ต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดกว่าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
Ngoc Anh - VOV5 -  
( VOVworld )-การเลือกนโยบายเพื่อปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี ๒๐๑๒ และในปี ๒๐๑๓ เป็นโจทย์ ที่ที่ประชุมนัดสามัญครั้งที่ ๔ รัฐสภาสมัยที่ ๑๓ กำลังพิจารณาเพื่อหามาตรการที่ทรงประสิทธิภาพให้แก่ช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้และปีหน้า โดยประเด็นที่เน้นหารือคือ มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย สินค้าที่ค้างสต็อค การกระตุ้นกำลังซื้อ การปรับปรุงองค์ประกอบสถานประกอบการภาครัฐและธนาคารตลอดจนการปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษา
( VOVworld )-การเลือกนโยบายเพื่อปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี ๒๐๑๒ และในปี ๒๐๑๓ เป็นโจทย์ ที่ที่ประชุมนัดสามัญครั้งที่ ๔ รัฐสภาสมัยที่ ๑๓ กำลังพิจารณาเพื่อหามาตรการที่ทรงประสิทธิภาพให้แก่ช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้และปีหน้า โดยประเด็นที่เน้นหารือคือ มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย สินค้าที่ค้างสต็อค การกระตุ้นกำลังซื้อ การปรับปรุงองค์ประกอบสถานประกอบการภาครัฐและธนาคารตลอดจนการปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษา
|
สมาชิกรัฐสภาแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม |
การควบคุมเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจเป็นหน้าที่อันดับต้นๆของรัฐบาล โดยสมาชิกรัฐสภาต่างเห็นว่า ควรมีนโยบายที่คล่องตัวในการบริหารการเงินและงบประมาณเพื่อลดดอกเบี้ยสินเชื่อ แก้ไขปัญหาหนี้เสียและควบคุมหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ตลอดจนการทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทรงตัว สำหรับปัญหาการจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติแก้ไขปัญหาหนี้เสียของธนาคารนั้นก็ได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุม นายเจิ่นหว่างเงิน สมาชิกรัฐสภานครโฮจิมินห์เห็นว่า “ ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาหนี้เสียยืดเยื้อนาน ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ๒๐๐๘ ต่อมาปี ๒๐๐๙ เรามีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้มีการปล่อยเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาดส่งผลให้ปัญหาหนี้เสียรุนแรงมากขึ้น ผมหวังว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วและมีการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างละเอียดเพื่อแก้ไขต้นเหตุของปัญหา ” ส่วนสมาชิกรัฐสภาบางท่านได้เห็นว่า รัฐบาลต้องเน้นการปรับปรุงเศรษฐกิจ นายเจิ่นยูหลิก สมาชิกรัฐสภานครโฮจิมินห์เห็นว่า “ ผมขอเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการปรับปรุงเศรษฐกิจ โดยนายกฯเป็นหัวหน้าคณะฯ คณะกรรมการนี้จะแก้ไขปัญหาการปรับปรุงกลไกการลงทุน ธนาคาร สถานประกอบการและปัญหาหนี้เสีย จากประสบการณ์ของนานาประเทศจะเห็นได้ว่า ธนาคารพาณิชย์เองไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้เสียได้หากไม่กำหนดให้เป็นปัญหาระดับชาติ ”
นายหวูเวียตหงวาน ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการเงินแห่งชาติเห็นว่า เศรษฐกิจเวียดนามตกอยู่ในสภาวะที่อุปสงค์และอุปทานอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น รัฐบาลควรจำหน่ายพันธบัตรกิจการเพื่อเพิ่มอุปสงค์ให้แก่สังคมและแก้ไขปัญหาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ค้างสต็อค นายหงวานเผยว่า “ ต้องกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต็อค ผมขอเสนอให้จำหน่ายพันธบัตรสิ่งปลูกสร้าง โดยเลือกกิจการที่สำคัญๆเพื่อจำหน่ายเหล็ก ปูนซีเมนต์และวัสดุการก่อสร้าง ” สมาชิกรัฐสภาบางท่านได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่า ตั้งแต่ต้นปีมานี้ การยุติกิจการของบริษัทหลายๆแห่งได้ส่งผลให้แรงงานตกงานนับหมื่นคน ซึ่งรัฐบาลต้องตอบโจทย์ปัญหานี้ให้ได้ คุณเหงวียนถิ่กีมทุ้ย สมาชิกรัฐสภานครดานังเห็นว่า “ รัฐสภาตั้งเป้าสร้างงานทำ ๑ ล้าน ๖ แสนตำแหน่งงานรวมทั้งแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ ๙ หมื่นคน คาดว่าปีนี้จะสร้างงานทำได้ ๑ ล้าน ๕ แสนตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติ จากสถานการณ์ที่เป็นจริงแสดงให้เห็นว่า จำนวนคนที่มีงานทำนั้นไม่มั่นคงเพราะยังมีกลุ่มคนที่มีงานทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมคิดว่าควรพิจารณาอย่างลเอียดเพื่อมีการปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับปีหน้า ”
ที่ประชุมยังรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกของการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและแก้ไขปัญหาการพัฒนาระบบนี้ที่ไม่มีการบริหารดังเช่นในปัจจุบัน ท่านโงถิ่มิงห์ รองประธานคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม เยาวชนและเด็กเห็นว่า ต้องวางแผนพัฒนาระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวะศึกษาของแต่ละจังหวัด “ หากเราไม่ทำการสำรวจความต้องการของสังคมและเน้นแต่ขยายและเพิ่มการรับสมัครนักศึกษาอย่างเดียวก็จะส่งผลกระทบในทางลบอย่างหนัก ดิฉันขอยกตัวอย่างบริษัทที่ผลิตสินค้าแต่ไม่คำนึงถึงความต้องการของตลาดและไม่หาตลาดรองรับ แล้วใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ”
บรรดาสมาชิกรัฐสภาต่างเห็นว่า การปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี ๒๐๑๒ กำลังเดินถูกทิศทางจนสามารถประสบผลตามมติของพรรคและรัฐสภา โดยเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ มีการรักษาสวัสดิการสังคม เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ในระดับหนึ่ง สำหรับเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจปี ๒๐๑๓ ที่ประชุมเห็นว่า รัฐบาลต้องมีนโยบายที่เด็ดขาด และคล่องตัว รวมทั้งการระดมพลังของทั้งระบบการเมืองเข้าร่วมการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หากทำได้เช่นนี้ก็จะประสบความสำเร็จ ./.
Ngoc Anh - VOV5