การประชุมครั้งที่ 6 คณะกรรมการกลางพรรคฯสมัยที่ 13 (dangcongsan.vn)

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ภายในประเทศและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ การที่เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคฯและประชาชนทั่วประเทศมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และพยายามใช้โอกาส และความได้เปรียบเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงนั้นถือเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อนำประเทศพัฒนาแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองนำความรุ่งโรจน์มาให้แก่ประชาชาติ

การประชุมครั้งที่ 6 คณะกรรมการกลางพรรคฯสมัยที่ 13 ได้สรุป ประเมินและวางแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม งบประมาณแผ่นดินในปี 2022 และวางแนวทาง หน้าที่ในปี 2023 การวางแผนการพัฒนาแบบบูรณาการแห่งชาติระยะปี 2021-2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 การผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045 ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคฯทราบถึงวิสัยทัศน์ของพรรคฯและรัฐเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ นาย เหงวียนยวีกวี๊ อดีตเลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดบิ่งดิ่งได้เผยว่า การวางแผนการพัฒนาแบบบูรณาการแห่งชาติระยะปี 2021-2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการพัฒนาประเทศ

“ศักยภาพการพัฒนาประเทศยังมีสูงมาก ซึ่งการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯได้หารือและวางแผนการพัฒนาแบบบูรณาการแห่งชาติที่มีการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่น ภูมิภาคและด้านต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการวางเป้าหมายการปฏิบัติในระยะต่างๆเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย”

ส่วนนาย เหงวียนกวางฮวาน ประธานกรรมการบริษัทหุ้นส่วน Halcom เวียดนามได้เผยว่า การผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในปัจจุบันต้องอาศัยผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0

“ในบทปราศรัยของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ระบุว่า ต้องเน้นปรับปรุงแผนการพัฒนา เปลี่ยนแปลงใหม่และปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ถือการผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมี่ทันสมัยเป็นแนวทางปฏิบัติเป้าหมายต่างๆ อาศัยผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งปัจจุบัน เวียดนามมีอัตราการขยายตัวจีดีพีในระดับสูง แต่อัตราการขยายตัวของผลิตภาพแรงงานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4-5 ต่อปีเท่านั้น ซึ่งต้องเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7-10 ต่อปีและต้องอาศัยกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมี่ทันสมัย”

ส่วนนาย เหงวียนหว่างเฟือง สมาชิกพรรคฯสาขาเมืองด่งเฮ้ย จังหวัดกว๋างบิ่งได้เผยว่า ความเห็นพ้องในระดับสูงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการบริหารชี้นำของพรรคฯในกิจกรรมของระบบการเมืองเป็นเนื้อหาที่สำคัญในภารกิจการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคฯ

“ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯครั้งที่ 6 พรรคฯได้ปฏิบัติวิธีการบริหารชี้นำตามแนวทางเปลี่ยนแปลงใหม่และยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพกิจกรรมต่างๆ เข้าใจอย่างถ่องแท้หลักปฏิบัติในการดำเนินการ หน้าที่ของผู้บริหารหน่วยงานทุกระดับและการกระจายอำนาจอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจควบคู่กับความรับผิดชอบและการดำเนินทุกกิจกรรมตามกฎบัตรและระเบียบวินัยของพรรค”

ส่วนนาย ดว่านวิงลอง นายกสมาคมนักหนังสือพิพม์จังหวัดแค้งหว่าได้เผยว่า การประกาศมติว่าด้วยการสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามในระยะใหม่ต่อไปเป็นสิ่งที่จำเป็น

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของมตินี้คือการยืนหยัดเป้าหมายเอกราช การก้าวไปสู่สังคมนิยมและการค้ำประกันการชี้นำของพรรคเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งการประกาศมตินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงและสร้างสรรค์นิติรัฐอย่างสมบูรณ์เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพในด้านต่างๆ ประชาธิปไตยและสิทธิด้านสวัสดิการสังคมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”

 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคฯและประชาชนทุกคนกำลังทำความเข้าใจและปฏิบัติตามเนื้อหาของการประชุมครั้งที่ 6 คณะกรรมการกลางพรรคฯสมัยที่ 13 ซึ่งความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการปฏิบัติตามแนวทางของพรรคฯเป็นพื้นฐานที่สำคัญและตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน การปฏิบัติเป้าหมาย ถึงปี 2045   จะเป็นประเทศที่พัฒนาและมีรายได้ในระดับสูงตามแนวทางสังคมนิยมตามมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13.