เศรษฐกิจยังคงต้องรับมือกับกระบวนการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (AP)

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มต้นในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 และจนวันที่ 11 มีนาคมปี 2020 องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ประกาศให้เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก ด้วยการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โรคโควิด-19ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทุกด้านในชีวิตสังคมของประเทศต่างๆ ทำให้การท่องเที่ยวทั่วโลกและห่วงโซ่อุปทานตกเข้าสู่ภาวะชะงักงัน หลายประเทศต้องปิดพรมแดนและซัตดาวนน์ประเทศ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลกโดยมีความรุนแรงกว่าวิกฤตการเงินในช่วงปี 2008-2009 โดยเฉพาะได้รับการเปรียบเทียบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 30 ของศตวรรษที่ 20 ที่มาพร้อมผลพวงที่ร้ายแรงอื่น ๆ   

ทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

ด้วยผลกระทบที่ร้ายแรง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบหนักที่สุดต่อเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 ตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2020 จนถึงปลายปี 2020 การขยายตัวจีดีพีของโลกจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาด โดยแทนที่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 การขยายตัวจีดีพีของโลกจะลดลงประมาณร้อยละ 5 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเทียบกับวิกฤตการเงินโลกในช่วงปี 2008-2009 ซึ่งทำให้การขยายตัวจีดีพีของโลกลดลงเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น แต่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้สูงกว่าหลายเท่า

นอกจากนั้น การแพร่ระบาดยังทำให้การการขยายตัวช้าลงและและภาวะหนี้สินของหลายประเทศอยู่ในระดับสูง ตามการคาดการณ์ล่าสุดของนักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศหรือไอไอเอฟ อัตราหนี้สินต่อจีดีพีจะเพิ่มขึ้นเป็น 365% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็น "สึนามิแห่งหนี้สินที่เกิดขึ้นในทั่วโลก" ตามรายงานของไอไอเอฟ จนถึงปลายปี 2020 ยอดหนี้ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 277 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านั้น ในรายงานที่ลงบนนิตยสารสมาคมการแพทย์สหรัฐเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 นักเศรษฐศาสตร์สองคนจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐคือ David Cutler และ Lawrence Summers ได้เรียกโควิด-19 เป็นไวรัสมูลค่า 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตัวเลขนี้เป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมากกว่าจีดีพีในปี 2019 ของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกคือจีน โดยอยู่ที่ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากผลกระทบของการแพร่ระบาด เศรษฐกิจต่างๆในโลกส่วนใหญ่ตกอยู่ในภาวะถดถอยและเติบโตติดลบในปี 2020 ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่ควรจดจำของเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21

ทางการกรุงลอนดอนออกข้อความเรียกร้องให้ประชาชนเตรียมพร้อมป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในเมืองหลวงเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม  (Reuters)

ผลกระทบที่เป็นอันตรายอื่น ๆ อีกมากมาย

ในรายงานสรุปปี 2020 นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้ยอมรับว่า มีประชาชนอีกประมาณ 100 ล้านคนกลับไปสู่ภาวะยากจนและเป็นครั้งแรกที่ดัชนีความยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 1998 ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจทำให้วิกฤตการณ์ด้านอาหารเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคที่การปะทะและมีความเสี่ยงเกิดภัยวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น ก่อนหน้านั้น ผลการวิจัยของสหประชาชาติยังระบุว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สามารถทำให้ชาวโลก 130 ล้านคนตกเข้าสู่ภาวะอดอยากเพราะโควิด-19ได้ทำลายห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร

ไม่เพียงแค่นั้น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังก่อให้เกิดความวุ่นวายในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว การบิน การศึกษา สาธารณสุขและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การแพร่ระบาดได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆทวีความตึงเครียด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน โดยได้เกิดการโต้เถียงระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับต้นตอของการแพร่ระบาด ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ การแพร่ระบาดได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนลดลงสู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา

นอกจากนั้น การแพร่ระบาดยังทำให้ระบบการศึกษาหยุดชะงักที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักเรียนเกือบ 1.6 พันล้านคนในกว่า 100 ประเทศและแดนทั่วโลก

ในด้านสาธารณสุข องค์การอนามัยโลกหรือ WHO มีความวิตกกังวลว่า ความสำเร็จของมนุษย์มีความเสี่ยงที่จะถูกทำลายเมื่อประเทศต่างๆเกือบร้อยละ 90 ได้รับผลกระทบด้านสาธารณสุขจากการแพรระบาดของโรคโควิด-19 รายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 ของ WHO ได้เตือนว่า "ความสำเร็จที่ได้บรรลุในด้านสาธารณสุขในสองทศวรรษที่ผ่านมาสามารถถูกทำลายในเวลาอันสั้น"

แต่อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดยังทำให้ประเทศต่างๆผลักดันความร่วมมือเพื่อจำกัด ผลกระทบของการแพร่ระบาด ตลอดจนการผลิตและจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 นอกจากนี้ การแพร่ระบาดยังทำให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นไปอย่างเข้มแข็งที่ไม่เคยมีมาก่อนในทั่วโลก อีกทั้งเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของประเทศต่างๆ รวมทั้งการรับรู้ของรัฐบาลเกี่ยวกับระบบสาธารณสุขป้องกัน./.