(VOVWORLD) - ในช่วงนี้ เวียดนามกำลังรำลึกครบรอบ 99 ปีการก่อตั้งหน่วยงานสื่อสารมวลชนปฏิวัติเวียดนาม ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน โดยในตลอดเกือบ 1 ศตวรรษที่ผ่านมา กระบวนการสื่อสารมวลชนเวียดนามได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง เป็นช่องทางเชื่อมโยงที่มีประสิทธิภาพระหว่างทางการปกครองทุกระดับกับประชาชน มุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดคือรับใช้ปิตุภูมิและประชาชน มีส่วนร่วมส่งเสริมความก้าวหน้าทางสังคม ซึ่งการพัฒนาการสื่อสารมวลชนได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนในเวียดนาม
บูธของวีโอวีในงานหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศปี 2024 |
ในตลอดเกือบ 1 ศตวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่หนังสือพิมพ์แทงเนียน หรือ เยาวชน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของแวดวงสื่อมวลชนปฏิวัติที่ท่าน เหงวียนอ๊ายก๊วก เป็นผู้ริเริ่มและจัดพิมพ์เป็นครั้งแรก กระบวนการสื่อสารมวลชนปฏิวัติเวียดนามได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันถึงบทบาทที่สำคัญและมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ต่อทั้งภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติในอดีตและการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในปัจจุบัน
การพัฒนาที่เข้มแข็ง
ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ จนถึงปี 2023 เวียดนามมีองค์การสื่อสารมัลติมีเดียที่สำคัญ 6 องค์กร สำนักข่าว 127 แห่ง นิตยสาร 671 แห่ง สถานีโทรทัศน์และวิทยุ 72 แห่ง ผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการสื่อสารมวลชน 41,000 คน เพิ่มขึ้น 6เท่าเมื่อเทียบกับปี 2000 ทั้งนี้ กระบวนการสื่อสารมวลชนเวียดนามได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งทั้งรูปแบบ จำนวนองค์การสื่อสาร หนังสือพิมพ์ นิตยสาร สิ่งพิมพ์ รวมทั้งการขยายพื้นที่ออกอากาศและจำนวนผู้สื่อข่าวที่เพิ่มขึ้น
จากการสนับสนุนของเทคโนโลยี หนังสือพิมพ์ออนไลน์ได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักข่าวกับผู้อ่านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายหลังมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตมา 26 ปี เวียดนามได้พัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่ทันสมัยและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จนถึงเดือนกันยายนปี 2023 เวียดนามมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 78 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ21 เมื่อเทียบกับปี 2019 ปัจจุบัน องค์การสื่อสารมวลชนเวียดนามต่างมีเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่างๆทางอินเตอร์เน็ต โดยองค์การสื่อสารบางแห่งได้เดินหน้าและประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI, IoT, Cloud, Big Data เพื่อตามทันการพัฒนาของยุคสมัยในขณะที่องค์การสื่อสารหลายร้อยแห่งได้สร้างช่องทางการสื่อสารในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook, Youtube, Tiktok…
ในยุคแห่งโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสื่อสารมวลชนนับวันพัฒนาตามแนวทางพหุภาคีและในหลายมิติ โดยสำนักข่าวระดับโลกกว่า 40 แห่งได้เปิดสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม เช่น CNN, Reuters, AP, AFP, Kyodo, สำนักข่าว Asia และหนังสือพิมพ์ Aju ของสาธารณรัฐเกาหลี สำนักข่าวรอสซียา เซกอดนียา (Rossiya Segodnya) ของรัสเซีย เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลเวียดนามอำนวยความสะดวกให้แก่นักข่าวต่างชาติในการนำเสนอข่าวและทุกปี นักข่าวเวียดนามจำนวนมากได้ไปศึกษา แลกเปลี่ยนประสบการณ์และรายงานข่าวที่ประเทศต่างๆทั่วโลก
การค้ำประกันเสรีภาพด้านการสื่อสารมวลชนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาองค์การสื่อสารมวลชน
เวียดนามได้เข้าร่วมและกำลังปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนตามกฎบัตรสหประชาชาติ มติและสนธิสัญญาระหว่างประเทศและในภูมิภาคอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลเวียดนามได้พยายามค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากรัฐธรรมนูญปี 2013ที่ระบุอย่างชัดเจนถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเวียดนามตามกฎหมายสากล
นอกจากนี้ ในการปฏิบัติรัฐธรรมนูญเวียดนามเกี่ยวกับสิทธิพลเรือนทางการเมือง โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพด้านสือสารมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เวียดนามได้ประกาศใช้กฎหมายการเข้าถึงข้อมูลปี 2016 ซึ่งมีเนื้อหาที่โปร่งใสและสะท้อนความก้าวหน้าตามสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ควบคู่กันนั้น กฎหมายสื่อสารมวลชนเวียดนามปี 2016 ได้ระบุอย่างชัดเจนถึงเป้าหมาย หน้าที่และสิทธิของวงการสื่อสารมวลชนเวียดนาม รวมถึงสิทธิในการเข้มถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐเวียดนามในการปฏิบัติพันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ รัฐเวียดนามยังส่งเสริมและวางแนวทางการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานด้านการสื่อสารมวลชน รวมถึงจัดงบให้แก่การพัฒนาองค์การสื่อสารมวลชนที่สำคัญของเวียดนาม
ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า การค้ำประกันเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นคือเป้าหมายที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนาม โดยได้รับการยืนยันและค้ำประกันการปฏิบัติผ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติสากล ซึ่งผลสำเร็จในการพัฒนาสื่อมวลชนปฏิวัติเวียดนามในตลอด 99 ปีที่ผ่านมาคือความจริงที่มีชีวิตชีวาและการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องดังกล่าว.