(VOVworld)- วันที่20มีนาคมนี้ ประธานาธิบดีแห่งพม่า เต็งเส่ง ได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา2วันเพื่อผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมืออันดีงามกับเวียดนามต่อไป โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน

เวียดนาม-พม่าลงนามข้อตกลงร่วมมือต่างๆ - photo internet

การเยือนเวียดนามครั้งแรกนับตั้งแต่พลเอกเต็งเส่งขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำพม่าได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยทั้งสองฝ่ายได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับซึ่งมีความคึกคักมากที่สุดคือในช่วงปี2011ที่ผ่านมา เช่นการเยือนพม่าของรองนายกฯหว่างจูงหายเมื่อเดือนมิถุนายน การเยือนเวียดนามของรัฐมนตรีกระทรวงปสุสัตว์และสัตว์น้ำพม่าเมื่อเดือนสิงหาคม ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธพม่าเยือนเวียดนามเมื่อเดือนพฤศจิกายนและล่าสุดนี้คือการเยือนพม่าของนายกฯเวียดนามในกรอบการเข้าร่วมประชุมสุดยอดประเทศเขตอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยายวงครั้งที่4หรือจีเอ็มเอส4 ที่พม่าเป็นเจ้าภาพ ซึ่งการเยือนต่างๆเหล่านี้ก็ได้เปิดหน้าใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นาย ฝามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า จากคำพูดที่ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้กล่าวกับนายกฯเวียดนามที่ว่า ในครั้งแรกที่ท่านนายกฯมาเยือนพม่า ท่านคืออาคันตุกะ การเยือนครั้งที่สอง ท่านคือมิตรของเรา และในครั้งที่3พวกเราก็ได้เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้นำไปจนถึงกระทรวง หน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศ โดยประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ยืนยันว่า เวียดนามคือมิตรและหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถืออันดับ1ของพม่าในอาเซียนและในภูมิภาค.

ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างเวียดนามกับพม่ากำลังมีพัฒนาการเป็นที่น่ายินดี โดยเวียดนามได้เปิดเที่ยวบินตรงระหว่าง ฮานอย-ย่างกุ้งและโฮจิมินห์-ย่างกุ้ง  เปิดสำนักงานตัวแทนของสายการบินเวียดนาม ธนาคารการลงทุนและพัฒนาเวียดนาม  กลุ่มบริษัทปีโตรเลี่ยมเวียดนามและบริษัทโทรคมนาคมกองทัพหรือ เวียดเทล ประจำกรุงย่างกุ้ง ในปี2011 ทั้งสองฝ่ายยังได้ผลักดันการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าของกันและกัน ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนทวิภาคีให้พัฒนายิ่งขึ้น ตามข้อมูลสถิติ ปี2011มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเวียดนาม-พม่าบรรลุประมาณ1แสน7หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ10เมื่อเทียบกับปี2010 แต่ตัวเลขนี้ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับศักยภาพของแต่ละประเทศ นาย เลกวางเลิน  รองอธิบดีกรมนโยบายการค้าแห่งกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับพม่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับยอดมูลค่าการค้าภายในกลุ่มอาเซียน ดังนั้นพวกเราต้องแสวงหามาตรการส่งเสริมทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร คณะผู้แทนสถานประกอบการและกิจกรรมการส่งเสริมการลงทุน.

สถานประกอบการเวียดนามแนะนำสินค้าในพม่า-photo internet

ในการประชุมของคณะกรรมการผสมด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเมื่อเร็วๆนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ได้ร่วมหารือในมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่างๆเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการเกษตร ป่าไม้ สัตว์น้ำ การคมนาคม พลังงาน สารสนเทศ สาธารณสุข วัฒนธรรม การศึกษา การกีฬา การท่องเที่ยวและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะในการเยือนพม่าเมื่อปีที่แล้วของนายกฯเวียดนาม ผู้นำสองประเทศได้เห็นพ้องกันในการให้ความสนใจต่อการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน โดยจะพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีเป็น500ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี2015 ตลอดจนได้เห็นพ้องกันในการประสานความร่วมมือในกรอบของฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ร่วมกับประเทศอาเซียนอื่นๆในการสร้างสรรค์ประชาคมที่สามัคคีและเข้มแข็งในปี2015 สำหรับการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีเต็งเส่ง ทั้งสองฝ่ายต่างคาดหวังว่าจะเป็นการช่วยยืนยันอีกครั้งถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ในการให้ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศ นาย ฝามกวางวิง ได้กล่าวต่อไปว่า ในปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศต่างสร้างกรอบความร่วมมือในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การเมือง การทูตและการป้องกันประเทศและครั้งนี้ถือเป็นโอกาสให้เราส่งเสริมกรอบความร่วมมือให้พัฒนายิ่งขึ้น.