เทศกาลลิมที่มีการร้องเพลงทำนองกวานเหาะในจังหวัดบั๊กนิง

เวียดนามมีงานเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์ของเขตชุมชน รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติและทำให้ชีวิตทางจิตใจของประชาชนมีความหลากหลาย ช่วยส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยว มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประเทศ

ตอบสนองความต้องการด้านวัฒนธรรม ความเชื่อและเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ

จากแนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐเกี่ยวกับการส่งเสริมการฟื้นฟูคุณค่าทางวัฒนธรรมควบคู่กับความต้องการของสังคมที่เพิ่มขึ้นพร้อมๆกับการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น งานเทศกาลพื้นเมืองในท้องถิ่นต่างๆได้รับการฟื้นฟู ซึ่งมีส่วนร่วมส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมและอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรายงานของกรมวัฒนธรรมระดับท้องถิ่นระบุว่า ปัจจุบัน เวียดนามมีงานเทศกาลทางวัฒนธรรมเกือบ 8,000 รายการ โดยเป็นเทศกาลพื้นเมืองกว่า 7,000 รายการ คิดเป็นร้อยละ 88.36 และได้รับการจัดขึ้นในบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์เคร่งขรึมพร้อมความศรัทธา ซึ่งสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การเข้าร่วมและการมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจกรรมเหล่านี้ อีกทั้งยกระดับความรับผิดชอบขององค์กร บุคคลและเขตชุมชนในการค้ำประกันให้งานเหล่านี้ดำเนินการสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตอบสนองความต้องการด้านความเชื่อของประชาชนทุกภาคส่วน ศ.ดร. เหงวียนซวนกิ๊ง อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยวัฒนธรรมสังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์เวียดนามได้เผยว่า

“งานเทศกาลมีบทบาทที่สำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเป็นโอกาสให้ประชาชนใส่ชุดแต่งกายที่สวยงาม ปรุงอาหารที่อร่อยและรำลึกถึงผู้ที่มีคุณูปการในการต่อต้านศัตรูผู้รุกรานและผู้ให้กำเนิดอาชีพพื้นเมืองของหมู่บ้าน ดั่งคำพูดของ ศ. ดิงยาแค้ง ที่ว่า งานเทศกาลสร้างความเชื่อมโยงผู้คนในเขตชุมชนท่ามกลางบรรยากาศที่รื่นเริงและมีความเท่าเทียมกัน”

ส่วนในมุมมองของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ความน่าสนใจของงานเทศกาลพื้นเมืองที่สะท้อนผ่านกิจกรรมที่หลากหลายต่างๆได้ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ซึ่งสร้างแหล่งพลังที่สำคัญสำหรับการพัฒนา เช่น การจัดเก็บรายได้ของจังหวัดนามดิ่งจากงานเทศกาลวิหารเจิ่นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในขณะที่งานเทศกาลวัดเฮืองก็สร้างรายได้หลายแสนล้านด่ง รายงานของหน่วยงานการท่องเที่ยวระบุว่า ในช่วงหยุดยาวฉลองตรุษเต๊ตปีมะโรง มีนักท่องเที่ยวเวียดนามไปเที่ยวท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ประมาณ 10.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นาย ฟานแทงหาย ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดเถื่อเทียนเว้ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวได้ประเมินว่า

“เทศกาลวสันต์ฤดูในจังหวัดเถื่อเทียนเว้ เช่น เทศกาลวิหารเหวี่ยนเจิน เทศกาลมวยปล้ำหมู่บ้านถู๊เหล เทศกาลมวยปล้ำหมู่บ้านสิ่งและเทศกาลเกิ่วงือหรืองานเทศกาลเซ่นไหว้ปลาโองในหมู่บ้านท้ายเยืองได้ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดฯในช่วงต้นปีใหม่เพิ่มขึ้น  ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมเป็นปัจจัยที่สำคัญและสร้างแหล่งพลังสำหรับพัฒนาวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวของท้องถิ่น”

พิธีแห่น้ำในกรอบงานเทศกาลขอพระราชลัญจกรวิหารเจิ่น

คุณค่าวัฒนธรรมพื้นเมืองคือพลังภายในที่เข้มแข็ง

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ระบุว่า “ปัจจัยทางวัฒนธรรมต้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันและชีวิตสังคมในทุกด้าน ไม่ว่าจะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ กฎหมายและระเบียบวินัยจนกลายเป็นแหล่งพลังภายในที่สำคัญที่สุดของการพัฒนา” โดยจากการตระหนักถึงบทบาทของวัฒนธรรม ในการบริหารชี้นำประเทศ พรรคและรัฐได้ให้ความสนใจต่อการสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรมเวียดนาม โดยในแนวทางการชี้นำของพรรคถือคุณค่าทางวัฒนธรรมเป็นพลังภายในที่ยั่งยืนในการแลกเปลี่ยนและการผสมผสาน เป็นพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็งและมีส่วนร่วมผลักดันกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ส่วนมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า “การปลูกฝังความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง มีสันติสุข ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมและพลังที่เข้มแข็งของคนเวียดนาม ความสามัคคี ความภาคภูมิใจในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิติภูมิ” ซึ่งปัจจุบัน หน่วยงานทุกระดับและท้องถิ่นต่างๆกำลังปฏิบัติแนวทางการชี้นำดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง