(VOVworld) – ถึงวันที่ 14 เมษายนปี 2016 แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามสาขาท้องถิ่นต่างๆได้เสร็จสิ้นการรวบรวมความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 14 เพื่อให้การเจรจาทางการเมืองครั้งที่ 3 จะสามารถเลือกรายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 14 และสภาประชาชนทุกระดับวาระปี 2016-2021 อย่างเป็นทางการ ในการประชุมเหล่านี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติ คุณธรรมและความสัมพันธ์ของผู้ลงสมัครกับประชาชนในชุมชนที่ตนอาศัย พร้อมทั้งแสดงความปรารถนาว่า หากได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกสภาประชาชน พวกเขาจะเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างจริงจัง

การประชุมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนมีความหมายสำคัญในการเลือกตั้ง

การประชุมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนมีความหมายสำคัญต่อการเลือกตั้งเพราะช่วยให้ผู้ลงสมัครตระหนักได้ดีถึงการเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่อันทรงเกียรติ บนพื้นฐานความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้ลงสมัครจะฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง ยกระดับทักษะวิชาชีพและความรับผิดชอบเพื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและทักษะความสามารถอย่างเพียงพอ
ในการประชุมที่เขตบาดิ่ง กรุงฮานอย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเผยว่า รัฐสภานับวันยิ่งปฏิบัติสิทธิที่เป็นตัวแทนของประชาชนมากขึ้น โดยในการประชุมรัฐสภาครั้งต่างๆ การอภิปรายระหว่างสมาชิกรัฐสภากับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆนับวันยิ่งกว้างลึกมากขึ้น เพื่อวิเคราะห์ถึงต้นเหตุของปัญหาโดยเฉพาะในปัญหาที่ร้อนระอุต่างๆ นายหวูแหมงคา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนหนึ่งเผยว่า นี่คือก้าวเดินด้านประชาธิปไตยที่สำคัญในการประชุมรัฐสภาเวียดนาม “ผมเห็นว่า บรรยากาศประชาธิปไตยนับวันได้รับการปฏิบัติมากขึ้น สถานะของประเทศนับวันพัฒนายิ่งขึ้น และผมมีความปรารถนาว่า ผู้ลงสมัครที่ได้รับเลือกในการเลือกตั้งรัฐสภาสมัยนี้จะมีคุณสมบัติที่สูงกว่าสมัยก่อน ดังนั้น ในการเสนอรายชื่อผู้ลงสมัครนั้น เราไม่เพียงแต่ให้ความสนใจถึงสัดส่วนเท่านั้น หากยังต้องคำนึงถึงทักษะความสามารถของผู้แทนรัฐสภาอีกด้วย”
ส่วนนายเลมิงโทง รองเลขาธิการรัฐสภาได้เผยว่า ถึงขณะนี้ ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศได้เสร็จสิ้นการรวบรวมความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและจัดการเจรจาทางการเมืองครั้งที่ 3 แล้ว นี่คือเนื้อหาที่สำคัญและจำเป็นเพื่อค้ำประกันว่า ผู้ที่ได้รับเลือกจากประชาชนมีคุณสมบัติและทักษะความสามารถเพียงพอเพื่อดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกสภาประชาชนทุกระดับ พร้อมทั้งเป็นพื้นฐานสำหรับการเจรจาทางการเมืองครั้งที่ 3 สามารถทำการพิจารณาได้อย่างรอบคอบเพื่อถอนชื่อผู้ลงสมัครที่ขาดคุณสมบัติและทักษาความสามารถ นายเลมิงโทงย้ำว่า “ผลการเจรจาทางการเมืองครั้งที่ 3 สะท้อนผลการประชุมของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนกับผู้ลงสมัครเพื่อให้แนวร่วมปิตุภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเจรจาทางการเมืองเพื่อเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนดแล้วยื่นเสนอต่อสภาการเลือกตั้งแห่งชาติและคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกระดับเพื่อจัดทำรายชื่อ แน่นอนว่า หลังการรวบรวบรวมความคิดเห็นของประชาชน ผู้ลงสมัครบางคนจะไม่มีรายชื่อเพราะความไว้วางใจในชุมชนมีความสำคัญมาก”
การประชุมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนถือเป็นฟอรั่มให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแสดงความไว้วางใจและความปรารถนาเพื่อให้ผู้ลงสมัครที่ได้รับเลือกตระหนักได้ดีถึงความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน อุทิศเพื่อประชาชนและเป็นตัวแทนของประชาชนในการตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศ

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและทักษะความสามารถอย่างเพียงพอ

ขั้นตอนตามข้อบังคับในการเลือกตั้ง
นายบุ่ยวันเหซี่ยน สมาชิกคณะกรรมาธิการกฎหมายแห่งรัฐสภากล่าวว่า การประชุมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนเป็นโอกาสให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทำหน้าที่ตรวจสอบต่อเจ้าหน้าที่และเป็นโอกาสให้เจ้าหน้าที่ฝึกฝนหล่อหลอมตนเองเพื่อรับใช้ประชาชนและตอบสนองความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง “นี่คือขั้นตอนตามข้อบังคับ เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนแสดงออกถึงความไว้วางใจต่อผู้ลงสมัคร นี่คือการประเมินครั้งแรกของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อมาตรฐานต่างๆของผู้ลงสมัคร เช่น การดำเนินชีวิต คุณธรรมและความสัมพันธ์กับประชาชนในชุมชน ดังนั้นต้องได้รับความไว้วางใจในขั้นพื้นฐานนี้จึงจะได้เสนอในรายชื่อผู้ลงสมัครในการเจรจาทางการเมืองครั้งที่ 3”
การประชุมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนเป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับรายชื่อผู้ลงสมัครที่จะเข้าร่วมการเจรจาทางการเมืองรอบที่ 3 ดังนั้นการรวบรวมความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้จัดขึ้นในท้องถิ่นต่างๆอย่างรอบคอบและจริงจังเพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกผู้แทนที่มีคุณธรรม คุณสมบัติ อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนและอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประชาชน.