70 ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนาของรัฐสภาเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ การเติบโตของรัฐสภาเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า รัฐสภาได้สะท้อนความสามัคคีชนในชาติ มีการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างต่อเนื่องและมีการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์และมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อภารกิจการพัฒนาของประชาชาติ

ใน 70 ปีที่ผ่านมา รัฐสภาได้ปฏิบัติหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญและนิติบัญญัติเป็นอย่างดี นับตั้งแต่สมัยแรกมาจนถึงปัจจุบัน รัฐสภาได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญรวม 5 ฉบับ ซึ่งยังไม่รวมถึงรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม ประกอบด้วย รัฐธรรมนูญปี 1946 รัฐธรรมนูญปี 1959 รัฐธรรมนูญปี 1980 รัฐธรรมนูญปี 1992 และรัฐธรรมนูญปี 2013 ซึ่งมีการสานต่อและปรับปรุงรัฐที่เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนให้มีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับความต้องการและหน้าที่ของประเทศในแต่ละช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ ควบคู่กับการพัฒนาของประเทศอย่างรวดเร็ว ในตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐสภาได้ประกาศใช้กฎหมายสำคัญฉบับต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมแปรสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชนให้เป็นรูปธรรมตามที่กฎหมายกำหนดและวางบรรทัดฐานของสังคมให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

ในกระบวนการพัฒนา รัฐสภาเวียดนามได้มีการตัดสินใจสำคัญๆ เช่น การจัดตั้งและอนุมัติบุคลากรที่ดำรงตำแหน่งสูงๆของรัฐ พิจารณาและอนุมัติมติเกี่ยวกับหน้าที่และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในแต่ละปีและในระยะ 5 ปี แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในระยะ 10 ปี อนุมัติอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เวียดนามให้ภาคียานุวัติ พร้อมทั้งอนุมัตินโยบายการลงทุนก่อสร้างกิจการสำคัญของชาติ เช่น ทางหลวงโฮจิมินห์ การเดินสายไฟฟ้าแรงสูง 500 KV เหนือจรดใต้ โรงก๊าซ-ไฟฟ้า-ปุ๋ยบ่าเหรี๋ย – หวุงเต่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซินลา โรงกลั่นน้ำมันยุงก๊วด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นิงถวน เป็นต้น เพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย นายอวงจูลิว รองประธานรัฐสภาได้ให้ข้อสังเกตว่า “ ในตลอด 70 ปีที่ผ่านมา รัฐสภาได้เดินไปพร้อมกับพรรคและองค์กรต่างๆในระบบการเมืองเพื่อตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศให้นับวันยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศ มติฉบับต่างๆที่ได้ถูกประกาศใช้โดยรัฐสภาในช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศ เช่น มติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 1986-1990ได้เปิดทางให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ มติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 1991 ได้ช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้นในสภาวการณ์ที่โลกและสถานการณ์ภายในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างซับซ้อน รักษาแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ดำเนเศรษฐกิจตามกลไกตลาดและพัฒนาความเข้มแข็งของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน”

ในการประชุมแต่ละสมัย รัฐสภาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อพิจารณาและหารือเกี่ยวกับรายงานของรัฐบาล ศาลประชาชนสูงสุดและสถาบันอัยการประชาชนสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ขยายการตรวจสอบเชิงวิชาการและเน้นหารือปัญหาที่เดือดร้อนในชีวิตของประชาชนที่ได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ยกระดับประสิทธิภาพในการตั้งและตอบกระทู้ถาม สร้างบรรยากาศที่เปิดเผยและเป็นประชาธิปไตยในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา  การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาเลือกหรืออนุมัติเป็นแรงกดดันให้รัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการชี้นำและบริหารอย่างเข้มแข็ง ศ.ดร.เฉิ่นหงอกเดื่อง อดีตรองหัวหน้าสำนักรัฐสภาเผยว่า “การตรวจสอบสูงสุดของรัฐสภาได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วไปและยังไม่ชัดเจนตามเจรตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญและกฎหมายองค์กรรัฐสภาไปเป็นการอาศัยกฏหมายที่มีข้อกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมและเข้มงวด ตั้งแต่การร่างแผนการตรวจสอบในระยะ 6 เดือน ระยะ 1 ปีไปจนถึงข้อกำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับองค์การ เป้าหมาย เนื้อหา รูปแบบและวิธีการตรวจสอบ เป็นต้น ดังนั้น การตรวจสอบได้มีขึ้นเป็นประจำ เน้นด้านหลักและสะท้อนปัญหาที่ร้อนระอุที่กำลังรับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน สองคือ การตรวจสอบสูงสุดของรัฐสภานับวันมีประชาธิปไตย เปิดเผยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือของประชาชนในการตรวจสอบอำนาจของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ”

ในด้านการต่างประเทศ การทูตระดับรัฐสภาได้รับการขยายต่อไป ซึ่งกิจกรรมการต่างประเทศทวิภาคีของรัฐสภาได้มีส่วนร่วมเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับรัฐสภาของหลายประเทศ สร้างบรรยากาศระหว่างประเทศที่อำนวยความสะดวกให้แก่ภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ผ่านความสัมพันธ์พหุภาคี ในฐานะเป็นสมาชิกขององค์กรสหภาพรัฐสภาต่างๆ รัฐสภาเวียดนามไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการปฏิบัติขององค์กรเหล่านี้เท่านั้น หากยังเป็นฝ่ายรุกเสนอความคิดริเริ่มที่สร้างสรรค์เพื่อผลักดันความร่วมมือรัฐสภาอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐสภาเวียดนามยังประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสำคัญต่างๆ เช่น การประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียูครั้งที่ 132 พร้อมกับการออกประกาศปฏิญญาฮานอย นายเหงียนแห่งฟุ๊ก หัวหน้าสำนักรัฐสภาได้ประเมินว่า “บนพื้นฐานของแนวความคิดของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับแนวทางการต่างประเทศที่เปิดกว้างในช่วงแรกที่เวียดนามได้รับเอกราช ในตลอด 70 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมด้านการต่างประเทศของรัฐสภาเวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อความสำเร็จของกิจกรรมการทูตของรัฐเวียดนาม โดยเฉพาะการประชุมไอพียูครั้งที่ 132ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อเดือนมีนาคมปี 2015 ได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจการเป็นฝ่ายรุกและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างขวางและเข้มแข็งของรัฐสภาเวียดนาม ซึ่งมีส่วนร่วมยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก”

ในตลอด 70 ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนา รัฐสภาเวียดนามได้มีส่วนร่วมมากมายในภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ รวมประเทศเป็นเอกภาพ สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาของรัฐสภาเวียดนามในเวลาข้างหน้าและเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อปกป้องการพัฒนาประเทศให้ประสบความสำเร็จ.