(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กำลังอยู่ระหว่างการเยือน 3 ประเทศในสหภาพยุโรปหรืออียู คือลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์และเบลเยียมในระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม การเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูงเท่านั้น หากยังเกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมต่าง ๆ อีกด้วย นั่นคือคำมั่นร่วมมือในด้านที่แต่ละฝ่ายมีจุดแข็ง มีความต้องการและสามารถสนับสนุนกันเพื่อร่วมกันพัฒนา
นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กกับนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง |
การส่งเสริมการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงด้านอาหาร การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล การพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัลคือด้านความร่วมมือที่เวียดนามและ 3 ประเทศในสหภาพยุโรปเน้นหารือ อียูประเมินว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของภูมิภาค ส่วนเวียดนามมีความปรารถนาที่จะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความร่วมมือในด้านที่ประเทศในสหภาพยุโรปมีจุดแข็ง
การส่งเสริมความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดการเงิน
ในกรอบการเยือนลักเซมเบิร์กของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม ไฮไลท์ของการเยือนคือการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาตลาดการเงิน ลักเซมเบิร์กมีประสบการณ์สูงในด้านการเงิน ในขณะที่เวียดนามกำลังมีความต้องการเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการดึงดูดทรัพยากรทางการเงินเพื่อพัฒนาประเทศ
ในการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมการจัดตั้งกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านการเงินแห่งสีเขียวเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของลักเซมเบิร์กในด้านแหล่งเงินลงทุน โดยเฉพาะการเงินสีเขียวเพื่อสนับสนุนเวียดนามในการปฏิบัติยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความพยายามในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการปฏิบัติคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุม COP 26 ปี 2021 นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนามหรือ EVFTA เป็นแรงผลักดันสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย สนับสนุนสหภาพยุโรปให้อนุมัติข้อตกลงการค้าและการลงทุนเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรือEVIPA โดยเร็ว พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนเวียดนามในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ การเงิน สภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะ นำความร่วมมือด้านการเงินสีเขียวซึ่งเป็นจุดแข็งของลักเซมเบิร์กให้กลายเป็นเสาหลักของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กับนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ |
ร่วมมือเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน
สำรหรับเนเธอร์แลนด์ ในตลอดเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้สร้างสัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่ดีงาม ความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ถือเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ซึ่งพัฒนาอย่างดีงามในทุกด้าน ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการน้ำเมื่อเดือนตุลาคมปี 2010 ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและความมั่นคงด้านอาหารเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2014 ซึ่งเป็นด้านที่เนเธอร์แลนด์มีจุดแข็งและเวียดนามมีหลายด้านที่คล้ายคลึงกันซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากความร่วมมือและความช่วยเหลือจากเนเธอร์แลนด์
ในการเจรจากับนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ค รูทท์ และในการพบปะกับบรรดาผู้นำของเนเธอร์แลนด์ในกรอบการเยือนในระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้รับคำมั่นที่จะทำให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยเนเธอร์แลนด์พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ เทคโนโลยีและเงินกู้พิเศษเพื่อช่วยให้เวียดนามพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ระบบโลจิสติกส์ การเปลี่ยนแปลงสีเขียว การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการน้ำ โดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ทางการอัมสเตอร์ดัมยืนยันว่า จะส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนเวียดนามในด้านเทคโนโลยีการขุดทรายในทะเล การป้องกันดินถล่ม และแก้ไขกฎหมายทรัพยากรน้ำในเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงและเอกสารความร่วมมือในด้านต่าง ๆ หลายฉบับ เช่น การพัฒนาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพและการคัดเลือกพันธุ์พืชที่มีมูลค่าสูง การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การฝึกอบรม นวัตกรรมและเทคโนโลยี และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติด้านการเกษตรอัจฉริยะ
พิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ณ ประเทศเบลเยี่ยม |
เวียดนามและเบลเยียมเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตร การลงทุน และการค้า
เบลเยียมเป็นประเทศที่ 3 ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายในกรอบการเยือนยุโรปครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เบลเยียมเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 6 ของเวียดนามในสหภาพยุโรป รองจากเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรีย ถึงแม้ว่าจะเป็นตลาดเล็ก แต่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเวียดนามกับเบลเยียมอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศในสหภาพยุโรปและประเทศยุโรปอื่น ๆ โดยเฉพาะ การส่งออกของเวียดนาม เนื่องจากสินค้าเวียดนามได้รับการนำเข้าผ่านเบลเยียมก่อนกระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันตก ในกรอบการเยือน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และนาย อเล็กซานเดอร์ เดอ ครู นายกรัฐมนตรีเบลเยียมได้เห็นพ้องกันว่า ข้อตกลง EVFTA เป็นแรงผลักดันสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย เบลเยียมสนับสนุนการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพของทั้งสองฝ่าย โดยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อมีโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ในโอกาสนี้ ได้มีการลงนามเอกสารความร่วมมือในด้านการเกษตร การพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล ความปลอดภัยด้านอาหารและการพัฒนาถ่านกัมมันต์หลายฉบับระหว่างกระทรวง สำนักงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ
ในปี 2023 เวียดนามจะร่วมมือกับลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์และเบลเยียมเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ภายหลังการเยือนครั้งนี้ ด้วยผลงานที่ได้บรรลุดังกล่าว ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับทั้ง 3 ประเทศในสหภาพยุโรปจะได้รับการส่งเสริมให้เข้มแข็งมากขึ้นอย่างแน่นอน.