ผลประโยชน์ของประเทศและของชาติอยู่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด
(VOVworld)-ในนัดเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12เมื่อเช้าวันที่21มกราคม ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้อ่านรายงานของคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่11เกี่ยวกับเอกสารของสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12โดยมีเนื้อหาที่สำคัญ6ประการที่คลอบคลุมกระบวนการพัฒนาในทุกด้านของประเทศ
(VOVworld)- ในนัดเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12เมื่อเช้าวันที่21มกราคม ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้อ่านรายงานของคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่11เกี่ยวกับเอกสารของสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12โดยมีเนื้อหาที่สำคัญ6ประการที่คลอบคลุมกระบวนการพัฒนาในทุกด้านของประเทศ
ท่านเหงวียนฟู้จ่องได้กล่าวว่าต้องยืนหยัดลัทธิมาคเลนิน-แนวคิดโฮจิมินห์
ยืนหยัดเส้นทางไปสู่สังคมนิยม ต้องสร้างความเป็นเอกฉันท์ในองค์กรพรรค
|
6ประเด็นที่สำคัญในรายงานที่ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้กล่าวต่อที่ประชุมใหญ่คือ การดำเนินเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมั่นคง การพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนเพื่อนำประเทศพัฒนาตามแนวทางที่ทันสมัย การส่งเสริมกลุ่มมหาสมัคคีชนทั้งชาติ การสร้างสรรค์พรรคให้บริสุทธิ์เข้มแข็งเพื่อยกระดับพลังการต่อสู้ขององค์กรพรรค
ก้าวต่อไปบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมั่นคง
ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ชี้ชัดว่าการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่เวียดนามเพิ่งผ่านพ้นจากช่วงเวลาที่ยากลำบากถึง5ปีโดยเศรษฐกิจทั้งในประเทศและเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนแต่ในที่สุดเวียดนามก็สามารถฝ่าฟันไปได้จนประสบผลงานที่สำคัญต่างๆเช่นเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ การขยายตัวได้รับการฟื้นฟูอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเมืองและสังคมมีเสถียรภาพมั่นคง ความสัมพันธ์ต่างประเทศและการผสมผสานนับวันมีการขยายกว้าง จิตใจแห่งมหาสามัคคีชนทั้งชาติได้รับการส่งเสริม สำหรับผลสำเร็จในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในรอบ30ปีที่ผ่านมา ท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ่องได้ย้ำว่า“ช่วงเวลา30ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้นเป็นช่วงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ เป็นการสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งการเติบโตในทุกด้านของพรรค รัฐและประชาชน ซึ่งในภาพรวมนั้น ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้สร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายอันเป็นการยืนยันว่า แนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคนั้นถูกต้องและมีการสร้างสรรค์ เส้นทางการพัฒนาไปสู่สังคมนิยมของเวียดนามให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศและแนวโน้มการพัฒนาของประวัติศาสตร์”
อย่างไรก็ตาม ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯยังแสดงความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้นยังไม่พร้อมเพรียงและสมบูรณ์ เป้าหมายถึงปี2020จะสามารถพัฒนาประเทศตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัยขั้นพื้นฐานนั้นไม่อาจบรรลุ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายท้องถิ่นยังลำบาก ปัญหาความเสื่อมถอยด้านแนวคิดและคุณธรรมการดำเนินชีวิตของสมาชิกพรรคส่วนหนึ่งรวมทั้งปัญหาคอรัปชั่นยังไม่ได้รับการขจัดอย่างมีประสิทธิผล ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ยืนยันว่า เส้นทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้นถูกต้อง แนวทางการพัฒนาไปสู่สังคมนิยมมีความสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาแต่โอกาสและความท้าทายในอีก5ปีข้างหน้านั้นก็ยังคงรออยู่มากมาย ดังนั้นเพื่อที่จะใช้โอกาสต่างๆให้เกิดประโยชน์เต็มที่เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายต้องทำการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว ปฏิรูปเศรษฐกิจ ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัยควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงปัญญา ปรับปรุงระเบียบการให้มีความสมบูรณ์และยืนหยัดแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม“ในเวลาข้างหน้าต้องผลักดันกระบวนการพัฒนาดังกล่าวต่อไปตามแนวทางขยายตัวตามด้านกว้างและส่วนลึก โดยเฉพาะเน้นในส่วนลึกและยกระดับคุณภาพการขยายตัวและขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันการปฏิบัติกระบวนการปฏิรูปเศรษฐกิจทุกภาคส่วนแบบบูรณาการควบคู่กับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวโดยเน้นในด้านที่สำคัญ ผลักดันการปฏิบัติสามก้าวกระโดดยุทธศาสตร์โดยเฉพาะในด้านกลไกระเบียบการของเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม”
