ปฏิบัติตามกฎหมายเวียดนามและกฎหมายสากล
Thu Hoa/VOV5 -  
(VOVWORLD) - สำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามได้จับกุมตัวผู้ที่ทำกสนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ใส่ร้ายป้ายสีประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตามประมวลกฎหมายอาญามาตราที่ 258 และ 88 ซึ่งการจับกุมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ถูกต้องเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย
การจับกุมตัวผู้ที่ทำผิดกฎหมายเพื่อดำเนินคดีถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่จำเป็นของสำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายในทุกประเทศที่มีอธิปไตย แต่อย่างไรก็ตาม มีองค์การ NGO บางแห่งที่ไม่มีเจตนาดีต่อเวียดนามได้ฉกฉวยเหตุการณ์นี้เพื่อใส่ร้ายป้ายสีว่า “เวียดนามละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” อีกทั้งเสนอให้เวียดนามปฏิบัติตามหน้าที่และคำมั่นระหว่างประเทศและปล่อยตัวกลุ่มคนที่ถูกจับกุม ซึ่งสิ่งนี้ก็เหมือนเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างอุกอาจ ไม่สะท้อนสถานการณ์ความเป็นจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบกฎหมายของรัฐเวียดนาม
กฎหมายเวียดนามสอดคล้องกับสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ก่อนอื่นต้องยืนยันว่า ประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายฉบับอื่นๆในปัจจุบันของเวียดนามล้วนได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาและถูกประกาศใช้ภายใต้หลักการและกระบวนการร่างเอกสารกฎหมาย รวมทั้งการรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชนทุกชั้นชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งผ่านกระบวนการต่างๆเหล่านี้ ระบบกฎหมายของเวียดนามได้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์แห่งประชาธิปไตย ส่งเสริมสติปัญญาของปวงชน สะท้อนความมุ่งมั่น ความปรารถนาและความคาดหวังของประชาชนเวียดนาม ค้ำประกันความมีประชาธิปไตย ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของสังคมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของสังคมเวียดนาม
นอกจากนั้น ในกระบวนการร่างกฎหมาย เวียดนามได้ให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ได้เข้าร่วมเพื่อประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของประเทศ มาตราที่ 2 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษชนที่ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมปี 1948 ได้ระบุว่า “ทุกคนมีสิทธิ์และเสรีภาพที่สมบูรณ์ที่ถูกระบุในปฏิญญานี้” รวมทั้งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือตามมาตราที่ 29 ของปฏิญญาได้ระบุว่า “การใช้สิทธิเสรีภาพต่างๆต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ให้ความเคารพและยอมรับสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ตลอดจนความต้องการที่ชอบธรรมตามศีลธรรม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของส่วนรวมและการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในสังคมที่มีประชาธิปไตย” ซึ่งเวียดนามได้ประยุกต์ใช้อย่างสมบูรณ์ในการจัดทำระบบกฎหมายของตน โดยพลเมืองเวียดนามทุกคนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ไม่มีการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รวมทั้งไม่ส่งผลต่อผลประโยชน์ของคณะ ประเทศและประชาชาติ
เช่นเดียวกับเรื่องดังกล่าว เวียดนามก็ใช้มาตราที่ 19 ของสนธิสัญญาสากลว่าด้วยสิทธิพลเรือนและการเมือง ที่สมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติอนุมัติเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมปี 1966 โดยระบุว่า “ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” แต่การใช้สิทธิดังกล่าว “ต้องผูกพันกับหน้าที่และความรับผิดชอบพิเศษ และมีข้อจำกัดในบางด้านตามกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ความเคารพสิทธิและชื่อเสียงของผู้อื่น รักษาความมั่นคงของประเทศหรือความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม สุขภาพหรือศีลธรรมของสังคม”
เสรีภาพในกรอบกฎหมาย
จากสถานการณ์ที่เป็นจริงในโลกแสดงให้เห็นว่า ไม่มีประเทศใดที่พลเมืองมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างสมบูรณ์ หากสิทธินี้มักจะถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดของกฎหมาย บนเจตนารมณ์ขั้นพื้นฐานของสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่เวียดนาม พลเมืองทุกคนต่างมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตน แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่า สิทธิ์นี้ต้องได้รับการปฏิบัติในกรอบกฎหมาย ไม่ละเมิดผลประโยชน์ของผู้อื่นและผลประโยชน์ของประเทศ มาตราที่ 258 ของประมวลกฎหมายอาญามีข้อกำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ประกอบด้วย “การฉกฉวยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพด้านการสื่อสารมวลชน เสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนา เสรีภาพในการประชุม จัดตั้งสมาคมและสิทธิเสรีภาพด้านประชาธิปไตยอื่นๆที่ละเมิดผลประโยชน์ของรัฐ สิทธิผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายขององค์กรและพลเมือง”
การกระทำผิดกฎหมายของผู้ที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมามีความชัดเจนมาก นั่นคือพฤติกรรมของลัทธิเสรีภาพหัวรุนแรง การสร้างความไร้เสถียรภาพและสร้างคววามวุ่นวายในสังคมที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ละเมิดกฎหมายเวียดนามเท่านั้น หากยังขัดกับมาตราที่ 29 ของปฏิญญาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและมาตราที่ 19 ของสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิพลเรือนและการเมือง
กฎหมายเวียดนามให้ความเคารพและปกป้องสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งสิทธิการแสดงความคิดเห็นของพลเมือง แต่เวียดนามก็ยืนหยัดลงโทษการกระทำผิดกฎหมาย ฉกฉวยสิทธินี้เพื่อละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของคนอื่น รวมทั้งการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติ.
Thu Hoa/VOV5