นาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนกับนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส (THX)

ในกรอบการเยือนยุโรปครั้งนี้ของนาย สีจิ้นผิง ประเด็นหลักที่ผู้นำประเทศต่างๆจะหารือคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทางการปักกิ่งกับทางการปารีส และระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปหรือ EU ในสภาวการณ์ที่ปัญหาต่างๆทั้งในระดับภูมิภาคและโลกต้องได้รับการส่งเสริมร่วมมือพหุภาคี

เสริมสร้างและผลักดันความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

ฝรั่งเศสเป็นจุดหมายปลายทางแรกในกรอบการเยือนยุโรปครั้งนี้ของนาย สีจิ้นผิง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนและฝรั่งเศสได้ขยายความสัมพันธ์ทางการค้า การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนอย่างต่อเนื่อง  โดยเมื่อปี 2023 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็ง โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 800 เท่า บรรลุกว่า 7 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสในเอเชีย ในขณะที่ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3  และเป็นประเทศนำเข้าสินค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของจีนในสหภาพยุโรป

ในขณะเดียวกัน การลงทุนของจีนในเซอร์เบียได้แซงหน้าประเทศสำคัญๆ ในยุโรป เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส ปัจจุบัน จีนได้กลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเซอร์เบีย สำหรับฮังการี ปัจจุบัน ฮังการีเป็นตลาดหลักของนักลงทุนจีนในด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

ดังนั้น การเยือนยุโรปครั้งแรกในรอบ 5 ปีของนาย สีจิ้นผิง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ใหม่ในสภาวการณ์ที่โลกมีความตึงเครียดต่างๆ และความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับจีนกำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมาย

ในการพบปะไตรภาคีกับนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนย้ำว่า จีนให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อสหภาพยุโรปหรือ EU ในนโยบายต่างประเทศและเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศที่ทันสมัย ส่วนนาย  มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้เรียกร้องให้จีนค้ำประกันการค้าที่สมดุลมากขึ้น คำเรียกร้องดังกล่าวได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่สหภาพยุโรปกำลังดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกังหันลม อุปกรณ์ทางการแพทย์และรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศจีน

การพบปะไตรภาคีระหว่างนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีน กับนาย มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้รับการประเมินโดยบรรดาผู้สังเกตการณ์ว่า ตรงไปตรงมาเนื่องจากทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจน

การพบปะไตรภาคีกับนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ และนาง เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ณ กรุงปารีสเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม (Reuters)

สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย

การเยือน 3 ประเทศในยุโรปของประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง มีขึ้นในสภาวการณ์ที่จีนมีความประสงค์ที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับสหภาพยุโรป นาย สีจิ้นผิง ยังพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามการค้ากับสหภาพยุโรป และลดการวิพากษ์วิจารณ์จากยุโรปเกี่ยวกับการค้าและปัญหาอื่นๆกับจีน นอกจากนี้ เซอร์เบียและฮังการียังเป็นสมาชิกของความคิดริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน การเยือนของประธานประเทศจีนจึงมีส่วนร่วมเร่งความคืบหน้าของการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในกรอบความคิดริเริ่มนี้ สำหรับเซอร์เบีย การเยือนครั้งนี้ยังเป็นโอกาสเพื่อเสริมสร้างสถานะในการเป็นหุ้นส่วนหลักของจีนในเขตบอลข่านตะวันตก

การเยือนยุโรปของประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง ได้สร้างแรงผลักดันมากขึ้นให้แก่ความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะ ในด้านที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีผลประโยชน์และมีศักยภาพร่วมกัน ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปเท่านั้น หากยังมีความสำคัญในระดับโลกเนื่องจากจีนและสหภาพยุโรปต่างมีบทบาทที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาความท้าทายของโลกอีกด้วย ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจและการเมืองโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปมีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของทั้งสองฝ่าย ส่งผลกระทบที่สำคัญต่อธรรมาภิบาลระดับโลกและลัทธิพหุภาคี การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปอย่างมั่นคงและโปร่งใสจะนำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองฝ่าย ดังนั้น การเยือนยุโรปของประธานประเทศจีน สีจิ้นผิงในครั้งนี้ถือเป็นการส่งข้อความของปักกิ่งเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผลักดันความร่วมมือและสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน.