(VOVWORLD) - ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกประสบอุปสรรคในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจ และได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นผ่านการเติบโตของกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่ไหลเข้าเวียดนาม ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นของสถานประกอบการต่างชาติต่อศักยภาพเศรษฐกิจของเวียดนามที่คงไว้ในระดับเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง
การผลิตในสถานประกอบการ FDI แห่งหนึ่งในเวียดนาม (VNA) |
ตามรายงานสถิติของกระทรวงวางแผนและการลงทุน ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่จดทะเบียนบรรลุเกือบ 1 หมื่น 5 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 สะท้อนความเชื่อมั่นในเชิงบวกของนักลงทุนต่างชาติต่อเศรษฐกิจเวียดนาม โดยกลุ่มบริษัทและสถานประกอบการหลายแห่งแสดงความประสงค์ที่จะลงทุนในเวียดนามต่อไป ความคาดหวังในการดึงดูดเงินลงทุน FDI ในตลอดทั้งปี 2024 อาจบรรลุประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
แนวโน้มที่สดใสด้านเศรษฐกิจ-ปัจจัยสำคัญในการดึงดูดเงินทุน
FDI ในเวลาที่ผ่านมา ประชามติต่างประเทศ สถาบันการเงินและองค์กรระหว่างประเทศยังคงมีการวิเคราะห์ในเชิงบวกต่อการพัฒนาของเศรษฐกิจเวียดนาม เช่นบริษัทที่ปรึกษาอิสระชั้นนำของโลก Oxford Economics ได้คาดการณ์ว่า การขยายตัว GDP ของเวียดนามในปี 2024 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 ในขณะที่ธนาคาร United Overseas - UOB ประเทศสิงคโปร์คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะอยู่ที่ร้อยละ 6 ในปี 2024 และร้อยละ 6.4 ในปี 2025 ส่วน ING THINK ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิเคราะห์เศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า การขยายตัว GDP ของเวียดนามในปี 2024 จะอยู่ที่ร้อยละ 6 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขการขยายตัวสูงที่สุดในภูมิภาค และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.5 ภายในปี 2025 ในขณะเดียวกัน S&P Global Ratings ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ศักยภาพเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงเป็นบวก โดยการเติบโตของ GDP จะอยู่ที่ร้อยละ 5.8 ในปี 2024 และจะกลับสู่แนวโน้มในระยะยาวที่ร้อยละ 6.5-7 ในอีก 3 ถึง 4 ปีข้างหน้า
ตามการประเมินของกลุ่มบริษัท Standard Chartered ของอังกฤษ เวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศนำหน้าที่มีอัตราการเติบโตในปี 2024 อยู่ที่กว่าร้อยละ 6 นาย โฮเซ ไวนาลส์ ประธานกลุ่มบริษัทฯ แสดงความเห็นว่า
“เมื่อการจัดอันดับเครดิตของประเทศเพิ่มขึ้น เวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนได้มากขึ้น ทั้งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและเงินลงทุนทางอ้อม นั่นเป็นผลในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจเวียดนาม ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างแข็งขัน ผมคิดว่า เวียดนามสามารถตั้งเป้าหมายการเติบโตที่สูงขึ้นได้เพราะเวียดนามมีศักยภาพและน่าดึงดูดใจเพื่อเติบโตได้เร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก อัตราการเติบโตของเวียดนามที่ร้อยละ 6 ในปีนี้ถือเป็นข่าวดี เพราะตัวเลขนี้สูงกว่าร้อยละ 3 ที่เศรษฐกิจอื่นๆ สามารถบรรลุได้”
ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี เศรษฐกิจเวียดนามได้รับการคาดการณ์ว่า จะบรรลุผลงานในเชิงบวกมากขึ้น โดยธนาคารโลกหรือ WB กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF และสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 หรือ AMRO ต่างคาดการณ์ว่า การเติบโตของเวียดนามในปี 2024 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.5 - 6
นาย ฮอง ซุน ประธานสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีในเวียดนามหรือ Kocham (chinhphu.vn) |
จุดหมายปลายทางที่เต็มศักยภาพของนักลงทุนต่างชาติ
จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เงินลงทุน FDI ในเวียดนามในปีนี้จึงมีการเติบโตที่น่าประทับใจ ที่น่าสนใจคือ เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ปฏิบัติในเวียดนามในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่น 8 ร้อย 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นี่เป็นจำนวนเงิยลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ได้รับการปฏิบัติที่สูงสุดในช่วง 6 เดือนแรกของรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงถือเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญในระยะกลางและระยะยาวในสภาวการณ์ที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกกำลังผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างใหม่ นาย จูอ๊ก ลี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF ได้ประเมินว่า
“เวียดนามสามารถยืนยันถึงสถานะของตนต่อบรรดาผู้นำของประเทศสมาชิกของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก เพราะสถานประกอบการและกลุ่มบริษัทระดับโลกกำลังแสวงหาแหล่งลงทุนที่มั่นคง คล่องตัวและมีโอกาสขยายการลงทุน”
ในรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจหรือ BCI ของไตรมาสแรกของปี 2024 ของสมาพันธ์สถานประกอบการยุโรปในเวียดนามหรือ EuroCham ปรากฎว่า สถานประกอบการร้อยละ 54 ที่ตอบแบบสำรวจเผยว่า จะแนะนำเวียดนามให้แก่นักลงทุนต่างชาติอื่นๆ และเวียดนามเป็นตลาดที่คล่องตัวและมีศักยภาพแห่งการเติบโตในระดับสูง
หุ้นส่วนที่สำคัญอีกรายของเวียดนามคือญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจของเวียดนาม โดยผลการสำรวจบรรยากาศการประกอบธุรกิจจัดทำโดย JETRO ที่ประกาศในไตรมาสแรกของปี 2024 แสดงให้เห็นว่า ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า อัตราสถานประกอบการญี่ปุ่นที่จะขยายการประกอบธุรกิจในเวียดนามจะอยู่ที่เกือบร้อยละ 57
สำหรับสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลี ในกรอบการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กลุ่มบริษัทชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลีหลายแห่ง เช่น Samsung, CJ, Posco, LG, Daewoo E&C, GS Engineering & Construction Corp, Celltrion และธนาคาร KDB bank ต่างแสดงความประสงค์ที่จะขยายการลงทุนในประเทศเวียดนามในเวลาที่จะถึง นาย ฮอง ซุน ประธานสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีในเวียดนามหรือ Kocham เผยว่า
“นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำและยืนยันหลายครั้งเกี่ยวกับการสนับสนุน ช่วยเหลือและแก้ไขอุปสรรคให้แก่นักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีที่ประกอบธุรกิจในเวียดนาม เรารู้สึกดีใจเมื่อเห็นว่ามีนักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีจำนวนมากตั้งใจขยายการลงทุนในเวียดนามในอนาคตอันใกล้นี้”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความเห็นว่า เวียดนามเป็นตลาดที่น่าดึงดูดใจต่อนักลงทุนต่างชาติและเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในเวลาที่จะถึง ทั้งนี้ การที่นักลงทุนต่างชาติชื่นชมศักยภาพที่เข้มแข็งของตลาดเวียดนามเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามดึงดูดเงินลงทุน FDI ในช่วงครึ่งหลังของปีต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในปีนี้.