(VOVWORLD) - การจุดประกายความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาการสร้างสรรค์เกษตรกรให้เป็นกองกำลังที่ทันสมัย มีผลิตภาพในการทำงาน มีคุณภาพ และประสิทธิภาพส่งเสริมบทบาทเป็นแกนหลักของเกษตรกรในการพัฒนาการเกษตร เศรษฐกิจชนบทและการสร้างสรรค์ชนบทใหม่คือแนวทางที่ถูกต้องของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ชนชั้นเกษตรกรในการฟันฝ่าอุปสรรค ความท้าทายและพัฒนาการเกษตรที่เจริญรุ่งเรืองและชนบทที่อารยธรรมและทันสมัย
ฟาร์มเกษตร“Nắng và Gió” (ninhthuantourism.vn) |
นาย เหงวียนหว่างก๊วก อาศัยที่จังหวัดนิงถวนได้ฝากความใฝ่ฝันเกี่ยวกับการผลิตเกษตรอย่างยั่งยืนในการก่อสร้างฟาร์มเกษตร“Nắng và Gió” เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่ค้ำประกันมาตรฐานด้านคุณภาพ มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของพืชตามมาตรฐาน Global GAP โดยวิศวกรและนักวิชาการด้านการเกษตรได้แนะนำวิธีและเทคนิคการปลูกแอปเปิ้ลเขียวปลอดสารพิษเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งช่วยส่งเสริมความคิดเกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในท้องถิ่น
“ความฝันของผมคืออยากทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อชุมชน โดยในการทำการเกษตร ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ขอคำปรึกษา ทาบทามความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงและปฏิบัติแผนการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้”
หลังจากออกไปทำงานในนครใหญ่ๆเป็นเวลา 5 ปี นาย ด่าวแหม่งเตียบ ได้ตัดสินใจสร้างฐานะด้วยการปลูกองุ่นที่เก็บผลผลิตเพียงปีละครั้งแต่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงในบ้านเกิดที่หมู่บ้านแหว่งเซิน ตำบลนิงหาย อำเภอฟานราง จังหวัดนิงถวน นาย เตียบเผยว่า เมื่อก่อนนี้ ผู้ปลูกองุ่นที่จังหวัดนิงถวนได้เก็บองุ่นปีละ 3 ครั้ง แต่ผลผลิตได้น้อยและไม่มีคุณภาพ ส่วนการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ปริมาณแร่ธาตุอาหารในดินลดลง
“ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่นี่มีฐานะยากจนมากและต้องไปรับจ้างทำงานในต่างถิ่น แต่ตอนนี้ได้หันมาปลูกองุ่นและแอปเปิ้ลในบ้านเกิด การปลูกองุ่นสร้างรายได้ 80 ล้านด่งต่อไร่ ทำให้ชาวบ้านมีความปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง บ้านเรือนมีความโอ่โถงสวยงาม คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ผมได้เข้าร่วมการสัมมนาเชิงวิชาการเพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปลูกองุ่น ”
ทั้งนี้ เกษตรกรในจังหวัดนิงถวนได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและวิธีการผลิตอย่างยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของสภาพอากาศ สร้างประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูง พัฒนาผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
สิ่งที่น่ายินดีคือความคิดเกี่ยวกับการสร้างฐานะจากการเกษตรที่ยั่งยืนได้รับการขยายผลในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งแม้จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแลปงของสภาพภูมิอากาศและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การเกษตรเวียดนามก็ยังคงค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหารและบรรลุมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรที่กว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ซึ่งสูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ส่วนมติที่ 19 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนปี 2022 ของการประชุมครั้งที่ 5 คณะกรรมการกลางพรรคฯสมัยที่ 13 เกี่ยวกับการเกษตร ชนบทและเกษตรกรจนถึงปี 2030วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045 ได้ถือการเกษตรเป็นความได้เปรียบของประเทศเป็นครั้งแรก โดยการพัฒนาการเกษตรไม่เพียงแต่เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังเป็นความรับผิดชอบต่อชุมชนและเป็นภูมิปัญญาของชาติอีกด้วย ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงความคิดตั้งแต่ผู้บริหารของหน่วยงานทุกระดับ สถานประกอบการและเกษตรกรเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเพื่อพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืนเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในเขตชนบท นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า
“องค์กรระหว่างประเทศได้ชื่นชมระบบธัญญาหารและอาหารของเวียดนามและพร้อมช่วยเหลือเวียดนามผ่านการแลกเปลี่ยนรูปแบบ ประสบการณ์ ให้คำปรึกษาทางเทคนิคและสนับสนุนเงิน ซึ่งสถานการณ์ภายในประเทศพิสูจน์ให้เห็นว่า การปรับตัวและเดินหน้าพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเกษตรที่ปลอดสารพิษและการเกษตรครบวงจรเป็นสิ่งที่ทำได้”
แอปเปิ้ลเขียวปลอดสารพิษของฟาร์มเกษตร“Nắng và Gió” (ninhthuantourism.vn) |
ส่วนดร. ดั่งกิมเซิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรได้เผยว่า จากการถือการเกษตรเป็นปัจจัยได้เปรียบของประเทศ ก็ต้องผลักดันทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนแนวทางนี้ เช่น การลงทุนอุปกรณ์ เครื่องจักร เงินทุน เทคโนโลยี บุคลากรและโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมบทบาทและความได้เปรียบด้านการเกษตร ถือเกษตรกรเป็นแกนหลัก เป็นรากฐานและเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา อีกทั้งเป็นผู้นำหน้าในการพัฒนาการเกษตรและชนบทและสิ่งที่สำคัญคือต้องจุดประกายความคาดหวังและความร่วมแรงร่วมใจในการปฏิบัติยุทธศาสตร์ด้านการเกษตร
“ถึงเวลาแล้วที่ต้องเชื่อมโยงและร่วมมือกันเพื่อพัฒนารูปแบบฟาร์มเกษตรและสหกรณ์ขนาดใหญ่ การเชื่อมโยงกับสถานประกอบการใหญ่ๆให้เป็นระบบมูลค่าเพื่อสร้างก้าวกระโดดทั้งในด้านคุณภาพ ประสิทธิผลและการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างก้าวพัฒนาใหม่สู่ระบบห่วงโซ่อุปทานโลกเพราะการเกษตรคือความได้เปรียบของเวียดนามในขณะที่ความต้องการในด้านนี้นับวันเพิ่มขึ้น”
การเกษตร ชนบทและเกษตรกรมีบทบาทที่สำคัญในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ซึ่งความคาดหวังเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประเทศเกษตรเพื่อพัฒนาชนบทให้ทันสมัย เกษตรกรเป็นมืออาชีพในการเกษตรและประกอบธุรกิจและการเกษตรเป็นด้านที่สำคัญในการสร้างความร่ำรวยของประเทศและจากการเป็นประเทศที่มีประชากร 100 ล้านคน โดยมีประชาชนร้อยละ 65 อยู่ในเขตชนบท แน่นอนว่า การเกษตรเป็นความได้เปรียบของเวียดนาม การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนเป็นการสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนารุดหน้า การยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก.