เวียดนามเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 50 สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (VNA)

หนังสือพิมพ์ Times of Malta  ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม ได้ลงบทความเกี่ยวกับปัจจัยที่ช่วยให้เวียดนามมีความมั่นใจในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 ในฐานะเป็นตัวแทนของอาเซียน โดยระบุว่า การสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการมีส่วนร่วมส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนในทั่วโลกและนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เวียดนามได้รับการเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกสภาฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาที่ถูกต้องของเวียดนาม การวางนโยบายพัฒนาสิทธิมนุษยชนที่ถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ส่วนเว็บไซต์ BBC News ของอังกฤษและเว็บไซต์ The Diplomat  ของสหรัฐได้ให้ข้อสังเกตว่า  “พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีการปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบ โดยถือประชาชนเหนือกว่าสิ่งอื่นใด” ปัจจุบัน เวียดนามติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวดัชนีพัฒนามนุษย์หรือ HDI สูงที่สุดในโลก โดยในช่วงปี 1990-2019 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.8  ส่วนตามรายงานดัชนีความสุขโลกประจำปี 2020 เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 83 จากจำนวนทั้งหมด 156 ประเทศและดินแดน เลื่อนขึ้น 11 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2019  โดยสื่อต่างๆได้อ้างคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติว่า ความสำเร็จดังกล่าวของเวียดนามมาจากความพยายามและแนวทางของรัฐบาลในการสร้างสรรค์พัฒนาสิทธิมนุษยชนและการส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม

ส่วนหนังสือพิมพ์ Marx21 ของอิตาลีได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ประกาศของเวียดนามเกี่ยวกับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ” โดยได้ย้ำว่า การที่เวียดนามได้รับการเสนอชื่อให้เข้าเป็นสมาชิกสภาฯครั้งที่ 2 ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ถูกต้อง นโยบายพัฒนาสิทธิมนุษยชน ผลสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจนและการค้ำประกันสวัสดิการสังคมของเวียดนาม ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก โดยในฐานะสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2014-2016 เวียดนามได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของสภาฯอย่างสมบูรณ์และมีความรับผิดชอบ รัฐบาลเวียดนามได้ยืนยันถึงการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเสนอความคิดริเริ่มต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในทั่วโลก การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นตัวแทนของอาเซียนในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาฯวาระปี 2023-2025 แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจและความเห็นพ้องในระดับสูงของอาเซียนในด้านนี้

จากการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาฯวาระปี 2023-2025 เวียดนามได้ให้คำมั่นและยึดหลักการปฏิบัติด้วยสาร “ความเคารพและความเข้าใจ การสนทนาและความร่วมมือ การค้ำประกันสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชนทุกคน” โดยในการประชุมครั้งที่ 50 สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่กำลังมีขึ้น  ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เวียดนามได้รายงานเกี่ยวกับความพยายามและความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในสภาวการณ์ที่เวียดนามและประเทศต่างๆกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสถานการณ์โลกที่มีความซับซ้อน ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวก็ถูกระบุในรายงานกึ่งวาระเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับกลไกการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศหรือ UPR ระยะที่ 3 ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นาง Michelle Bachelet ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติได้ชื่นชมเวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม อันเป็นการสร้างพื้นฐานให้แก่การยกระดับคุณภาพชีวิตและการค้ำประกันสิทธิต่างๆของประชาชนในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และในการฟื้นฟูประเทศหลังภาวะโควิด-19

นาง Michelle Bachelet ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (AFP)

ส่วนนาย Federico Villegas ประธานสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้เผยว่า สารของเวียดนามแสดงให้เห็นถึงปัจจัยที่ประเทศต่างๆต้องผลักดันในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาฯ ด้วยความหลากหลายทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและศาสนา ประเทศต่างๆต้องให้ความเคารพในเรื่องความแตกต่างและความดีเลิศของมนุษยชาติ รวมถึงกฎหมายสากลและสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งเผยว่า การที่ประเทศต่างๆ รวมถึงเวียดนามแสดงจุดมุ่งหมายและพร้อมส่งเสริมความร่วมมือและการสนทนาเป็นสิ่งที่จำเป็นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความซับซ้อนและระหว่างประเทศต่างๆยังเกิดปัญหาความแตกต่างในหลายด้าน

ทั้งนี้ บรรดาเอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศต่างๆประจำสหประชาชาติ ณ เมืองเจนีวา ได้ชื่นชมบทปราศัยและกิจกรรมของเวียดนามในการประชุมครั้งที่ 50 สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อีกทั้งแสดงความประทับใจเกี่ยวกับประเทศ คน ความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาของเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามและผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการค้ำประกันสิทธิต่างๆของประชาชนในเวียดนามและเสนอให้เวียดนามส่งเสริมการสนทนาและความร่วมมือกับองค์กรต่างๆของสภาฯ การเชื่อมโยงระหว่างสภาฯและองค์กรต่างๆของสหประชาชาติโดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข แรงงาน สิ่งแวดล้อมและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล.