(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และภริยาได้เสร็จสิ้นภารกิจต่างๆในกรอบการประชุมประจำปีครั้งที่ 54 ของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือ WEF Davos 2024 รวมทั้งการเยือนฮังการีและโรมาเนียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 16-23 มกราคม บทปราศรัยของนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมได้ส่งข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่พัฒนาอย่างคล่องตัว เปลี่ยนแปลงใหม่และเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งได้เผยแพร่ภาพลักษณ์ของเวียดนามด้วยศักยภาพ สถานะและบทบาทใหม่ บนเวทีโลก
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม WEF (VNA) |
ในการประชุม WEF 2024 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เป็นประธาน เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเสวนาเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาด้านเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์และรถยนต์ การสนทนาเชิงยุทธศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม - WEF การสนทนานโยบาย “เวียดนาม – กำหนดวิสัยทัศน์ระดับโลก” การเสวนาเกี่ยวกับการส่งเสริมพลังขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ในเวียดนาม และการอภิปราย “ส่งเสริมบทบาทของความร่วมมือระดับโลกในอาเซียน”
เวียดนามยืนหยัดปฏิบัตินโยบายที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ
ในการกล่าวปราศรัยในการอภิปรายต่างๆ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยขั้นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ปลอดภัย โปร่งใสและยั่งยืน โดยเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเอง เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกที่กว้างลึก เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ จนถึงปัจจุบัน เวียดนามมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับกว่า 190 ประเทศ โดยมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านและความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้งหมด 5 ประเทศและประเทศสมาชิกหลายประเทศของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาและเพิ่งเกิดใหม่ของโลกหรือ G20 ลงนามความตกลงการค้าเสรีหรือ FTA 16 ฉบับกับกว่า 60 ประเทศ ในเวลาที่จะถึง เวียดนามจะยังคงส่งเสริมก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ต้นทุนวัตถุดิบและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ปรับปรุงกลไกให้มีความสมบูรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการผลิตให้แก่สถานประกอบการและประชาชน นอกจากนั้น เวียดนามยังมีกลไกและนโยบายที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อด้านที่จะเน้นปฏิบัติในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า
“การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล รวมทั้งปัญญาประดิษฐ์ และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสีเขียวถือเป็นด้านที่ต้องได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ นี่คือแนวโน้มการพัฒนาของโลก ดังนั้น จึงเป็นข้อกำหนดที่เป็นภาวะวิสัย นี่เป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์และได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนาม ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราต้องปฏิบัติ 3 ด้านที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งซึ่งถือเป็น 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ 1 คือกลไก เนื่องจากเมื่อทำการเปลี่ยนแปลง กลไกก็ต้องเปลี่ยนแปลง 2 คือ โครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ โดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญเป็นอย่างมาก 3คือ บุคลากร แม้ว่าจะมีปัญญาประดิษฐ์ แต่มนุษย์ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญต่อการฝึกอบรมบุคลากร โดยเฉพาะบุคลากรที่มีคุณภาพสูง”
นอกจากนั้น ในการพบปะทวิภาคีกับผู้นำ WEF และผู้นำของประเทศต่างๆ ตลอดจนในการให้การต้อนรับผู้บริหารของเครือบริษัทชั้นนำของโลกในด้านเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซ การเงินและการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า บนเจตนารมณ์แห่งการ “ร่วมกันแบ่งปันผลประโยชน์และความเสี่ยง” เวียดนามจะอำนวยความสะดวกตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม
นาง เหงียนมิงหั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (VNA) |
นานาชาติมีความประทับใจเวียดนามในการเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคและโลก
ในฟอรั่มต่างๆ ตัวแทนของเครือบริษัทและสถานประกอบการต่างแสดงความประทับใจต่อวิสัยทัศน์การพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของเวียดนาม แสดงความตื่นเต้นและความสนใจถึงโอกาสการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม และได้ให้คำมั่นที่จะจัดคณะผู้แทนมาเยือนเวียดนาม เพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือและการลงทุน
นาย Pascal Gerken ประธานกิตติมศักดิ์ขององค์การผู้บริหารระดับโลกรุ่นใหม่หรือ YPO และคณะผู้แทนได้แสดงความประทับใจว่า ในสภาวการณ์ที่โลกประสบความยากลำบากมากมาย แต่เวียดนามยังคงประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างน่าประทับใจในปี 2023 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือGDP เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.05 สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อและการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เมื่อปี 2023 เวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ทั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และเลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีนเดินทางมาเยือน ตามความเห็นของนาย Pascal Gerken เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดไม่เพียงแต่ในภูมิภาคนี้เท่านั้น หากยังรวมถึงในระดับโลกอีกด้วย และจะมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอย่างแน่นอน ส่วนนาย Thomas Serva ซีอีโอของกลุ่มบริษัท Baracoda ประเทศฝรั่งเศสเผยว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุด โดยมีแหล่งบุคลากรที่พร้อมเพรียงและมีคุณภาพสูง สถานประกอบการมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมการก่อสร้างศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในเวียดนาม
นอกจากนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังแสดงความเห็นว่า ผ่านกิจกรรมต่างๆ ใน WEF นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังคงแสดงให้เพื่อนมิตรต่างชาติเห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีจุดแข็งในการวางแผนเศรษฐกิจและกำหนดแนวทางในอนาคต โดยเน้นผลักดันการเติบโตที่ยั่งยืนและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในทุกด้าน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์การเกษตรและการผลิต ไปจนถึงบริการและโซลูชั่นดิจิทัล นาง เหงียนมิงหั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า
“การเข้าร่วมและการแลกเปลี่ยนความเห็นของนายกรัฐมนตรี การประเมินวิสัยทัศน์และทัศนะการพัฒนาในปัจจุบัน ข้อเสนอของเวียดนามต่อแนวทางแก้ไขเพื่อส่งเสริมการเติบโตและการแก้ไขความท้าทายระดับโลกจากประสบการณ์ในสถานการณ์ที่เป็นจริงของเวียดนามและอาเซียนจะยังคงแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อสันติภาพ การพัฒนาและปัญหาระดับโลก เป็นการยืนยันและยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสถานประกอบการระดับโลก”
ผลสำเร็จจากภารกิจของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ช่วยให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับศักยภาพและโอกาสความร่วมมือ ตลอดจนบทบาทและสถานะบนเวทีโลกของเวียดนาม ซึ่งจะเอื้อให้เวียดนามสามารถดึงดูดแหล่งพลังต่างๆเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ.