำอาหารและเครื่องดื่มอินโดนีเซียให้เป็นที่รู้จักในเวียดนามมากขึ้น
์Nguyen Ha/VOV5 -  
(VOVWORLD) -
ปัจจุบัน ลูกอมและลูกกวาดยี่ห้อต่างๆ เช่น Coffe Joy Gerry Kopiko และ MintZ ได้รับความนิยมจากชาวเวียดนาม แต่มีน้อยคนที่ทราบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผลิตในอินโดนีเซีย เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของอินโดนีเซียให้ผู้บริโภคเวียดนามรู้จักมากขึ้น เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา สถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามได้เปิดตัวห้องแสดงที่มีชื่อว่า “บ้านอินโดนีเซีย” โดยกิจกรรมแรกที่จัดขึ้นในห้องแสดงนี้มีชื่อว่า “ลูกอมและเครื่องดื่มอินโดนีเซีย” ซึ่งแนะนำผลิตภัณฑ์ของ 5บริษัทอาหารของอินโดนีเซีย
พิธีเปิดตัวห้องแสดงที่มีชื่อว่า “บ้านอินโดนีเซีย” |
ในห้องแสดงที่มีพื้นที่
เกือบ 25 ตารางเมตรในสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงฮานอย นาย Eddy ผู้อำนวยการบริษัท PS Distribution สังกัดกลุ่มบริษัท Orang Tua หรือ OT ของอินโดนีเซียกำลังแนะนำให้ผู้เข้าชมเกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายของบริษัทฯ เช่น ขนม ลูกอม เครื่องดื่มและยาสีฟัน เป็นต้น แต่ในห้องแสดงในวันนี้ กลุ่มบริษัท OT แนะนำเพียงผลิตภัณฑ์ลูกอมและเครื่องดื่มเท่านั้น ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท เช่น Tango Teh Gelas MintZ Blaster และ Oops กลุ่มบริษัท OT เจาะตลาดเวียดนามเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน โดยชาวเวียดนามเดินทางไปยังอินโดนีเซียและซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้กลับมาขาย จนถึงปี 2012 กลุ่มบริษัท OT เริ่มเปลี่ยนแนวทางการตลาด โดยขยายบริษัทจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเวียดนาม ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ของ OT เน้นลูกอมที่มีคุณภาพสูง นาย Eddy ได้เผยว่า “ตลาดเวียดนามมีความคล้ายคลึงกับตลาดอินโดนีเซีย เพราะพวกเราเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท OT ก็มีคุณภาพสูง ดังนั้นพวกเราหวังว่า ผลิตภัณฑ์ของ OT จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเวียดนามต่อไป”
ผู้เข้าชมการแสดงสนใจถึงข้อมูลที่ตัวแทนของบริษัทต่างๆแนะนำ โดยเฉพาะผู้ชมส่วนใหญ่รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ลูกอมที่คุ้นเคยในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของถูกวางขายที่นี่ หลังจากชมบูธของกลุ่มบริษัท OT คุณ แทงหงอก พนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงฮานอยได้เผยว่า “วันนี้มาที่นี่ ดิฉันจึงรู้ว่า ลูกอม Mintz คือผลิตภัณฑ์ของอินโดนีเซีย ตามปกติ ถ้าเห็นว่า ลูกอมอร่อยก็จะซื้อเลย ซึ่งไม่ค่อยสนใจถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ นอกจากนั้น ดิฉันเห็นว่า ที่นี่ยังขายลูกอมที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เช่น Garuda Kopiko และ Gery ดิฉันไม่คิดว่า ลูกอมของอินโดนีเซียถูกวางขายเป็นจำนวนมากในเวียดนาม”
นาย Eddy ผู้อำนวยการบริษัท PS Distribution กำลังแนะนำให้ผู้เข้าชมทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายของบริษัท |
ใกล้บูธของกลุ่มบริษัท OT คือบูธของบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม GarudaFood โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ได้นำมาขายในเวียดนามเป็นเวลา 7 ปี โดยเฉพาะคุกกี้เนย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคเวียดนาม เนื่องจากอร่อยและราคาย่อมเยา นี่คือเหตุผลที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในตลาดเวียดนาม เมื่อเร็วๆนี้ รายได้จากการขายขนม Cracker ซึ่งเป็นขนมที่ขายดีที่สุดในเวียดนามได้บรรลุ 4-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากบูธของบริษัท GarudaFood และกลุ่มบริษัท OT บูธของอีก3บริษัท ประกอบด้วย Kalbe Sun Resources และ Nutrisari ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ชม ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเหล่านี้กำลังได้รับการแนะนำและเจาะตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้พวกเขาแนะนำผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภคเวียดนาม และแสวงหาหุ้นส่วนเวียดนาม นาย Ibnu Hadi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามและผู้ที่มีความคิดริเริ่มการจัดห้องแสดง “บ้านอินโดนีเซีย” ได้เผยว่า “ขณะนี้ในเวียดนาม มีบริษัทอาหารและเครื่องดื่มของอินโดนีเซียอย่างน้อย 10 บริษัท และตัวเลขนี้จะเพิ่มมากขึ้นในเวลาที่จะถึง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศักยภาพของตลาดเวียดนามยังมีอีกมาก ถึงแม้ขณะนี้ อินโดนีเซียยังคงตามหลังไทยและสาธารณรัฐเกาหลีในด้านตลาดอาหารเครื่องดื่ม แต่ยังมีโอกาสพัฒนา เพราะคุณภาพและราคาของผลิตภัณฑ์อินโดนีเซียสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้”
หลังจากเข้าชมและลองชิมผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่างๆจากอินโดนีเซีย คุณ เจิ่นดว่านเลิม ชาวฮานอยได้เผยว่า “ผลิตภัณฑ์ของอินโดนีเซียมีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างชัดเจนทั้งรูปแบบและคุณภาพ เมื่อเร็วๆนี้ ตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่งได้แนะนำการผสานการใช้ระหว่างวัตถุดิบนำเข้ากับวัตถุดิบพื้นเมืองของท้องถิ่น นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ของอินโดนีเซียมีราคาย่อมเยา วันนี้ ผมได้ลองเครื่องดื่มและขนมจากมะพร้าว ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ผมและผู้บริโภคอื่นๆเป็นอย่างมาก”
หลังพิธีเปิดตัว ห้องแสดง “บ้านอินโดนีเซีย” จะเปิดไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้ ในเวลาที่จะถึงจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนของสถานประกอบการอินโดนีเซียให้แก่ชาวเวียดนามมากขึ้น.
์Nguyen Ha/VOV5