ค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์สูงสุดให้แก่แรงงาน

(VOVWORLD) -ในการสนทนากับแรงงาน ณ จังหวัดบั๊กยาง เมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า พรรคฯ และรัฐเวียดนามตั้งเป้าหมายดูแลชีวิตทั้งทางจิตใจ ทางวัตถุและนำความอิ่มหนำผาสุกมาให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ เวียดนามยังให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้ถูกระบุในรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ นับตั้งแต่เมื่อปี 1946 มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือมนุษย์ รวมทั้งชนชั้นกรรมกรเป็นศูนย์กลาง เป็นเจ้าของ เป็นเป้าหมายและเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนา
ค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์สูงสุดให้แก่แรงงาน - ảnh 1ภาพการสนทนา

การสนทนามีแรงงานประมาณ 4,500 คนจากจังหวัดบั๊กยางและ 62 จังหวัดและนครต่างๆทั่วประเทศเข้าร่วม รวมทั้งตัวแทนสหภาพแรงงานเวียดนาม ส่วนฝ่ายรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และผู้นำกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เข้าร่วม โดยได้ตอบคำถามต่างๆ ของแรงงานและเป็นการยืนยันถึงการดูแลเอาใจใส่ของพรรคฯ รัฐ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ผู้ใช้แรงงาน ชุมชนและสังคมต่อแรงงาน

แรงงาน 3.4 ล้านคนได้รับการสนับสนุนที่อยู่อาศัยหลังวิกฤตโควิด -19

สำหรับนโยบายสนับสนุนและเงินช่วยเหลือเด็กอนุบาลที่เป็นบุตรหลานของแรงงานที่กำลังทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจผลิตเพื่อการส่งออกและปฏิบัตินโยบายสนับสนุนค่าเช่าที่อยู่อาศัยให้แก่แรงงานล้วนเป็นปัญหาที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่หลังวิกฤตโควิด -19 นาย ด่าวหงอกยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทหารทุพพลภาพและสังคมได้กล่าวปราศรัยในการสนทนาว่า ในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้มีการชี้นำอย่างเด็ดขาดและประกาศนโยบายที่เกี่ยวข้องสนับสนุนแรงงานต่างๆ รวมทั้งนโยบายที่ไม่เคยปฏิบัติในช่วงก่อน

“ เฉพาะมติที่ 68 เกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนแรงงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 มติที่ 116 เกี่ยวกับการสนับสนุนแรงงานจากกองทุนประกันการว่างงานโดยมีแรงงาน 55 ล้านคนได้รับเงินสนับสนุนรวมมูลค่ากว่า 81 ล้านล้านด่ง ดังนั้น นโยบายเหล่านี้สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายต่างๆ อย่างกว้างขวาง การสนับสนุนลูกหลานของแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ก็เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในการจัดทำนโยบาย รวมไปถึงนโยบายสำหรับเด็กที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตจากโรคโควิด -19 เด็กที่มีแม่เป็นผู้ติดเชื้อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโควิด -19 สำหรับนโยบายสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัยเพื่อปฏิบัติมติของสภาแห่งชาติและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหลังวิกฤตโควิด -19 ปัจจุบันนี้ จังหวัดและนครต่างๆ ได้รวบรวมรายชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะมีแรงงานประมาณ 3.4 ล้านคนที่ได้รับการช่วยเหลือ”

สำหรับปัญหานี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า นโยบายดังกล่าวกำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแต่เพื่อผลักดันกระบวนการนี้ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำกลไกและระเบียบการอย่างรวดเร็ว ส่วนท้องถิ่นก็ต้องเป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติโดยเร็ว

สำหรับการสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัยทางสังคมให้แก่แรงงาน ตัวแทนของกระทรวงก่อสร้างได้เผยว่า เวียดนามได้ลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยทางสังคมรวม 7.3 ล้านตารางเมตร ซึ่งในนั้น เป็นที่อยู่อาศัยของแรงงาน 2.5 ล้านตารางเมตร ตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของแรงงานทั่วประเทศได้ประมาณร้อยละ 40 ในเวลาข้างหน้า รัฐบาลจะเสร็จสิ้นกลไก ระเบียบการและนโยบายต่างๆ เพื่อผลักดันการลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่แรงงานและสงวนที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่แรงงาน

ยกระดับสวัสดิภาพให้แก่แรงงาน

สวัสดิภาพคือปัญหาที่ได้รับความสนใจจากแรงงานอยู่เสมอ สวัสดิภาพที่ดีก็หมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานได้รับการค้ำประกัน ในการสนทนาฯ รัฐมนตรี ด่าวหงอกยุง ได้เผยว่า ในการแก้ไขกฎหมายประกันสังคม ทางกระทรวงฯ ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย 11 กลุ่มที่จะได้รับการช่วยเหลือ  โดยเฉพาะการปรับเวลาเกษียณอายุราชการที่จะยื่นให้สภาแห่งชาติพิจารณาภายในปี 2023

“ เราจะลดเวลาสำหรับการสมทบเงินเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งในช่วงก่อน เรากำหนดเป็นเวลา 20 ปี แต่ร่างกฏหมายจะกำหนดให้ลดเหลือ 15 ปีและอาจะเป็น 10 ปีในอนาคต บนเจตนารมณ์แห่งความยุติธรรมและการแบ่งเบาภาระ นอกจากนั้น ร่างกฎหมายยังช่วยเพิ่มการเชื่อมโยงระหว่างประกันด้านสังคมต่าง ๆ เพื่อค้ำประกันสิทธิของแรงงาน”

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้กำชับว่า ในด้านประกันสังคม สำนักงานที่เกี่ยวข้องได้รับฟังความคิดเห็นของแรงงาน รวบรวมความคิดเห็นและยื่นเสนอให้รัฐบาลซึ่งทางรัฐบาลได้ยื่นต่อสภาแห่งชาติเพื่อระบุเนื้อหาต่างๆในร่างกฎหมายประกันสังคมฉบับแก้ไขเข้าในโครงการจัดทำกฎหมายและกฤษฎีกาปี 2023 เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติ

จากความปรารถนาของแรงงานที่ต้องการมีทักษะที่ดีเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตมั่นคงและมีส่วนร่วมต่อสถานประกอบการและประเทศมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับว่า

            “นี่คือความปรารถนาที่ชอบธรรมของแรงงานและกรรมกร รัฐบาลได้มีแนวทางแล้ว โดยเมื่อต้นปีนี้ ในการจัดสรรเงินลงทุนภาครัฐระยะกลาง รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้หารือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เงินทุน 2 ล้านล้านด่งให้แก่การฝึกสอนอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพในการฝึกสอนอาชีพให้แก่กรรมกร ถ้าหากมีศักยภาพเพิ่มขึ้น เราจะทำต่อไป ดังนั้น แรงงานต้องมีความพยายาม ส่วนภาครัฐต้องมีนโยบายกลไกและปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีการเข้าร่วมของท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างรอบด้านและยั่งยืน”

กรรมกรแรงงานคือฝ่ายที่กำลังปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาและสร้างสรรค์ระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ดังนั้น การให้ความสนใจ ดูแลเอาใจใส่ ค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์สูงสุดให้แก่แรงงานจะมีส่วนร่วมต่อภารกิจการสร้างสรรค์ประเทศและปกป้องสวัสดิการสังคมให้มีประสิทธิภาพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด