ทั่วโลกได้ก้าวสู่ปีใหม่ 2024 ในสภาวการณ์ที่ปีที่ผ่านมามีความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ความปรารถนาเกี่ยวกับสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนากลายเป็นสิ่งที่จำเป็นของทุกประเทศ
สันติภาพบนพื้นฐานของความไว้วางใจและความคาดหวัง
ในสารเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้กล่าวถึงความปวดร้าวจากสงคราม ความอดอยากและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่มนุษยชาติต้องเผชิญในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเห็นว่า ประเทศและชุมชนต่างๆ ต้องละทิ้งการโทษกันไปมาเพื่อหันมาร่วมกันสร้างสรรค์ความไว้วางใจและฟื้นฟูความคาดหวัง
“ปี 2024 เป็นปีแห่งการฟื้นฟูความไว้วางใจและความคาดหวัง พวกเราต้องแก้ไขความแตกแยกเพื่อแสวงหามาตรการเพื่อสภาพภูมิอากาศ พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ระบบการเงินโลกที่มีความยุติธรรมมากขึ้นสำหรับทุกคน ต่อต้านการเลือกปฏิบัติและก่อความเกลียดชัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและชุมชนต่างๆ”
ในบทปราศรัยต้อนรับปีใหม่ นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ย้ำถึงความรักและคุณค่าครอบครัว โดยเผยว่า ในยุคที่เต็มไปด้วยความผันผวน คุณค่าของครอบครัวเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ทางสังคมที่ใหญ่กว่า เป็นปัจจัยเพื่อสร้างโลกแห่งความรักใคร่มากขึ้น
“ในทุกยุคทุกสมัย การต้อนรับปีใหม่หมายความว่า เป็นการจุดประกายความหวังใหม่ โดยเฉพาะความหวังที่จะทำให้คนที่เรารักมีความสุข ที่รัสเซีย ปีใหม่ 2024 ถูกกำหนดให้เป็นปีแห่งครอบครัว ครอบครัวเป็นที่ที่เด็กเติบโต ได้รับความสนใจและการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ มีความรักและการเคารพกัน ความเชื่อมโยงระหว่างสมาชิกครอบครัวและความรักต่อครอบครัว จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความรักและการรับใช้ปิตุภูมิ”
ในวันแรกของปีใหม่ 2024 นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐและนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนได้ส่งโทรเลขอวยพรระหว่างกัน โดยยืนยันว่า ความไว้วางใจเป็นเสาหลักเพื่อสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ต่างๆ การรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2024 เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศเสริมสร้างความไว้วางใจ ควบคุมการแข่งขันระหว่างสองประเทศอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อเสถียรภาพและการพัฒนาของทั้งสองประเทศ ภูมิภาคและโลก
ปีของการคัดเลือกที่สำคัญ
แม้จะมีความตั้งใจฟื้นฟูความไว้วางใจและความคาดหวังแต่โลกได้ย่างเข้าปีใหม่พร้อมความท้าทายใหญ่ การปะทะที่ยืดเยื้อและเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แข็งแรงมากนักได้เพิ่มแรงกดดันต่อหลายประเทศและภูมิภาคในสภาวการณ์ที่จะมีการจัดกิจกรรมทางการเมืองใหญ่ในปีนี้
ในยุโรป บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปหรืออียูจะประชุมกันเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขความชะงักงันในการธำรงการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและการทหารในระยะยาวให้แก่ยูเครน บรรดาผู้นำอียูต้องมีปฏิบัติอย่างรวดเร็วเพราะการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนอาจสร้างอุปสรรคที่ยากจะคาดเดาได้ ซึ่งนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยว่า ปีนี้เป็นปีของการตัดสินในที่สำคัญของต่อยุโรป
“ปี 2024 เป็นปีของการตัดสินใจที่สำคัญ พวกเราจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกสร้างสรรค์ยุโรปที่เข้มแข็งมากขึ้น และมีอธิปไตยหรือไม่ รวมถึงปฏิบัติการของยุโรปเพื่อสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและสันติภาพในยุโรป”
ส่วนสำหรับพระสันตะปาปาฟรานซิส ปีนี้เป็นปีที่มนุษยชาติต้องตั้งสินในเกี่ยวกับการต่อต้านสงคราม ในบทปราศรัย“Urbi et Orbi” (ต่อเมืองและโลก) เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงย้ำว่า พระเยซูประสูติเป็นทารกน้อย ดังนั้น เด็กที่สูญเสียวัยเด็กเนื่องจากสงครามก็คือความปวดร้าวที่พระเยซูต้องเผชิญ ดังนั้น พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเรียกร้องให้ประเทศและประชาชาติต่างๆต้องฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่างกัน เพื่อต่อต้านสงคราม โดยเริ่มจากการไม่แข่งขันด้านอาวุธ
ปีนี้ นอกจากการแก้ไขความท้าทายต่างๆ มนุษยชาติจะต้องมีการคัดเลือกที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการสร้างสรรค์โลกในอนาคต ซึ่งการประชุมสุดยอดอนาคตของสหประชาชาติจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 22 -23 กันยายนปีนี้ เพื่อจัดทำสนธิสัญญาเกี่ยวกับอนาคตให้แก่มนุษยชาติ.