ร่วมแรงร่วมใจป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น
(VOVWORLD) - ปัญหาคอร์รัปชั่นกับการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นคือปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษในประเทศต่างๆทั่วโลกเสมอ โดยที่เวียดนาม ในตลอดกว่า 90 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ให้ความสนใจถึงงานด้านการสร้างสรรค์ ปรับปรุงองค์กรพรรค รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นตั้งใจในภารกิจนี้ยิ่งได้รับการยืนยันก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13
เลขาธิการ ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่อง เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 18 คณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา (Photo Hanoimoi.com.vn) |
ในเอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนสมาชิกพรรคสมัยที่ 9 เมื่อปี 2011ได้มีคำย้ำเตือนว่า “ ความเสื่อมถอยด้านการเมือง แนวคิด คุณธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคหลายคนและปัญหาการคอร์รัปชั่น การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ปัญหาทุจริตและภัยสังคมที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขหากจะยังมีความซับซ้อนมากขึ้น” ซึ่งภายหลังตั้งใจปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 9 เกี่ยวกับการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค สถานการณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มแข็ง แต่ในมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4 สมัยที่ 12 ได้ประเมินว่า “ปัญหาคอร์รัปชั่นและใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยยังคงมีความซับซ้อนเป็นอย่างมากและเน้นในสมาชิกพรรคบางคนที่ดำรงตำแหน่งต่างๆในกลไกการบริหารภาครัฐ” ดังนั้นพรรคและรัฐเวียดนามจึงกำหนดหน้าที่การป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นคือการต่อสู้ที่ยาวนาน ลำบากและซับซ้อน ดังที่ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศและหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ยืนยันว่า “นี่คือเส้นทางของพรรค เราเป็นผู้จัดทำกฎหมายดังนั้นถ้าจำเป็นเราก็ต้องปรับปรุงกฎหมายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น รัฐเวียดนามคือรัฐที่ปกป้องประเทศด้วยกฎหมายภายใต้การนำของพรรคและมีการประสานงาน แม้แต่ละคนอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันแต่ก็ต้องปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งสมาชิกพรรคแต่ละคนที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่นี้จะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดไม่ฉกฉวยอำนาจหน้าที่เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว”
เวลาที่ผ่านไปก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อสังเกตที่ว่า “ ปัญหาคอร์รัปชั่นส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มสมาชิกพรรคที่มีตำแหน่งผู้บริหารในกลไกของรัฐ” ซึ่งตั้งแต่ต้นวาระมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคที่อยู่ภายใต้การบริหารของส่วนกลางกว่า 110 คนและสำนักงานที่รับผิดชอบก็ได้เปิดดำเนินคดีคอร์รัปชั่นกว่า 8,880 คดีรวมผู้ต้องหา1หมื่น5พันคน ส่วน หน่วยงานตรวจตราตรวจสอบได้ทำการยึดคืนเงินคอร์รัปชั่นจำนวนกว่า 4แสนล้านด่งและที่ดินกว่า 8,600 เฮกตาร์ นาย เหงียนฮวีเตี๊ยน รองหัวหน้าสถาบันอัยการประชาชนสูงสุดเผยว่า “ทางสถาบันฯได้ประสานงานกับกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปและศาลประชาชนสูงสุดเน้นชี้นำการสืบสวน เปิดดำเนินคดีและลงโทษคดีคอร์รัปชั่นใหญ่ๆ ตามคำสั่งของคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการป้องกันและการปราบปรามการคอร์รัปชั่น นอกจากนี้เราได้ทำการตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านตุลาการเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจำนวนข้อร้องเรียนที่ยื่นต่อศาลได้รับการอนุมัติมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมในการบังคับใช้กฎหมาย”
พลโทอาวุโส เจี๋ยวซวนหว่า ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 7 ให้ข้อสังเกตว่า จากผลงานที่ได้บรรลุดังกล่าว จากประสบการณ์ในการเป็นผู้นำในตลอดเกือบ 90 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะมียุทธศาสตร์ในระยะยาวและระยะสั้นต่อไปเพื่อปฏิรูปกลไก ป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น นำประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งมากขึ้น “ต้องยืนหยัดในการปราบปรามการคอร์รัปชั่นต่อไปและต้องให้กระบวนการนี้มีประสิทธิผลเพื่อเป็นการป้องปรามและยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ทำผิดกลับตัวได้ โดยเฉพาะต้องสร้างเป็นบทเรียนเพื่อให้สมาชิกพรรครุ่นใหม่ตระหนักและหลีกเลี่ยงการกระทำผิด เพราะว่าในความเป็นจริง บางคนก็จงใจทุจริต แต่บางคนก็ทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ”
ตั้งแต่ปี 2016 มาจนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้ประกาศเอกสารกว่า 80 ฉบับเพื่อส่งเสริมงานด้านการสร้างสรรค์พรรค ระบบการเมือง การป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ส่วนสภาแห่งชาติก็ประกาศกฎหมาย กฤษฎีกา 63 ฉบับและมติ 66 ฉบับ รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้ประกาศมติ 611 ฉบับ เป็นต้น และที่น่าสนใจคือ เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศได้กำชับให้เร่งประกาศเอกสารที่สำคัญคือข้อกำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมและปกป้องเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคที่กล้าคิดกล้าทำ กล้ารับผิดชอบเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย บนเจตนารมณ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นขณะนี้คือ “ต้องป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับการจัดการประชุมพรรคสาขาทุกระดับให้ประสบความสำเร็จ” ไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่ขาดทักษะความสามารถ มีความเสื่อมถอยด้านการเมือง ขาดคุณธรรมและมีการทุจริตคอร์รัปชั่นเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค “ขณะนี้ ทั้งสังคมและเจ้าหน้าที่สมาชิพรรคต่างกังวลว่า ในสภาวการณ์ที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคใกล้จะถึง เราจะทำได้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งหน้าที่ที่เราต้องทำในเวลาข้างหน้าคือ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้านการเมือง โดยเฉพาะจัดการประชุมพรรคสาขาทุกระดับและการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ให้ประสบความสำเร็จ”
ผลงานที่น่ายินดีของงานด้านการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นในเวลาที่ผ่านมาได้สะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์และลึกซึ้งของมาตรการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นที่พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามกำลังปฏิบัติเพื่อสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมที่เป็นรัฐของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างสำเร็จ.