มอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม

(VOVWORLD) - พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุว่า การสร้างสรรค์วัฒนธรรมและการสร้างคนนั้นมีความผูกพันแน่นแฟ้น โดยการพัฒนาวัฒนธรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงบุคลิกภาพและสร้างคนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาวัฒนธรรมเพราะมนุษย์เป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์ เผยแพร่และได้รับประโยชน์จากวัฒนธรรมและเป็นศูนย์กลางของยุทธศาสตร์การพัฒนา ดังนั้น ควรมอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญในกระบวนการพัฒนาประเทศเวียดนาม

 

มอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม - ảnh 1ภาพการประชุมวัฒนธรรมปี 2022 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ จังหวัดบั๊กนิง

ในประวัติศาสตร์ ประชาชนเวียดนามรุ่นต่างๆได้สร้างสรรค์วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลาย ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ ส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสร้างเป็นอัตลักษณ์ของประชาชาติ เป็นพลังที่เข้มแข็งและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ อีกทั้งยืนยันสถานะของประเทศเวียดนามบนเวทีโลก

วัฒนธรรมเป็นพลังภายในและเป็นแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาประเทศและการพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

ในภารกิจการสร้างสรรค์วัฒนธรรม พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ย้ำถึงบทบาทของประชาชนในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ  โดยหลักนโยบายด้านวัฒนธรรมปี 1943 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุถึงลักษณะของวัฒนธรรมที่ประชาชนเวียดนามทุกคนมุ่งสร้างสรรค์ นั่นคือวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประชาชาติ มีความผูกพันใกล้ชิดกับประชาชนทุกภาคส่วน โดยประชาชนเป็นผู้สร้างสรรค์เพื่อวิถีชีวิตที่หลากหลายและโปร่งใส ซึ่งทัศนะนี้ได้รับการสานต่อและเพิ่มเติมในเอกสารและมติต่างๆของพรรคฯ อีกทั้งเป็นแนวทางสร้างสรรค์วัฒนธรรมเวียดนามให้เป็นพื้นฐานทางจิตใจของประชาชนและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ในการประชุมวัฒนธรรมปี 2022 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ จังหวัดบั๊กนิง นาย เหงวียนจ่องเหงียะ หัวหน้าคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาส่วนกลางได้ยืนยันอีกครั้งถึงเนื้อหาที่สำคัญของบทความ “บางปัญหาทางทฤษฎีและการปฏิบัติเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมและเส้นทางก้าวไปสู่สังคมนิยมในเวียดนาม”ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงวียนฟู้จ่องและเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 โดยระบุว่า วัฒนธรรมคือพื้นฐานทางจิตใจที่มั่นคงของสังคม “เป็นพลังภายในและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาประเทศและการพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ” ซึ่งต้องระบุวัฒนธรรมให้มีฐานะทัดเทียมกับเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม การสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรมเป็นภารกิจของประชาชนทุกคนโดยพรรคฯชี้นำ รัฐบริหารและประชาชนเป็นเจ้าของ

“การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ได้ยืนยันและยกย่องสถานะและบทบาทที่สำคัญของวัฒนธรรมและมนุษย์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในระยะใหม่ โดยต้องปลูกฝังจิตใจแห่งความรักชาติ การพึ่งตนเองและความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศอย่างเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์อย่างเต็มที่ ถือมนุษย์เป็นศูนย์กาง เป็นแกนหลัก เป็นแหล่งพลังที่สำคัญและเป็นเป้าหมายของการพัฒนา ถือคุณค่าวัฒนธรรมเป็นพื้นฐานของพลังภายในที่สำคัญเพื่อค้ำประกันการพัฒนาวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ครอบคลุมและพร้อมเพรียง การส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงามของประชาชาติและการเรียนรู้ความดีเลิศของมนุษยชาติเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”

มอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม

ภายหลังการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตลอดกว่า 35 ปี นอกจากผลสำเร็จด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมแล้ว เวียดนามยังได้บรรลุผลงานที่สำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชนได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น บทบาทของประชาชนในการสร้างสรรค์ การปฏิบัติ การมอบสิทธิ์และการได้รับประโยชน์จากวัฒนธรรมได้รับการรับรองและมีการเข้าร่วมของชุมชนในกิจกรรมวัฒนธรรมมากขึ้น ส่วนระบบกฎหมาย ระเบียบการและนโยบายด้านวัฒนธรรมได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการและสถานการณ์ของประเทศ แนวทางของพรรคฯในด้านนี้ก็ได้รับการแปรให้เป็นข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่การส่งเสริมวัฒนธรรม เวียดนามได้ให้สัตยาบันและแปรสนธิสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศให้เป็นข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรม รวมถึงสิทธิทางวัฒนธรรม อีกทั้งส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับหลักการและมาตรฐานโลก อำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยน ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม ประเทศและคนเวียดนามให้แก่ประชาชนประเทศต่างๆในโลก นาย เหงวียนซวนทั้ง ผู้อำนวยการสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์และประธานสภาทฤษฎส่วนกลางได้ย้ำว่า

“ในการปรับปรุงระเบียบการ ต้องให้ความสำคัญพิเศษต่อการกำหนดบทบาทของหน่วยงาน องค์การและบุคคลในการบริหารชี้นำการพัฒนาวัฒนธรรมและกิจกรรมวัฒนธรรม โดยรัฐจัดทำและปรับปรุงกรอบทางนิตินัยให้สมบูรณ์เพื่อสร้างรรยากาศที่เอื้อให้แก่การพัฒนา ประกาศนโยบายต่างๆเพื่อบริหารการพัฒนาด้านต่างๆ ค้ำประกันสิทธิในการสร้างสรรค์และได้รับประโยชน์จากวัฒนธรรมของประชาชนทุกภาคส่วน การพัฒนาวัฒนธรรมต้องเริ่มต้นจากประชาชน ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ได้รับประโยชน์และเข้าร่วมการจัดกิจกรรมวัฒนธรรม ตลอดจนปฏิบัตินโยบายและกฎหมายของรัฐเกี่ยวกับวัฒนธรรม”

ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก ชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชนได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น ดังนั้น ระเบียบการและนโยบายในด้านวัฒนธรรมควรเน้นการมอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการเข้าร่วมกระบวนการสร้างสรรค์วัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งมากขึ้น

วัฒนธรรมสะท้อนอัตลักษณ์ของประชาชาติ อีกทั้งสะท้อนเกียรติประวัติ คุณสมบัติ บุคลิกภาพและวิถีชีวิตของประชาชนเวียดนาม ซึ่งได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการมอบสิทธิ์ให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาคุณค่าวัฒนธรรมของบรรพบุรุษเพื่อสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลัง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด