(VOVWORLD) - ฟอรั่มเศรษฐกิจสังคมเวียดนามปี 2023ที่จัดโดยสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 กันยายน ณ กรุงฮานอยได้ย้ำถึงการสร้างสรรค์และส่งเสริมพลังภายในที่เข้มแข็งเพื่อรับมือความท้าทายและความผันผวนของสถานการณ์ภายนอก ซึ่งเป็นบทเรียนที่สำคัญจากความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและการแก้ไขผลกระทบหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเวียดนามต้องขยายและส่งเสริมพลังภายใน ใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังภายนอก สร้างแรงกระตุ้นให้แก่การขยายตัวเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภาพฟอรั่ม (quochoi.vn) |
ด้วยหัวข้อ “ขยายศักยภาพของพลังภายใน สร้างแรงกระตุ้นให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน” ฟอรั่มเศรษฐกิจสังคมเวียดนามปี 2023 ได้ประเมินศักยภาพของพลังภายในที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่เศรษฐกิจ ปัจจัยภายนอกต่างๆและมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพของปัจจัยเหล่านี้ในการพัฒนาพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนาม
ยกระดับศักยภาพและส่งเสริมพลังภายในเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ
บรรดาผู้แทนได้เผยว่า การพัฒนาภาคการผลิตของเศรษฐกิจ ได้แก่เขตการเกษตร นิคมอุตสาหกรรมและการบริการ ผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ กระตุ้นการอุปโภคบริโภค พัฒนาตลาดภายในประเทศและเพิ่มผลิตภาพแรงงานเพื่อยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจ ซึ่งการผลักดันปัจจัยเหล่านี้อย่างพร้อมเพรียงจะช่วยส่งเสริมพลังภายในที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และสมบูรณ์ ดร. เหงวียนดิ่งกุง อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยการบริหารจัดการเศรษฐกิจส่วนกลาง ได้ให้ข้อสังเกตว่า
“หนึ่งคือต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สองคือปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ แก้ไขอุปสรรคเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการอย่างเต็มที่ สามคือลดค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าธรรมเนียม ภาษี รวมถึงยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการ ซึ่งมาตรการเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคและช่วยเหลือสถานประกอบการ”
นอกจากนี้ แหล่งบุคลากรเป็นปัจจัยที่สำคัญของเศรษฐกิจ ซึ่งเวียดนามต้องยกระดับคุณภาพของระบบการศึกษา การอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง การฝึกสอนอาชีพและการเตรียมพร้อมแหล่งบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดร. หว่างวันเกื่อง กรรมการคณะกรรมาธิการการเงินและการคลังของสภาแห่งชาติ ได้เผยว่า
“ศักยภาพแหล่งบุคลากร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการใช้ประโยชน์จากประชากรวัยทำงานเป็นจำนวนมากเป็นแหล่งพลังภายในที่สร้างแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งต้องขยายศักยภาพในด้านนี้เพื่อระดมแหล่งพลังต่างๆภายในประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อสร้างสถานะของประเทศในเศรษฐกิจโลก”
ใช้ประโยชน์จากแหล่งพังภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ
บรรดาผู้แทนได้เผยว่า เวียดนามควรเตรียมพร้อมปัจจัยต่างๆในเชิงรุกเพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในสภาวการณ์ใหม่ นักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีแผนลงทุนด้านการวิจัย เชื่อมโยงและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่สถานประกอบการภายในประเทศเพื่อผลักดันการส่งออกที่ยั่งยืนควบคู่กับการขยายการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณครูเหงวียนซวนแถ่ง จากโรงเรียนนโยบายสาธารณะและการบริหาร Fulbright ได้เสนอว่า
“ต้องให้ความสนใจพิเศษต่อการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเรากำลังรอคอยและตั้งความหวังเกี่ยวกับกระแสการลงทุนในเวียดนามในสภาวการณ์ที่มีการย้ายฐานการผลิตและระบบห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองและมีหุ้นส่วนจำนวนมาก”
สร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจ
บรรดาผู้แทนได้นำเสนอนโยบายต่างๆที่เน้นแรงกระตุ้นหลัก 5 ประการคือการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างเขต การฟื้นตัวและการพัฒนาของท้องถิ่นที่เป็นหัวเรือของเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนและสถานประกอบการภายในประเทศ การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงและยกระดับคุณภาพกลไกเศรษฐกิจ ยกระดับสถานะของเวียดนามในระบบห่วงโซ่คุณค่าโลกและความพึ่งตนเองของเศรษฐกิจ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของเวียดนาม ได้ให้ข้อสังเกตว่า
“การส่งเสริมเศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนาเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญ โดยการปรับปรุงระเบียบการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชนให้ได้รับความสนใจพิเศษ โดยเฉพาะการสร้างก้าวกระโดดด้านระเบียบการเพื่อระดมแหล่งพลังต่างๆในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ศักยภาพพลังภายในของเศรษฐกิจและสถานประกอบการถือเป็นขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ”
ในช่วงท้ายการประชุม บรรดาผู้แทนได้เผยว่า การปฏิรูปและยกระดับคุณภาพกลไกเศรษฐกิจคือพลังขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดดเพื่อสร้างกลไกใหม่ วิธีการดำเนินงานใหม่และสร้างบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจที่โปร่งใสและสะดวก หลังจากผ่านพ้นการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 เวียดนามนับวันตระหนักได้ดีถึงบทบาทและความหมายชี้ขาดของพลังภายในและการพึ่งตนเองในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งขยายศักยภาพ พลังภายในและสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การขยายตัวเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นหน้าที่เร่งด่วนของเวียดนามในการพัฒนาในปัจจุบัน.