ความถูกต้องของแนวทาง“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”

(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนาย มาเธียส คอร์แมนน์ เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาหรือ OECD วันที่ 2 พฤษภาคม นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เริ่มการเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของ OECD และภารกิจ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นฝ่ายรุกและการปรับตัวเข้ากับแนวโน้มต่างๆของโลกเพื่อสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของ“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”

 

“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”เป็นแนวทางที่ได้รับการรวบรวมและเรียบเรียงให้เป็นอัตลักษณ์ของแนวทางการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามบนเจตนารมณ์ “ยึดมั่นจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเพื่อรับมือทุกความผันผวน”

แนวทางการต่างประเทศและการทูตที่เป็นอัตลักษณ์ของเวียดนาม

ในการประชุมการทูตครั้งที่ 29 เมื่อปี2016 ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคได้ระบุถึงแนวทาง “การทูตต้นไผ่เวียดนาม”ว่า ต้นไผ่เวียดนามมีลำต้นแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ซึ่ง“การทูตแบบต้นไผ่เวียดนาม”นั้นจะต้องเข้าใจสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศอย่างถ่องแท้และมีปฏิบัติการที่เหมาะสม ต่อมา จนถึงเดือนธันวาคมปี2021 ในการประชุมการต่างประเทศทั่วประเทศเพื่อปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้ย้ำว่า “ในตลอดกว่า 90 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม การต่างประเทศและการทูตเวียดนามได้สานต่อและส่งเสริมอัตลักษณ์ เกียรติประวัติ วัฒนธรรมของประชาชาติ เรียนรู้ความดีเลิศและความก้าวหน้าของมนุษยชาติ พัฒนาแนวทางการต่างประเทศและการทูตที่เป็นอัตลักษณ์ของ“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”บนพื้นฐานของลัทธิมากร์ซ – เลนินและแนวคิดโฮจิมินห์ นั่นคือ “ยืดมั่นหลักการชี้นำของพรรค มีนโยบายที่คล่องตัว เฉลียวฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นอดทนในการรับมือความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ มีความสามัคคี ความเมตตาและยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ” ต่อมา ในการประชุมการทูตทั่วประเทศครั้งที่32 เมื่อเดือนธันวาคม ปี2023 เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่อง ได้ชี้ชัดว่า “ต้องเดินหน้าเปลี่ยนแปลงใหม่ สร้างสรรค์และพัฒนาการต่างประเทศและการทูตเวียดนามที่ทันสมัย เข้มแข็งในทุกด้านและมีอัตลักษณ์ของ“การทูตต้นไผ่เวียดนาม””

ประสิทธิผลที่ชัดเจนและไม่สามารถปฏิเสธได้

กิจกรรมการต่างประเทศตามแนวทาง“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”ได้ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศด้านการต่างประเทศที่สันติภาพ เสถียรภาพ ปกป้องเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก โดยตั้งแต่ต้นวาระของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ขยายและกระชับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน หุ้นส่วนสำคัญและประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่ให้พัฒนาตามส่วนลึกมากขึ้น โดยเมื่อเดือนธันวาคมปี2023 เวียดนามและจีนได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ระบุถึงข้อตกลงความร่วมมือ 36 ข้อ เห็นพ้องสร้างสรรค์ประชาคมแบ่งปันอนาคตเวียดนาม - จีนที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ พยายามเพื่อความผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพและความก้าวหน้าของมนุษยชาติ สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล  ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนกันยายนปี2023 เวียดนามและสหรัฐได้ยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืน สหรัฐสนับสนุนประเทศเวียดนามที่เข้มแข็ง มีเอกราช เจริญรุ่งเรืองและพึ่งตนเอง

ในความสัมพันธ์พหุภาคี เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมกลไกและฟอรั่มในภูมิภาคและโลกอย่างเข้มแข็งเพื่อปรับตัวเข้ากับแนวโน้มต่างๆของโลกและสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจุบัน เครือข่ายความสัมพันธ์หุ่นส่วนของเวียดนามได้รับการเสริมสร้างและขยายให้พัฒนาตามส่วนลึกและแบ่งปันผลประโยชน์ เช่น แม้ยังไม่เป็นสมาชิกของ OECD อย่างสมบูรณ์  แต่ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้เข้าร่วมความร่วมมือกับองค์กรนี้ในหลายด้านอย่างเข้มแข็ง เช่น การปรับปรุงนโยบาย การส่งเสริมการลงทุน การบริหารสาธารณะเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม โดยเวียดนามและ OECD กำลังปฏิบัติโครงการต่างๆที่เป็นรูปธรรมในแผนการร่วมมือทวิภาคี รวมถึงการจัดทำรายงานเกี่ยวกับคุณภาพการลงทุนจากต่างประเทศและรายงานเศรษฐกิจเวียดนาม เป็นต้น ส่วนในการประชุมระดับรัฐมนตรีของ OECD ปีนี้ รัฐมนตรี บุ่ยเทงเซิน จะมีบทวิเคราะห์ในการประชุมนัดสำคัญๆ เช่น การประชุมเพื่อรำลึกครบรอบ10 ปี โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ OECD การประชุมเกี่ยวกับการส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนและการปะทะ การปฏิบัติแนวทาง “การทูตต้นไผ่เวียดนาม”ได้ยืนยันถึงการเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและมีความรับผิดชอบของเวียดนามเพื่อร่วมกับประเทศและองค์กรต่างๆในการสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่ดีงาม สอดคล้องกับหลักการขั้นพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด