สัญญาณที่น่ายินดีจากกระแสเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์
Hong Van/VOV5 -  
(VOVWORLD) - ในฟอรั่มภ์กองทุนเพื่อการลงทุนสำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ปี ๒๐๑๙ เปิดขึ้นครั้งแรก ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน เวียดนามได้เห็นถึงคำมั่นในการลงทุนที่น่าประทับใจจากกองทุนเพื่อการลงทุนระหว่างประเทศสำหรับสถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาของสตาร์ทอัพเวียดนามและความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุนต่างประเทศต่อความสามารถของผู้ประกอบการเวียดนาม
(photo:Vietnamnet) |
เมื่อ ๒ - ๓ ปีก่อน การดึงดูดเงินลงทุน ๑๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐถือเป็นความฝันของสตาร์ทอัพเวียดนาม ซึ่งในปัจจุบัน ความฝันนี้ได้เป็นจริงแล้ว และตัวเลขดังกล่าวก็ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ เวียดนามมีสถานประกอบการสตาร์ทอัพเกือบ ๓ พันแห่ง และคาดว่า จำนวนเงินลงทุนจะมากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับการเข้าร่วมของกองทุนเพื่อการลงทุน ๔๐ แห่ง
การขยายตัวที่น่าประทับใจ
ตามรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์การลงทุนทำธุรกิจสตาร์ทอัพปี๒๐๑๘ ของ Topica Founder Institute หรือทีเอฟไอ ปี ๒๐๑๘ บริษัทธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามได้รับเงินลงทุน ๘๘๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก๙๒ แผนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของกองทุนเพื่อการลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น ๓ เท่าเมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๗ และเพิ่มขึ้นเป็น ๖ เท่าเมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๖
คาดว่า ในปีต่อไป สตาร์ทอัพในระยะแรกของเวียดนามจะดึงดูดเงินลงทุนมากขึ้น ในฟอรั่มภ์กองทุนเพื่อการลงทุนเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ปี ๒๐๑๙ นักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศได้ให้คำมั่นผลักดันเงินลงทุนสำหรับสถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนาม นาย Jeffrey Paine ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนบริหารกองทุน Golden Gate Ventures เผยว่า “พวกเราพร้อมกับนักลงทุน ventures capital ให้คำมั่นลงทุนให้แก่สตาร์ทอัพเวียดนามใน ๓ ปีข้างหน้ารวมมูลค่า ๔๒๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว พวกเราลงทุนเกือบ ๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีเงินลงทุนให้แก่สถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเกือบ ๑๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่โดยจำนวนเงินลงทุนให้แก่สถานประกอบการทำธุรกิตสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่าในปี ๒๐๑๙และปีต่อๆไป พร้อมกับ Golden Gate Ventures ยังมีนักลงทุนคือ Golden gate ventures, Lotte, VinaCap, Line, Insignia, Panamount Capital KK Fund, Mirae Asset Global Investments และ Naver Asia Development Fund ที่ให้คำมั่นลงทุนให้แก่สถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนาม”
ในขณะเดียวกัน นาย เจิ่นเหญิดแคง ผู้อำนวยการกองทุน VinaCapital Ventures เผยว่า Mirae Asset ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของโลกและ Naver ซึ่งเป็นเครือบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีเครื่องมือค้นหาอันดับหนึ่งจากสาธารณรัฐเกาหลีจะร่วมมือกับ VinaCapital Ventures เพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามพัฒนาและขยายไปสู่ตลาดโลก “การร่วมมือกับเครือบริษัทชั้นนำ๒ แห่งของสาธารณรัฐเกาหลีมีบทบาทสำคัญต่อกระแสเงินลงทุนสำหรับสถานประกอบการที่ VinaCapital ลงทุนเพื่อช่วยให้สถานประกอบการก้าวไปสู่ต่างประเทศ เช่นเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและอเมริกาเหนือ พร้อมกับหุ้นส่วน ๒ รายนี้ พวกเราหวังว่า จะแสวงหาสถานประกอบการที่มีความสามารถเพียงพอเพื่อสามารถลงทุน ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมากกว่าในอนาคตอันใกล้นี้”
ปรับปรุงนโยบายต่อไป
ปัจจัยที่สร้างความสำเร็จสำหรับสตาร์ทอัพคือโครงสร้างพื้นฐาน กลไกนโยบาย การเงิน แหล่งเงินลงทุน ตลาดและวัฒนธรรม ซึ่งเวียดนามกำลังปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ พร้อมกับการลงทุนของกองทุน Ventures รัฐบาลเวียดนามกำลังจัดทำและปฏิบัตินโยบายต่างๆเพื่อปรับปรุงระบบเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ อำนวยความสะดวกให้แก่การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาอย่างเต็มที่ รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม ได้ยืนยันว่า ต้องธำรงค์ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ เปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง สร้างโอกาสให้แก่ทุกคนได้ร่วมกันผลิตประกอบธุรกิจและเพิ่มมูลค่า “สิ่งแรกคือต้องปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ โดยจังหวัดและหน่วยงานต่างๆต้องปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ที่เวียดนาม จังหวัดต่างๆต้องแข่งขันปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ ๒ คือต้องสร้างก้าวกระโดดพัฒนาที่เข้มแข็งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในทุกด้าน และ๓ คือต้องเน้นให้ความสนใจถึงการศึกษาและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี”
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน เหงียนชี้หยุง เผยว่า “พวกเราจะร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เช่นกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์เน้นตรวจสอบกลไกนโยบายเพื่อให้คำปรึกษาแก่กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพให้มีโอกาสพัฒนาที่ดีที่สุด สร้างบรรยากาศการลงทุนเพื่อให้กองทุนลงทุนต่างๆเดินพร้อมกับสถานประกอบการ กระตุ้นกระแสเงินทุนใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และผลักดันเศรษฐกิจเวียดนามให้พัฒนาในปีต่อๆไป”
เวียดนามกำลังเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งของกระแสการลงทุนในสถานประกอบการสตาร์ทอัพ การใช้แหล่งเงินทุนนี้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามก้าวรุดหน้าไปและมีส่วนร่วมให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างยั่งยืน.
Hong Van/VOV5