วิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ของพรรคคือความปรารถนาอันแรงกล้าแห่งการพัฒนาของประชาชาติ
Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - ในบทความของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องที่พาดหัวว่า “เตรียมพร้อมจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 เป็นอย่างดี นำประเทศก้าวเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่” ในสภาวการณ์ที่มีการเตรียมจัดการประชุมใหญ่พรรคสาขาสังกัดส่วนกลางเพื่อมุ่งสู่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 นั้นได้มีการระบุถึงทัศนะในเชิงลึก แนวทางการชี้นำที่สำคัญของกรมการเมืองพรรค คณะเลขาธิการกลางพรรค รวมทั้งผู้นำพรรคและรัฐเกี่ยวกับแนวทางและหน้าที่ในวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 และในระยะต่อไป ซึ่งสร้างแรงจูงใจใหม่ในการแนะแนวประชามติและในหมู่เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคประชาชน
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่อง (VGP) |
แนวทางยุทธศาสตร์คือการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้พยากรณ์ว่า ในปีต่อๆไป สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ยากที่จะคาดการณ์ได้และคุกคามต่อการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนของเวียดนาม ภูมิภาคและโลก ดังนั้นแนวคิดแห่งการชี้นำของทั้งพรรค กองทัพและประชาชนเวียดนามที่ต้องยึดมั่นปฏิบัติคือยืนหยัดประยุกต์ใช้และพัฒนาลัทธิมากซ์เลนินและแนวคิดโฮจิมินห์อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ยืนหยัดเป้าหมายเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม แนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคเพื่อสร้างสรรค์และปกป้องประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่มีความหมายชี้ขาดต่อความอยู่รอดของระบอบและเป็นพื้นฐานที่มั่นคงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยต้องทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาระหว่างการยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในเชิงสร้างสรรค์ โดยการยืนหยัดเป้าหมายต่างๆต้องได้รับการปฏิบัติควบคู่กับความคิดสร้างสรรค์ ส่วนความสร้างสรรค์ต้องอิงตามเป้าหมายและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง ความต้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานและพัฒนาประเทศ
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศได้ชี้ชัดถึงแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศเวียดนามแบบบูรณาการในเวลาข้างหน้าคือการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ค้ำประกันการเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดและการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างพร้อมเพรียง โดยถือการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเป็นศูนย์กลาง การสร้างสรรค์องค์กรพรรคคือหน้าที่สำคัญพิเศษ การพัฒนาวัฒนธรรมคือบรรทัดฐานทางสังคม งานด้านการค้ำประกันความมั่นคงและกลาโหมคือหน้าที่หลักและต้องได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง สำหรับพลังขับเคลื่อนและแหล่งพลังเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะใหม่คือปลูกฝังจิตใจแห่งความรักชาติ การพึ่งตาตนเองของประชาชาติ การส่งเสริมแหล่งพลังของทั้งระบบการเมือง วัฒนธรรม คนเวียดนาม ผสมผสานระหว่างพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติและพลังที่เข้มแข็งแห่งยุคสมัย
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศได้เผยว่า ปัจจัยที่มีความหมายชี้ขาดต่อความสำเร็จของภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศและการพิทักษ์รักษาปิตุภูมิคือการผลักดันการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ยกระดับทักษะการบริหารชี้นำและพลังการต่อสู้ของพรรค สร้างสรรค์รัฐและระบบการเมืองที่บริสุทธิ์ เข้มแข็ง กระทัดรัดและมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์แถวขบวนเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรค โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับยุทธศาสตร์ที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม มีทักษะความสามารถและได้รับการนับถือ สมกับตำแหน่งหน้าที่และมีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับประชาชน
พยายามนำประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาตามแนวทางสังคมนิยม
จากการส่งเสริมจิตใจและพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ การประชุมใหญ่พรรคในเร็วๆนี้ควรวางวิสัยทัศน์จนถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 21 พยายามนำประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาตามแนวทางสังคมนิยม ตั้งเป้าหมายและหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมในระยะต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการสานต่อและการพัฒนาอย่างสมบูรณ์และต่อเนื่องในกระบวนการสร้างสรรค์ลัทธิสังคมนิยมในเวียดนาม อันเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ สติปัญญาและความเชื่อมั่น การผสมผสานระหว่างการชี้นำของพรรค ความปรารถนาของประชาชนและความปรารถนาอันแรงกล้าเกี่ยวกับอนาคตที่สดใสของประเทศและประชาชาติ
บนพื้นฐานของการค้ำประกันด้านวิชาการ ความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ การสานต่อและเพิ่มเติมเนื้อหาที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศในระยะต่างๆ การเรียนรู้ประสบการณ์ของประเทศต่างๆและบรรทัดฐานในการพัฒนาของโลก เอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคได้ระบุถึงเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและมุ่งสู่นิมิตหมายที่สำคัญในการพัฒนาประเทศเวียดนามคือ การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้สูงกว่าระดับปานกลางภายในปี 2025 พัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้ปานกลางในระดับสูงภายในปี 2035 และพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาและมีรายได้ปานกลางในระดับสูงภายในปี 2045
มาตรการที่เป็นรูปธรรม
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้กล่าวถึง มาตรการ 5 ข้อเพื่อสร้างสรรค์ พัฒนาและพิทักษ์รักษาประเทศในยุคใหม่ หนึ่งคือต้องเปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิด สร้างสรรค์และปรับปรุงกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพและแหล่งพลังต่างๆเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน สองคือต้องเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว ปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ยกระดับประสิทธิภาพการขยายตัว ผลิตภาพแรงงานและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการตระหนักว่า นี่คือหน้าที่ที่มีความหมายชี้ขาดต่อการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนให้ประสบความสำเร็จ สามคือปฏิบัติการบริหารและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน แก้ไขปัญหาทางผลประโยชน์ในสังคมอย่างกลมกลืนและสอดคล้อง แก้ไขปัญหาต่างๆในการส่งเสริมประชาธิปไตยและการขยายการบังคับกฎหมายเพื่อค้ำประกันความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ความก้าวหน้าและความยุติธรรมทางสังคม สี่คือปฏิบัติงานด้านการต่างประเทศอย่างพร้อมเพรียง มีความคิดสร้างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์หน่วยงานการทูตที่ทันสมัยเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติ ถือการรับใช้ประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้านอย่างกว้างลึก ห้าคือขยายการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค รัฐและระบบการเมืองให้บริสุทธิ์ เข้มแข็ง กระทัดรัดและมีประสิทธิภาพ
ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้เรียกร้องให้ทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกคนมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการเตรียมพร้อมและจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ให้สำเร็จ นำประเทศก้าวเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่เพื่อเป้าหมาย “ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย มีความยุติธรรมและอารยธรรม” ปฏิบัติตามความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์และความมุ่งมั่นของประชาชาติ./.
Thu Hoa