การช่วยเหลือและความสามัคคีของนานาประเทศมีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อเวียดนามในสภาวการณ์ใหม่
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWORLD) -ความสามัคคี การสนับสนุนและความช่วยเหลือของมิตรประเทศต่อเวียดนามเป็นพลังที่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ทั้งในช่วงต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชในอดีตและช่วงเปิดประเทศ ขยายความสัมพันธ์และผสมผสานเข้ากับประชาคมโลก เพื่อบรรลุเป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย นอกจากอาศัยพลังภายใน เวียดนามยังต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนของมิตรประเทศทั้งด้านวัตถุและประสบการณ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การแก้ปัญหาความยากจนและการรับมือกับภาวะภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายโดนต๊วนฟอง รองประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนาม
|
ในกว่า3ทศวรรษแห่งภารกิจโด๋ยเม้ยหรือเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและผสมผสาน เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จต่างๆและกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางในขั้นพื้นฐาน ซึ่งในผลงานนี้ก็มีส่วนร่วมจากการช่วยเหลือขององค์การเอ็นจีโอระหว่างประเทศ การที่ได้บรรลุเป้าหมายอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางก็หมายความว่าเวียดนามจะไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากนโยบายให้สิทธิพิเศษของบรรดาผู้อุปถัมภ์และองค์การระหว่างประเทศต่อไป แต่ก็ยังคงได้รับการช่วยเหลือตามแนวทางที่เน้นช่วยเหลือในด้านที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ
การช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมในระยะใหม่
นายโดนต๊วนฟอง รองประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนาม ซึ่งเป็นสำนักงานที่ทำหน้าที่ประสานกิจกรรมการทูตประชาชนและการอุปถัมภ์ของเอ็นจีโอต่างประเทศเผยว่า โครงการช่วยเหลือต่างๆของต่างประเทศจะเน้นในด้านที่ถือเป็นความท้าทายต่อเวียดนามในกระบวนการผสมผสานเช่น สาธารณสุข การศึกษา การเกษตรและชนบท สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“ปี2017เป็นปีที่จำนวนองค์กรเอ็นจีโอที่ดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือเวียดนามได้เพิ่มมากขึ้นและมูลค่าการปล่อยสินเชื่อก็อยู่ในอัตราสูงโดยเน้นในด้านที่เวียดนามให้ความสนใจก่อน ปี2017ก็เป็นปีสุดท้ายในการปฏิบัติโครงการแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมรณรงค์การช่วยเหลือจากองค์การเอ็นจีโอต่างประเทศช่วงปี2013-2017 และโครงการนี้ก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้อย่างน่าประทับใจ”
โดยมูลค่าเงินช่วยเหลือขององค์การเอ็นจีโอต่างประเทศในรอบ5ปีที่ผ่านมาอยู่ที่1.5พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เน้นในโครงการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม การดูแลสุขภาพชุมชน การป้องกันโรคระบาด การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาสังคม โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขและการศึกษาตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เดินพร้อมกับการพัฒนาของเวียดนาม
ในกระบวนการปฏิบัตินโยบายเปลี่ยนแปลงใหม่และเปิดประเทศนั้น ด้วยแนวทาง “เวียดนามเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของประชาคมระหว่างประเทศ” เครือข่ายมิตรประเทศที่ให้การช่วยเหลือเวียดนามนับวันกว้างขวางมากขึ้น จนถึงปัจจุบันเวียดนามมีหลายพันหุ้นส่วนในทุกทวีปซึ่งในนั้นมีองค์กรเอ็นจีโอต่างชาติจำนวนมาก โดยมีเอ็นจีโอกว่า600องค์กรที่ธำรงการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องกับเวียดนาม จากเครือข่ายนี้ภาพลักษณ์ของประเทศและคนเวียดนาม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและนโยบายการพัฒนาของเวียดนาม โดยเฉพาะภาพรวมของศาสนา ประชาธิปไตย สิทธิมนุษชนและอธิปไตยของเวียดนามก็ได้รับการเผยแพร่ถึงประชาชาติต่างๆอย่างกว้างขวาง นาง มาร์ซา ฟอร์ รองประธานองค์การทหารผ่านศึกสหรัฐที่เคยเข้าร่วมสงครามเวียดนามกล่าวว่าการส่งเสริมการทูตประชาชนบนเจตนารมณ์ปิดฉากอดีตมุ่งสู่อนาคตได้ช่วยให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐมีก้าวเดินที่ยาวไกลบนเส้นทางแห่งการพัฒนา “นี่คือหนึ่งในวิธีการที่ช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ดิฉันเชื่อว่าการสนทนาและความร่วมมือในทุกปฏิบัติการจะสร้างความหวังให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ นี่ก็เป็นบทเรียนให้โลกได้เรียนรู้ว่าทั้งสองฝ่ายที่เคยเป็นศัตรูกันสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันและร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆได้”
ส่วนนาย บีเจย์ กูมาร์ เลขาธิการสมาคมมิตรภาพและความร่วมมือวัฒนธรรมอินเดีย ได้แสดงความเห็นในโอกาสเยือนเวียดนามในปี2017ว่า เราจะอยู่เคียงข้างประชาชนเวียดนามในทุกสถานการณ์เพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างและทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินเดียลึกซึ้งมากขึ้น
ประธานโฮจิมินห์เคยกล่าวว่า “สำหรับการปฏิวัติเวียดนาม ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ความสามัคคีและการสนับสนุนของมิตรประเทศล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง” ซึ่งในสภาวการณ์ใหม่ปัจจุบัน จากความท้าทายที่เวียดนามต้องเผชิญรวมทั้งในปัญหาเกี่ยวกับอธิปไตย ทะเลและเกาะแห่ง ความสามัคคีระหว่างประเทศก็ยิ่งมีความสำคัญเพราะไม่เพียงแต่เป็นสะพานเชื่อมเพื่อเอื้อให้แก่การชี้แจงเผยแพร่แนวทางนโยบายที่ถูกต้องของเวียดนามสู่มิตรประเทศเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประเทศและองค์การระหว่างประเทศที่ให้การสนับสนุนเวียดนามเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมสร้างบรรยากาศที่สันติภาพและเอื้อให้แก่ภารกิจการพัฒนาและปกป้องประเทศของเวียดนามอีกด้วย.
Anh Huyen/VOV5