(VOVWORLD) - ในพิธีเปิดการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 สมัยที่ 15 ณ กรุงฮานอย ในเช้าวันที่ 22 พฤษภาคม ในนามของรัฐบาล นาย เลมิงห์ค้าย รองนายกรัฐมนตรีได้อ่านรายงานฉบับเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2022 สถานการณ์ความเป็นจริงของการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วงต้นปี 2023 ซึ่งรายงานได้แสดงให้เห็นถึงภาพรวมเกี่ยวกับผลสำเร็จในด้านเศรษฐกิจสังคมและประเทศ พร้อมทั้งเสนอมาตรการแก้ไขที่รัฐบาลจะปฏิบัติในเวลาข้างหน้าเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาของปีนี้
ภาพการประชุม ( quochoi.vn) |
จุดเด่นของการพัฒนา
รายงานของรองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมในช่วงปลายปีที่แล้วได้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนร่วมต่อผลงานของทั้งปี โดยมีบางดัชนีบรรลุระดับดีกว่าตัวเลขที่ได้รายงานต่อสภาแห่งชาติ เช่น จีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.02 สูงกว่ารายงานคือร้อยละ 8 จีดีพีต่อหัวประชากรอยู่ที่ 4,109 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่รายงานคือ 4,075 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.15 ต่ำกว่าที่รายงานคือร้อยละ 4 การจัดเก็บงบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ซึ่งตอบสนองความต้องการพัฒนา การปฏิบัตินโยบายสวัสดิการ ปฏิรูปเงินเดือนและหน้าที่ที่เร่งด่วนต่างๆ นายเลมิงห์ค้าย เผยว่า
“ดัชนีด้านหนี้สาธารณะ หนี้รัฐบาลและหนี้ต่างประเทศของเวียดนามได้ลดลงอย่างต่อเนื่องและอยู่ในระดับที่ปลอดภัย จนถึงปลายปีที่แล้ว รัฐบาลได้สนับสนุนเงินประมาณ 4.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ผู้ใช้แรงงานกว่า 1.4 ล้านคนและแรงงานที่ประสบความยากลำบากกว่า 68.43 ล้านคน เครื่องหมายการค้าแห่งชาติของเวียดนามในปี 2022 ก็บรรลุ 4 แสน 3 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ 32 ในกลุ่ม 100 เครื่องหมายการค้าแห่งชาติที่เข้มแข็งของโลก ส่วนองค์การจัดอันดับความไว้วางใจที่มีชื่อเสียงของโลกทั้ง 3 องค์การคือ Moody’s, S&P และ Fitch ได้คงอันดับหรือหรือปรับเพิ่มอันดับความไว้วางใจของเวียดนาม”
จากความได้เปรียบดังกล่าว ในหลายเดือนที่ผ่านมา เวียดนามได้ค้ำประกันการเติบโตของเศรษฐกิจมหภาคและความสมดุลใหญ่ๆต่อไป ซึ่งในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังประสบอุปสรรคนานัปการ จีดีพีของเวียดนามในไตรมาสแรกยังคงธำรงอัตราการขยายตัว โดยบรรลุร้อยละ 3.32 เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยลดลงร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้ว การชำระเงินของระบบธนาคารได้รับการค้ำประกัน ได้เปรียบดุลการค้า 7.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าตัวเลข 2.25 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐได้เพิ่มขึ้นประมาณ 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 รัฐบาลได้ปฏิบัติโครงการก่อสร้างสถนนไฮเวย์เหนือจรดใต้ 12 โครงการ รวมระยะทาง 723.7 กิโลเมตร ควบคู่กันนั้น งานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกก็ได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุก รอบด้านและมีประสิทธิภาพ รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย เผยต่อไปว่า
“เวียดนามได้ปฏิบัติโครงการการต่างประเทศระดับสูงของผู้นำพรรคฯ และรัฐอย่างมีประสิธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและส่งเสริมบทบาทของเวียดนามบนเวทีพหุภาคีต่างๆ การทูตเศรษฐกิจได้รับความสนใจโดยประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ ช่วยดึงดูดแหล่งพลังสนับสนุนการพัฒนา เสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อิสราเอลและส่งกองกำลังกู้ภัยไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี ซึ่งช่วยยกระดับชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเวียดนามบนเวทีโลก”
รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย |
เน้นลงทุนให้แก่พลังขับเคลื่อนต่างๆ ของการขยายตัว
สำหรับสถานการณ์ในเวลาที่จะถึง รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย กล่าวว่า เศษฐกิจจะต้องได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยที่รุนแรงของภายนอกและอุปสรรคภายในประเทศที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น รัฐบาลได้เสนอ 10 มาตรการแก้ไขหลักโดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายรักษาความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ผลักดันการขยายตัวและค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆ ของเศรษฐกิจ รัฐบาลจะเน้นในพลังขับเคลื่อนต่างๆ เช่น การบริโภค การลงทุนและการส่งออก ผลักดันการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การผลิต การประกอบธุรกิจ การนำเข้าและการส่งออก
ผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ พยายามบรรลุอัตรการเบิกจ่ายเงินในปีนี้อย่างน้อยที่ร้อยละ 95 และเน้นดึงดูดแหล่งเงินลงทุนและผลักดันโครงการลงทุนตามรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนหรือ PPP รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ย้ำว่า
“เน้นตรวจสอบและก็ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้โครงการอุตสาหกรรมหลักๆ เปิดดำเนินการโดยเร็ว เน้นพัฒนาการให้บริการที่มีศักยภาพ มีความได้เปรียบ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและมีมูลค่าเพิ่ม ปรับปรุงโครงสร้างของตลาดการท่องเที่ยว พัฒนาตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันการประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการค้า ผลักดันการฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่หลากหลายโดยใช้ศักยภาพและความได้เปรียบของท้องถิ่น”
ควบคู่กับการปฏิบัติมาตรการเหล่านี้ เวียดนามก็ต้องปรับปรุง เสริมสร้างศักยภาพและผลักดันขั้นตอนการปฏิรูปด้านกลาโหมและความมั่นคงให้ทันสมัย รักษาเอกราช อธิปไตย เอกภาพและการบูรณะภาพแห่งดินแดน พร้อมทั้งปฏิบัติกิจกรรมการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างพร้อมเพรียงและรอบด้าน ผลักดันการทูตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านใหม่ๆเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกจดิจิทัล การพัฒนาแห่งสีเขียวและยั่งยืน ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองพลเมือง การทูตวัฒนธรรมและสื่อสารการต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์
รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ยืนยันว่า การปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเวลาที่จะถึงต้องการความพยายามของทั้งระบบการเมือง ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้.