ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” การผสมระหว่างดนตรีพื้นเมืองและดนตรีร่วมสมัย
Le Phuong-Ngoc Nga/VOV -  
(VOVworld)-ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” เป็นผลงานศิลปะด้านดนตรีที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวของเยาวชนอาสาเดินหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บนเส้นทางเจื่องเซินซึ่งเป็นแนวหน้าที่ดุเดือดในช่วงสงครามกู้ชาติ โดยผู้ชมทุกคนที่ได้ชมการแสดงต่างรู้สึกทราบซึ้งตรึงใจต่อจิตใจที่แจ่มใสแห่งการปฏิวัติความรักชีวิตและความเชื่อมั่นต่ออนาคตที่สดใสของบรรดาเยาวชนอาสาเดินหน้าทุกคน
(VOVworld)-ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” เป็นผลงานศิลปะด้านดนตรีที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวของเยาวชนอาสาเดินหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บนเส้นทางเจื่องเซินซึ่งเป็นแนวหน้าที่ดุเดือดในช่วงสงครามกู้ชาติ โดยผู้ชมทุกคนที่ได้ชมการแสดงต่างรู้สึกทราบซึ้งตรึงใจต่อจิตใจที่แจ่มใสแห่งการปฏิวัติความรักชีวิตและความเชื่อมั่นต่ออนาคตที่สดใสของบรรดาเยาวชนอาสาเดินหน้าทุกคน
เยาวชนหญิงอาสาเดินหน้า8คนที่รับหน้าที่นำทางให้ทหารบนเส้นทางเจื่องเซิน(vanhien.vn)
|
ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” หรือ “ใบไม้สีแดง” เป็นการผสานการแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงของเวียดนามในหลายแขนง เช่นผู้กำกับละคร เหงวียนถิห่งงาด นักดนตรี โด๋ห่งกวน ศิลปินประชาชนและผู้กำกับแองตู้ ศิลปินประชาชนและผู้กำกับการฟ้อนรำ แองเฟือง พร้อมการเข้าร่วมของวงซิมโฟนี่ออเคสตร้าเวียดนามรวมศิลปิน150คน ซึ่งทำให้ละครโอเปร่าชุดนี้ไม่เพียงแต่มีขอบเขตที่ใหญ่โตในด้านโครงสร้างการแสดงเท่านั้นหากยังมีบทละครที่มีความหมายอันลึกซึ้งต่อยุคสมัยอีกด้วย ละครชุดนี้ได้รับการพัฒนาจากบทกวี “ล้าด๋อ” ของนักกวีเหงวียนดิ่งที ประกอบดนตรีของนักดนตรีหว่างเหียบ เมื่อเดือนกันยายนปี2014การจัดทำสคริท์ได้เสร็จสิ้นลงและเริ่มเข้าสู่การออกแบบเพื่อจัดทำฉากละครเวที สำหรับผู้ชม ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” ได้พาทุกคนหวนกลับไปอยู่ในช่วงสงครามที่ดุเดือดแต่รุ่งโรจน์ของประชาชาติของเยาวชนอาสาเดินหน้าข้ามภูหลวงเจื่องเซินเพื่อออกสู่แนวรบ ผู้กำกับบทละคร เหงวียนถิห่งงาด ได้กล่าวถึงแนวคิดในการจัดทำละครชุดนี้ว่า“ดิฉันมีความทรงจำและมีความผูกพันกับเจื่องเซินอย่างลึกซึ้งเพราะตั้งแต่ตอนอายุ18ปีหลังจากจบการศึกษาดิฉันก็ได้รับมอบหน้าที่ในเจื่องเซิน ซึ่งเนื่องจากเป็นคนแต่งกลอนดังนั้น อารมณ์สุนทรีย์อันเกิดจากความรู้สึกภายในจิตใจจากการพบเห็นทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบๆตัวได้ช่วยให้ดิฉันสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นสคริปท์ได้ ซึ่งตัวละครคือบรรดาเยาวชนหญิงเดินหน้าและทหารช่าง โดยในระหว่างการทำงานและต่อสู้ก็เกิดความรักที่งดงาม”
ฉากแสดงตอนเครื่องบินของศัตรูทิ้งระเบิดเส้นทางเจื่องเซิน(vanhien.vn)
|
