(VOVworld) – การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงที่กรุงเนปิดอร์ ประเทศพม่าได้บรรลุผลงานที่สำคัญหลายประการซึ่งเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงความสามัคคีภายในกลุ่มอาเซียนบนเส้นทางแห่งการสร้างสรรค์เป้าหมายร่วม คณะผู้แทนเวียดนามที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อผลสำเร็จของการประชุม ค้ำประกันบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อบรรยากาศที่สันติภาพ ความร่วมมือในภูมิภาคและพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47

นี่คือการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศที่สำคัญที่สุดในปี 2014 ของอาเซียนและเป็นโอกาสเดียวของอาเซียนเพื่อพบปะกับหุ้นส่วนทั้ง 10 ประเทศโดยมีการจัดการประชุม 20 ครั้งในระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมครั้งนี้ได้เน้นถึงการประเมินและวางแนวทางผลักดันความร่วมมือทั้งภายในกลุ่มอาเซียนและกับหุ้นส่วนต่างๆหารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจและบรรลุผลงานสำคัญหลายประการ

ส่งเสริมเสียงพูดเดียวกันของอาเซียน
ผลงานที่โดดเด่นในการประชุมครั้งนี้คือทุกประเทศสมาชิกอาเซียนต่างเห็นพ้องยืนยันถึงความสำคัญของการธำรงบรรยากาศที่สันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค สามารถเห็นได้ว่า ในเวลาที่ผ่านมาในสภาวการณ์ที่ความท้าทายต่างๆกำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค ความสามัคคีอาเซียนถือเป็นแนวทางปฏิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อทำให้การจัดตั้งประชาคมดำเนินไปถูกทิศทางและอาเซียนยังให้ความสำคัญต่อมาตรฐานการปฏิบัติต่อกันและกรอบความร่วมมือในภูมิภาค เช่นสนธิสัญญามิตรไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือทีเอซี แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเอสอีเอเอ็นดับเบิลยูเอฟเซส ฟอรั่มความมั่นคงในภูมิภาคหรือเออาร์เอฟ การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอส การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนขยายวงค์หรือเอดีเอ็มเอ็มบวก
โดยเฉพาะที่ประชุมครั้งนี้ก็ได้ให้ความสนใจต่อปัญหาในทะเลตะวันออกซึ่งเป็นเนื้อหาที่ร้อนระอุในเวลาที่ผ่านมาในฟอรั่มต่างๆของอาเซียนและมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์อย่างสูงโดยบรรดารัฐมนตรีได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในเวลาที่ผ่านมาในภูมิภาคนี้และย้ำถึงคำเรียกร้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ต้องยึกหลักปฏิบัติตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 การแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี การใช้ความอดกลั้น ไม่ข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์คือหลักการที่ถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมของเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47และแถลงการณ์อื่นๆ

ผลักดันความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆอย่างจริงจัง
ในการประชุมครั้งนี้ อาเซียนได้ประสบความสำเร็จในการผลักดันการปฏิบัติแผนปฏิบัติการกับแต่ละหุ้นส่วน  พร้อมทั้งวางแผนปฏิบัติการในระยะต่อไป ประเทศคู่สนทนาต่างยืนยันสนับสนุนอาเซียนที่เข้มแข็งและส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ให้คำมั่นผลักดันความร่วมมือในด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอาเซียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประชาคม การเชื่อมโยง การค้า การลงทุนและการเงิน

เวียดนามพยายามมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการประชุมต่างๆของอาเซียน
คณะผู้แทนเวียดนามที่เข้าร่วมการประชุมได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบต่อการผลักดันความสามัคคี เสียงพูดเดียวกันของอาเซียนและปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของการประชุม เวียดนามให้ความสำคัญต่ออาเซียนที่สามัคคี ส่งเสริมบทบาทความรับผิดชอบหลักในโครงสร้างภูมิภาคที่กำลังได้รับการก่อตั้งและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค รวมทั้งปัญหาในทะเลตะวันออก ประเทศต่างๆทั้งภายในและนอกอาเซียนต่างแสดงความคิดเห็นและเห็นพ้องกับจุดยืนที่ถูกต้องของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาในทะเลตะวันออกและได้มีการระบุในเอกสารฉบับต่างๆ โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมของการประชุมเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47 เวียดนามย้ำถึงการสนับสนุนอาเซียนขยายและทำให้ความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยและสนับสนุนกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ผลักดันความร่วมมือในด้านที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น ความเชื่อมโยง เศรษฐกิจ การค้าและการลดช่องว่างการพัฒนา ในฐานะประเทศที่ประสานความสัมพันธ์สนทนาอาเซียน-อียู เวียดนามได้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อียู เป็นฝ่ายรุกในการเสนอและผลักดันมาตรการต่างๆเพื่อมุ่งสู่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ควบคู่กับประเทศสมาชิกอาเซียน เวียดนามกำลังพยายามผลักดันความสามัคคี ธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดและพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2015  ส่วนร่วมที่เข้มแข็งและมีความคิดสร้างสรรค์ของคณะผู้แทนเวียดนามนำโดยท่าน ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศในการประชุมต่างๆของอาเซียนครั้งนี้ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความตั้งใจดังกล่าวของเวียดนาม./.