การลงคะแนนไว้วางใจเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
Vân -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 6 สมัยที่ 15 ได้เสร็จสิ้นการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่ได้รับเลือกหรืออนุมัติจากสภาแห่งชาติรวม 44 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมการตรวจสอบที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงการประเมินผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบันและยิ่งไปกว่านั้นคือการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาประเทศ
บรรดาผู้นำพรรค รัฐ รัฐบาลและแนวร่วมปิตุภูมิลงคะแนนไว้วางใจ (quochoi.vn) |
นี่คือการลงคะแนนไว้วางใจครั้งที่ 4 ของสภาแห่งชาติต่อจากการลงคะแนนไว้วางใจ ต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่ได้รับเลือกหรืออนุมัติจากสภาแห่งชาติเมื่อปี 2013 ปี 2014 และปี 2018
กิจกรรมที่สำคัญของงานด้านบุคลากร
การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งผู้บริหารในระบบการเมืองคือเนื้อหาที่สำคัญของงานด้านบุคลากร โดยได้รับการปฏิบัติเป็นประจำและผลการลงคะแนนไว้วางใจมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินเจ้าหน้าที่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ที่ประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 6 สมัยที่ 15 ทำการลงคะแนนไว้วางใจตามมติที่ 96 ของสภาแห่งชาติที่ได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการระบุอย่างชัดเจนถึงผลลัพธ์จากการลงคะแนนไว้วางใจ โดยผู้ที่มีคะแนนไว้วางใจครึ่งหนึ่งของการลงคะแนนสามารถพิจารณาตนเองเพื่อขอลาออกจากตำแหน่งได้และถ้าหากไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติจะยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติจัดการลงคะแนนไว้วางใจอีกครั้งในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 6 หรือในการประชุมครั้งต่อไปของ ส่วนสำหรับผู้ที่ได้รับคะแนนไว้วางใจไม่ถึง 1 ใน 3 หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เสนอชื่อให้สภาแห่งชาติเลือกหรืออนุมัติให้ดำรงตำแหน่งต้องยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติมีมติให้ผู้ที่กำลังดำรงดังกล่าวให้พ้นจากตำแหน่งในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 6 หรือการประชุมครั้งต่อไป
การลงคะแนนไว้วางใจตำแหน่งที่ได้รับเลือกหรืออนุมัติจากสภาแห่งชาติแสดงให้เห็นถึงการรับทราบของสภาแห่งชาติต่อความพยายามและผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบันของผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ สำหรับผลการลงคะแนนไว้วางใจตำแหน่งที่ได้รับเลือกหรืออนุมัติจากสภาแห่งชาติที่ประกาศเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปรากฎว่า ทั้ง 44 ตำแหน่งต่างได้รับเสียงสนับสนุนข้างมาก ซึ่งการลงคะแนนลับได้ค้ำประกันความยุติธรรมและภาวะวิสัยของการประเมินงานด้านบุคลากร ส่วนผลการลงคะแนนไว้วางใจแสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมที่ดีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เผยว่า
“นี่คือผลงานจากการเตรียมความพร้อมอย่างเร่งด่วน รอบคอบ จริงจังและมีความรับผิดชอบสูงของคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ โดยสภาแห่งชาติได้เห็นพ้องในระดับสูงในการอนุมัติมติรับรองผลการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่สภาแห่งชาติเลือกหรืออนุมัติ”
ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
จากมุมมองของการบริหารภาครัฐ ผลการลงคะแนนไว้วางใจเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมแสดงให้เห็นถึงการรับทราบและการประเมินของสภาแห่งชาติต่อความพยายามและผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบันของทั้ง 44 ตำแหน่งที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการประเมินทักษะความสามารถของผู้ที่ถูกลงคะแนนไว้วางใจเท่านั้น หากยังสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังและความปรารถนาของระบบการเมืองต่อหน่วยงานและด้านต่างๆที่รับผิดชอบอีกด้วย การได้รับคะแนนไว้วางใจในระดับต่ำก็เป็นโอกาสเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาตนเอง ส่วนสำหรับผู้ที่ได้รับคะแนนไว้วางใจในระดับสูงก็ถือว่าได้รับแรงผลักดันให้แก่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและพยายามมากขึ้นในเวลาข้างหน้า ดังนั้น การลงคะแนนไว้วางใจไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมการตรวจสอบของสภาแห่งชาติเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย นาง เหงวียนถิซิว ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้ให้ข้อสังเกตว่า
“นี่เป็นการประเมินอย่างรอบด้านและมีภาวะวิสัยเกี่ยวกับคุณภาพ ความรับผิดชอบ ทักษะการบริหารชี้นำของตำแหน่งที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ ซึ่งช่วยสร้างพัฒนาการอย่างรวดเร็วและรอบด้านในการปฏิบัติงานของผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ”
ทั้งนี้ การลงคะแนนไว้วางใจกึ่งวาระครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบเพื่อประเมินความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆเพื่อจัดทำและปรับปรุงแผนการปฏิบัติในระยะที่สำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายและหน้าที่ที่วางไว้ของวาระ ซึ่งผลการลงคะแนนไว้วางใจเป็นการยืนยันถึงการเป็นช่องทางที่สำคัญเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมิน วางแผนงานด้านบุคลากร อบรมและใช้บุคลากรอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดำรงตำแหน่งที่สภาแห่งชาติเลือกหรืออนุมัติ อีกทั้งเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อช่วยสร้างพัฒนาการใหม่ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐในช่วงที่เหลือของวาระและถอดประสบการณ์งานด้านบุคลากรให้แก่วาระต่อๆไป.
Vân