ปกป้องเอกราช อธิปไตยและยกระดับประสิทธิภาพกิจกรรมด้านการต่างประเทศ
ในด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงวียนฟู้จ่องได้ย้ำถึงเป้าหมายการพิทักษ์รักษาประเทศ ระบอบและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ค้ำประกันความปลอดภัยด้านการสื่อสารและระบบอินเตอร์เนต ค้ำประกันผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ โดยเป้าหมายสำคัญที่สุดของหน่วยงานความมั่นคงการป้องกันประเทศคือส่งเสริมพลังรวมของชนทั้งชาติและระบบการเมือง ใช้การสนับสนุนของประชาคมระหว่างประเทศเพื่อยืนหยัดต่อสู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติ อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอย่างมั่นคง ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งด้านกลาโหมและความมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชน ทำการต่อสู้เพื่อทำลายแผนกุศโลบายของอิทธิพลที่เป็นอาริ กระชับความสัมพันธ์ร่วมมือกับต่างประเทศในด้านกลาโหมตลอดจนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาหน่วยทหารต่างๆให้ทันสมัย
ในด้านการต่างประเทศ เลขาธิการใหญ่พรรคฯได้กำชับให้ยกระดับประสิทธิภาพกิจกรรมตามเป้าหมายผลักดันและพัฒนาความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างประเทศ“ปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศและผสมผสานอย่างสำเร็จ ค้ำประกันผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ปฏิบัติคำมั่นระหว่างประเทศและข้อตกลงการค้าเสรีแบบใหม่อย่างเหมาะสมในแผนการพัฒนาที่สมบูรณ์และสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศ ผลักดันและพัฒนาความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆให้ลึกซึ้งโดยเฉพาะหุ้ นส่วนยุทธศาสตร์และประเทศใหญ่ๆที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของประเทศ นำกรอบความร่วมมือที่ได้กำหนดเข้าสู่ภาคปฏิบัติอย่างจริงจัง เป็นฝ่ายรุกในการ เข้าร่วมและส่งเสริมบทบาทในกรอบพหุภาคีโดยเฉพาะในกรอบอาเซียนและสหประชาชาติ”
สร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชน
เกี่ยวกับการส่งเสริมกลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้ยืนยันว่า นี่คือแนวทางแห่งยุทธศาสตร์ของการปฏิวัติเวียดนามและเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ต่อภารกิจการพัฒนาและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ“ต้องส่งเสริมพลังทุกแหล่ง สติปัญญาความสร้างสรรค์ของประชาชนเพื่อภารกิจการพัฒนาและปกป้องปิตุภูมิ ถือเป้าหมายการพัฒนาประเทศเวียดนามที่เอกราช สันติภาพ เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย มีความยุติธรรมและอารยธรรมเป็นจุดหมายแห่งความคล้ายคลึงกัน ให้ความเคารพความแตกต่างที่ไม่ขัดกับผลประโยชน์แห่งชาติ สามัคคีชาวเวียดนามทั้งในและต่างประเทศ กระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพรรค รัฐกับประชาชน สร้างพลังใหม่ของกลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติ โดยทุกแนวทางนโยบายของพรรคต่างเพื่อเป้าหมายเดียวคือผลประโยชน์ของประชาชน”
สำหรับกระบวนการสร้างสรรค์องค์กรพรรค ท่านเหงวียนฟู้จ่องได้กล่าวว่า ต้องยืนหยัดลัทธิมาคเลนินและแนวคิดโฮจิมินห์ ยืนหยัดเส้นทางไปสู่สังคมนิยม ต้องสร้างความเป็นเอกฉันท์ในองค์กรพรรค เปลี่ยนแปลงใหม่ด้านจิตสำนึกทางทฤษฏี ผลักดันการศึกษาแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกภาพโฮจิมินห์ ต่อต้านแนวโน้มแห่งการเสื่อมถอยและการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12เป็นวันงานแห่งความสามัคคี ประชาธิปไตย ความเป็นระเบียบวินัยและเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งภารกิจ5ปีที่ผ่านมาของสมัชชาพรรคสมัยที่11จะเป็นพื้นฐานและเป็นพลังเพื่อให้พรรคชี้นำประชาชนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญเข้มแข็งและผาสุก.