ด้วยความยาว120นาที ละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” ได้บรรยายเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับเยาวชนหญิงอาสาเดินหน้ารวม8คนที่รับหน้าที่เปิดและนำทางให้แก่ขบวนรถทหารต่างๆแล่นผ่านภูเจื่องเซินอย่างปลอดภัย สำหรับหน่วยเยาวชนหญิงนี้การปฏิบัติหน้าที่รักษาให้เส้นทางลำเลียงเสบียงกรังไม่ถูกตัดขาดเพราะกระสูนระเบิดของศัตรูเพื่อมุ่งสู่สมรภูมิ ได้พบปะทักทายกับกองกำลังทหารที่เคลื่อนทัพผ่านทุกวัน ได้พูดคุยเรื่องครอบครัวและความรักความใฝ่ฝันก็ถือเป็นความสุขในชีวิตแล้วและส่วนที่น่าทึ่งที่สุดของละครชุดนี้คือฉากเกี่ยวกับการหลบระเบิดในระหว่างการช่วยขบวนรถขนส่งผ่านเส้นทางนี้จนสาวทั้ง8คนถูกกลบฝังอยู่ในถ้ำลึก ถึงแม้จะรู้ว่าการรอดชีวิตนั้นเป็นเรื่องยากแต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อหวาดกลัวหากพยายามให้กำลังใจกันและสร้างความหวังให้แก่กันจนถึงนาทีสุดท้าย ศิลปินประชาชน ฝามแองเฟือง ผู้อำนวยการโรงละครเวทีเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้กำกับการรำในละครเผยว่า“สำหรับชนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังสงครามเมื่อได้ชมการแสดงก็สามารถเข้าใจชีวิตที่ยากลำบากระหว่างความเป็นความตายของเยาวชนอาสาเดินหน้าในแนวรบที่พร้อมสละวัยเยาว์บนเทือกเขาเจื่องเซิน แม้จะเป็นละครที่มีหัวเรื่องเกี่ยวกับสงครามอันดุเดือดแต่ได้รับการถ่ายทอดผ่านทั้งการร้อง รำและสนทนากัน โดยใจความสำคัญของละครอยู่ที่เรื่องความเป็นมาของถ้ำต๊ามโก”
เยาวชนหญิงอาสาเดินหน้าทั้ง8คนก็ได้รับการยกย่องเป็นนางฟ้าที่จะคอยปกป้องดูแลเส้นทางเจื่องเซิน(nhandan.vn)
|
ในละคร “ล้าด๋อ” นักดนตรีโด๋ห่งกวนได้เลือกใช้ดนตรีประกอบที่เป็นเพลงพื้นเมืองของหลาภาคและเพลงที่มีลีลาฮึกเหิมแห่งภูหลวงเจื่องเซินและการปฏิวัติของนักดนตรีหว่างเหียบ หวูจ๋องโฮ้ยและวันยูง ส่วนผู้กำกับบทละครได้เน้นใช้ทำนองกวีที่มีชื่อเสียงของฝามเตี๊ยนหยวดและเหงวียนดิ่งที ซึ่งได้ช่วยให้ละครโอเปร่านี้มีความเข้าใจง่ายและซึ้งจนทำให้ผู้ชมเสียน้ำตาไปมาก ผู้กำกับบทละครเหงวียนถิห่งงาดยังสอดแทรกเอกลักษณ์ของเพลงพื้นเมืองทำนองแจ่วเข้าไปในการแสดงซึ่งช่วยให้ละครชุดนี้มีทั้งความทันสมัยและความเป็นเอกลักษณ์พื้นเมืองที่โดดเด่นของเวียดนาม
สิ่งที่พิเศษในการแสดงละครโอเปร่า “ล้าด๋อ” คือนักแสดงต้องร้องสดไม่มีไมค์โดยต้องควบคุมระดับเสียงตามการนำของวาทยากรวงซิมโฟนี่ นอกจากนี้ ภาพของใบไม้สีแดงที่สะท้อนผ่านเนื้อร้องและกริยาท่าทางของตัวละครตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงตอบจบบทละครได้ช่วยสร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้ชมในเรื่องราวที่แสนกินใจและน่าประทับใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งตำนานบนภูหลวงเจื่องเซิน แม้จะลำบากยากเย็นแสนเข็ญและเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่ บรรดาเยาวชนหญิงอาสาเดินหน้าเหล่านั้นได้เปรียบเสมือนใบไม้สีแดงที่พร้อมจะสละทั้งใจกายเพื่อชาติเพื่อปิตุภูมิ.
Le Phuong-Ngoc Nga/VOV