ยุโรปและความขัดแย้งในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพ
Hong Van- VOV5 -  
(VOVWORLD) -
สหภาพยุโรปหรืออียูยังไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพหลังจากที่ฮังการีและโปแลนด์คัดค้านข้อตกลงนี้ในการประชุมสุดยอดของอียูที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 29-30 มิถุนายน ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งท่าทีของสองประเทศนี้แสดงให้เห็นว่า ปัญหาผู้อพยพเป็นปัญหาที่อียูไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายนัก
อียูยังไม่มีความเห็นพ้องกันเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ (Photo: AFP/ TTXVN) |
การประชุมสุดยอดอียูมีขึ้นในสภาวการณ์ที่จำนวนผู้อพยพเสียชีวิตในระหว่างการพยายามเข้ายุโรปอย่างผิดกฎหมายนับวันเพิ่มมากขึ้น ก่อนการประชุม 2 สัปดาห์ ได้เกิดเหตุเรือผู้อพยพอัปปาง เรือดังกล่าวบรรทุกผู้ลี้ภัยมากถึง 750 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุเรือผู้อพยพอัปปางที่มีการสูญเสียมากที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีผู้เสียชีวิต 82 คน รอดชีวิต 104 คน ส่วนที่เหลือกำลังสูญหาย องค์การนิรโทษกรรมสากลเห็นว่า เหตุการณ์นี้เป็นผลพวงจากการปฏิบัตินโยบาย “ป้อมปราการแห่งยุโรป”ที่เบลเยียมยืนหยัดปฏิบัตินับตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่ชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคนอพยพไปยังยุโรปเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะภายในประเทศเมื่อปี 2015
ความไม่พอใจของฮังการีและโปแลนด์
ตามข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพที่ถูกยื่นเสนอต่อการประชุมสุดยอดอียู แต่ละประเทศสมาชิกอียูมีหน้าที่ต้องรับผู้อพยพเข้าเมือง ถ้าหากไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 20,000 ยูโรต่อผู้อพยพหนึ่งคน โดยเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภายหลังการเจรจามาเป็นเวลาหลายเดือน ในการประชุมสภายุโรป ณ ประเทศลักเซมเบิร์ก บรรดารัฐมนตรีมหาดไทยของอียูได้เห็นพ้องเกี่ยวกับจุดยืนในการเจรจาเกี่ยวกับระเบียบการขอลี้ภัย กลไกการบริหารผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ซึ่งข้อตกลงนี้ได้รับการประเมินว่า สร้างความสมดุลย์เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อผู้อพยพและแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีภายในอียูและเป็นก้าวกระโดดเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ ถ้าหากข้อตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นพ้องในการเจรจารอบสุดท้ายกับรัฐสภายุโรปและรัฐสภาแต่ละประเทศสมาชิกอียูให้สัตยาบัน ก็อาจเปลี่ยนแปลงปัญหาการอพยพในยุโรป แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ปฏิบัติได้ง่ายนัก
ฮังการีและโปแลนด์เป็นสองประเทศที่คัดค้านข้อตกลงนี้ พร้อมทั้งประกาศว่า จะไม่ร่วมมือ และแสวงหามาตรการขัดขวางการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับผู้อพยพและในการประชุมสุดยอดอียูเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน สองประเทศนี้เห็นว่า ข้อตกลงได้รับการอนุมัติจากเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ความเห็นพ้องที่เป็นเอกฉันท์
ในการกล่าวปราศรัยภายหลังการประชุมสุดยอด ณ กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้นำฮังการีและโปแลนด์ถือข้อตกลงนี้เป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศและเห็นว่า ข้อตกลงนี้จะส่งเสริมกระแสผู้อพยพไปยังยุโรปและเอื้อให้แก่การค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาแตอุช มอราวีแยตสกีเห็นว่า การเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 20,000 ยูโร เป็นค่าปรับและเป็นการบังคับ พร้อมทั้งเผยว่า ยุโรปที่มีเขตชายแดนที่ปลอดภัยจะไม่มีการอพยพผิดกฎหมาย ไม่มีการปรับเงิน โปแลนด์มีแผนการจัดการสำรวจประชามติเกี่ยวกับการตั้งที่อยู่อาศัยสำหรับผู้อพยพ ซึ่งประจวบกับการจัดการเลือกตั้งรัฐสภาในปีนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban เผยว่า จะขัดขวางข้อตกลงเกี่ยวกับผู้อพยพใหม่จนกว่าจะบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และถือข้อตกลงนี้เป็นภัยคุกคามที่อันตรายต่อฮังการี
ในการประกาศเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ประธานสภายุโรป Charles Michel เห็นว่า มุมมองของโปแลนด์และฮังการีได้รับการพิจารณา แต่ย้ำว่า "ปัญหาผู้อพยพเป็นความท้าทายสำหรับยุโรป ซึ่งจำเป็นต้องมีการตอบสนองร่วมกัน" พร้อมทั้งเผยว่า จะประเมินสถานการณ์ผู้อพยพและกระบวนการปฏิบัตินโยบายต่างๆเพื่อค้ำประกันการปกป้องเขตชายแดนของอียูและช่วยชีวิตผู้อพยพในทะเล อีกทั้งเห็นว่า เหตุเรือผู้อพยพอัปปางที่ผ่านมาเป็นคำเตือนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการที่อียูต้องพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อแก้ไขความท้าทายจากปัญหาผู้อพยพในยุโรป
ปัญหาผู้อพยพเป็นปัญหาที่ร้อนระอุของอียู
ความชะงักงันครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ปัญหาผู้อพยพได้กลายเป็นประเด็นที่ร้อนระบุในการประชุมสุดยอดของอียู สำหรับการที่ผู้อพยพพยายามข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้ายุโรปและเกิดเหตุเรือขนส่งผู้อพยพอัปปาง ยุโรปยังไม่แสวงหามาตรการที่มีประสิทธิภาพ ในการประชุมสุดยอดอียู นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ค รุตเต ได้เสนอให้บรรดาผู้นำอียูหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไป ส่วนนายกรัฐมนตรีเบลเยียม Alexander De Croo เห็นว่า ปัญหาผู้อพยพต้องได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมสุดยอดทุกครั้ง
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นาย Pedro Sanchez นายกรัฐมนตรีสเปน ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนอียูได้เผยว่า อียูมีความประสงค์ที่จะบรรลุข้อตกลงในปลายปีนี้ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาผู้อพยพนับพันคนที่พยายามเข้ายุโรป ในมุมมองทางการเมือง การบรรลุข้อตกลงนี้จะเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญภายหลังหลายปีที่อียูต้องเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพ ในขณะที่บรรดาประเทศอียูยังไม่มีนโยบายที่เหมาะสมเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ ผู้อพยพหลายๆคนยังคงพยายามข้ามทะเลเข้ายุโรปด้วยความหวังว่า จะมีชีวิตที่ดีขึ้น.
Hong Van- VOV5