นักเขียน เลหลิว –บุคคลพิเศษของวงการวรรณกรรมเวียดนาม
(VOVWORLD) - นักเขียนเลหลิวถึงแก่อสัญญกรรมเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายายน ซึ่งเป็นความสูญเสียของวงการวรรณกรรมเวียดนาม เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนร่วมงานมักจะเรียกนักเขียนเลหลิวว่า นักเขียนทหาร นักเขียนประชาชนและถือเป็นนักเขียนอาวุโสของวงการวรรณกรรมเวียดนามในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เขาถือเป็นบุคคลพิเศษของวงการวรรณกรรมเวียดนาม ผลงานวรรณกรรมของเลหลิวกล่าวถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเขา ซึ่งผลงานวรรณกรรมของนักเขียนเลหลิวได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้อ่านเป็นอย่างมาก
นักเขียน เลหลิว |
ในตลอดเกือบ 50 ปีของการเป็นนักเขียน นักเขียนเลหลิวได้เขียนหนังสือกว่า 40 เล่ม ซึ่งถือเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของวงการวรรณกรรมเวียดนาม นักเขียนเลหลิวเคยได้รับรางวัลต่าง ๆ โดยเฉพาะรางวัลแห่งชาติสาขาวรรณกรรมศิลปะที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2001 สำหรับผลสำเร็จด้านวรรณกรรมต่างๆ เลหลิวถือเป็นหนึ่งในนักเขียนนวนิยายชั้นนำในช่วงศตวรรษที่ 20 และช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ผลงานวรรณกรรมของนักเขียนเลหลิวกล่าวถึงยุคสมัยและมีคุณค่าด้านศิลปะมากมายนักเขียนฟองเดียบ ได้แสดงความเห็นว่า
“ ในด้านวรรณกรรมในช่วงระยะแรกของการเปลี่ยนแปลงใหม่ ต้องกล่าวถึงบทบาทของนักเขียนเลหลิวที่มีผลงานวรรณกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับผู้ที่ประสบอุปสรรค จากการที่มีจิตใจแห่งความรักใดร่ นักเขียนเลหลิวได้รับฟังและมีความเข้าใจคนกลุ่มนี้”
นักเขียนเลหลิวเกิดเมื่อปี 1942 ที่ตำบลเตินโจว์ อำเภอคว้ายโจว์ จังหวัดฮึงเอียน เคยเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์กองทัพภาคที่ 3 นักข่าวที่รายงานข่าวในสมรภูมิ 559และเส้นทางเจื่องเซิน หลังสงคราม นักเขียนเลหลิวได้ทำงานที่นิตยสารศิลปะแห่งกองทัพ ซึ่งผลงานวรรณกรรมโดดเด่นของนักเขียนเลหลิวคือเรื่อง “เดินทางสู่แสงอาทิตย์” “อยู่ข้างหลังคุณ”และ “กำแพง” เป็นต้น ซึ่งนวนิยาย 2 เล่มคือ “เวลาที่ผ่านไป”และ “คลื่นใต้น้ำ” เป็นนวนิยายสองเรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดของนักเขียนเลหลิวโดยกล่าวถึงชีวิตสังคมและเขตชนบทเวียดนามในยุคก่อนและถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ซึ่งสร้างความประทับใจเป็นอย่างมากต่อผู้อ่าน นาง บุ่ยเฟืองถาว ผู้อ่านชาวฮานอย ได้เผยว่า
"
ดิฉันชอบนผลงานวรรณกรรมต่างๆของนักเขียนเลหลิว โดยเฉพาะผลงาน “ คลื่นใต้น้ำ” ซึ่งนักเขียนเลหลิวมักจะเขียนผลงานวรรณกรรมเกี่ยวกับประชาชนในเขตชนบท ผลงานของเขาดึงดูดความสนใจของผู้อ่านในตัวเมืองเป็นจำนวนมาก”
นวนิยายเรื่อง“เวลาที่ผ่านไป” |
สำหรับนักเขียนเวียดนามหลายรุ่น เลหลิวถือเป็นเพื่อนที่มีบุคลิกที่เรียบง่ายเหมือนประชาชนในเขตชนบทเวียดนาม เขาได้สร้างตัวละครในนวนิยายต่างๆและเขาก็เป็นบุคคลพิเศษของวงการวรรณกรรมเวียดนาม นอกจากนี้ นักเขียนเลหลิวยังได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเขียนที่มีความสามารถพิเศษในงานด้านการต่างประเทศ โดยเป็นนักเขียนแห่งการปฏิวัติเวียดนามคนแรกที่ฝ่ายสหรัฐเชิญร่วมงานกับนักเขียนที่เป็นทหารผ่านศึกเวียดนามและสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรและปรับความสัมพันธ์กับเวียดนามให้เป็นปกรติ นักเขียนฟองเดียบ ได้เผยว่า
“ในช่วงที่ปรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐให้เป็นปกติ นักเขียนเลหลิวได้นำคณะผู้แทนของเวียดนามไปยังสหรัฐ ด้วยจิตใจแห่งที่เปิดกว้างของชาวเวียดนาม เรื่องราวที่เขาเล่าได้มีส่วนช่วยให้ชาวอเมริกันมีมุมมองใหม่เกี่ยวกับเวียดนามและเรื่องราวเกี่ยวกับสหรัฐของนักเขียนเลหลิวได้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
แม้นักเขียนเลหลิวได้จากโลกนี้ไปแล้วแต่ชื่อเสียงและผลงานวรรณกรรมของเขายังคงสถิตอยู่ในใจของผู้อ่านหลายรุ่นต่อไปตราบนานเท่านาน.