(VOVworld)- ภายหลังเตรียมการมาเป็นเวลาหลายปี
บรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการจัดตั้ง
ประชาคมอาเซียน เพื่อสถาปนาประชาคมแห่งภูมิภาคที่เอกภาพ
สันติภาพและเจริญรุ่งเรืองตลอดจนความพยายามมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อสันติภาพ
เสถียรภาพและการพัฒนาของโลก
(VOVworld)- ภายหลังเตรียมการมาเป็นเวลาหลายปี บรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการจัดตั้งประชาคมอาเซียน เพื่อสถาปนาประชาคมแห่งภูมิภาคที่เอกภาพ สันติภาพและเจริญรุ่งเรืองตลอดจนความพยายามมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของโลก
วันที่21พฤศจิกายน การประชุมสุดยอดอาเซียน27ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เมื่อผู้นำ10ชาติสมาชิกได้ร่วมลงนามในปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการจัดตั้งประชาคมอาเซียน 2015 (2015 Kuala Lumpur Declaration on the Establishment of the ASEAN Community) และ ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2025: มุ่งหน้าไปด้วยกัน (Kuala Lumpur Declaration on the ASEAN 2025: Forging Ahead Together) โดยมีเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและผู้นำ8ประเทศหุ้นส่วนและคู่สนทนาของอาเซียนเป็นสักขีพยาน
อาเซียนจะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการเมืองโลก
ตามเนื้อหาของปฏิญญาฯ ประชาคมอาเซียนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่31ธันวาคมปี2015ด้วยสามเสาหลักคือ ประชาคมการเมืองความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจและประชาคมวัฒนธรรมสังคม ซึ่งการสถาปนาประชาคมอาเซียนเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างยิ่งใหญ่เพราะได้นำอาเซียนก้าวเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่ที่มีความผูกพันธ์มากขึ้นทางการเมือง การเชื่อมโยงทางด้านเศรษฐกิจ ร่วมแบกรับความรับผิดชอบทางสังคมเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกันให้แก่ทุกประเทศสมาชิก
ปฏิญญาว่าด้วยวิสัยทัศน์อาเซียนได้ย้ำถึงความตั้งใจของอาเซียนในการเสริมสร้างความมั่นคงของประชาคม ขยายผลงานที่ได้บรรลุและเพิ่มความลึกซึ้งให้แก่กระบวนการเชื่อมโยงเพื่อสร้างประชาคมที่ยึดมั่นในกฎกติกา มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นและได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึงจากกระบวนการนี้
ตามความเห็นของเลขาธิการอาเซียน เลเลืองมิงห์ การจัดตั้งประชาคมอาเซียนได้เอื้อประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อกระบวนการพัฒนา โดยในด้านการเมืองความมั่นคง จากความร่วมมือประสานงานที่ไม่แน่นแฟ้นจนก้าวเข้าสู่การสร้างเป็นประชาคมที่เอกภาพได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของอาเซียนในการเสริมสร้างบทบาทการเป็นฝ่ายรุกเพื่อแสวงหามาตรการต่างๆสำหรับปัญหาเกี่ยวกับสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
“จากกลไกความร่วมมือที่อาเซียนได้ริเริ่มได้มีการเปิดฟอรั่มต่างๆที่น่าไว้วางใจเพื่อทำการสนทนาว่าด้วยความร่วมมือในปัญหาของความมั่นคง สันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาที่ไม่เพียงแต่อยู่ในกรอบของอาเซียนเท่านั้นหากรวมทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีความซับซ้อนและหลากหลายปัญหาบวกกับการแทรกแซงที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของประเทศใหญ่พร้อมการประสานผลประโยชน์ แม้กระทั่งปัญหาการเผชิญหน้ากัน”
เวียดนามแบ่งรับผลประโยชน์และหน้าที่ความรับผิดชอบร่วม
การเปิดตัวประชาคมอาเซียนไม่เพียงแต่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ต่อภูมิภาคเท่านั้นหากสำหรับเวียดนามนี่ถือเป็นการสร้างก้าวเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในกระบวนการผสมผสานและการเปิดศักราชแห่งการพัฒนาใหม่ เพราะควบคู่กับการที่จะได้รับโอกาสใหญ่ๆมากมาย เวียดนามก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจการค้า นั่นคือการพัฒนาที่มีความเสมอภาคในทุกด้านซึ่งทำให้เวียดนามต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบและทันการไม่ว่าจะเป็นความท้าทายด้านกฎหมาย การเปิดตลาด การแข่งขันที่โปร่งใสและเสมอภาค หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละสมาชิกต่อประชาคม การเชื่อมโยงอนาคตของตนกับอนาคตของทั้งอาเซียน เมื่อวิเคราะห์ในประเด็นนี้ อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเลกงฝุงกล่าวว่า
“การจัดตั้งประชาคมอาเซียนจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่ทุกประเทศรวมทั้งเวียดนาม โดยก่อนอื่นนี่คือตลาดขนาดใหญ่ที่มีการแลกเปลี่ยนการค้าอย่างมั่นคงแต่ถ้าหากเรามีการสนับสนุนช่วยเหลือจุนเจือกันมากขึ้นก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของทั้งประเทศตนและประเทศอื่นๆพัฒนาซึ่งก็จะเป็นจุดแข็งของประชาคม อันดับสองคือแหล่งแรงงานและเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มจะช่วยให้เวียดนามมีโอกาสใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของประเทศ แต่ควบคู่กับโอกาสคือความท้าทายเพราะการสร้างประชาคมนั้นมิใช่เพียง1หรือ2ปีหากต้องเป็นกระบวนการอันยาวนาน ซึ่งแต่ละประเทศสมาชิกก็ต้องเสียสละผลประโยชน์ของตนในระดับหนึ่งเพื่อรักษาความมั่นคงของประชาคม ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือ เราสามารถมองเห็นโอกาสและผลประโยชน์ที่จะได้รับแต่เราจะกล้าใช้ประโยชน์จากโอกาสและจุดแข็งนั้นๆได้หรือไม่”
การเปิดตัวประชาคมอาเซียนได้มีขึ้นตรงกับโอกาสครบรอบ20ปีเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกและมีความผูกพันธ์กับประชาคมนี้ ดังนั้นจากการตระหนักที่ถูกต้องเกี่ยวกับความร่วมมือของอาเซียนถือเป็นผลประโยชน์ที่ควบคู่กับการพัฒนาของประเทศ เวียดนามจึงยืนหยัดความตั้งใจที่จะสร้างความเชื่อมโยงให้แน่นแฟ้นกับทั้งประชาคมพร้อมทั้งมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อมีส่วนร่วมที่จริงจังเพื่อประชาคมอาเซียน.