(VOVWORLD) - การประชุมสุดยอดธุรกิจเอเปกหรือ APEC CEO Summit ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญของการประชุมสุดยอดฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันที่ 11 ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษของการประชุมในปีนี้ได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรม ซึ่งได้ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของเวียดนามในการเดินพร้อมกับเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกและประชาชนเพื่อฟันฝ่าการแพร่ระบาดและฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อภูมิภาคเอเชียที่สันติภาพ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับประชาชนทุกคน
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VNA) |
การประชุมผู้นำเอเปกมีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด แต่เอเปกยังคงยืนยันถึงบทบาทเป็นฟอรั่มสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือ การเชื่อมโยงและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและโลก
ร่วมประสานงาน ร่วมมีปฏิบัติการเพื่อเติบโตไปด้วยกัน
ด้วยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง คล่องตัวและพึ่งพาตนเองภายในปี 2040 บรรดาผู้นำได้กำหนดแนวทางที่สำคัญสำหรับความร่วมมือเอเปกในอีก 2 ทศวรรษข้างหน้าเพื่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีความสงบ มั่นคงและพัฒนา โดยเน้นถึงเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ 3 ประเด็น ได้แก่ นโยบายเศรษฐกิจ การค้า มาตรการเศรษฐกิจมหภาคและการปฏิรูปโครงสร้าง การค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและเสรี อำนวยความสะดวกทางการค้าและการเชื่อมโยง ส่งเสริมความยั่งยืนและการครอบคลุม ผลักดันการฟื้นตัวอย่างครอบคลุมและยั่งยืน สนับสนุนกลุ่มเสี่ยง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การแปลงทางดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เอเปกได้ส่งเสริมการปฏิบัติมาตรการส่งที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน ผลักดันการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการเงินเพื่อฟันฝ่าวิกฤต สนับสนุนกลุ่มเสี่ยงในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่เพื่อค้ำประกันไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เวียดนามเสนอแนวทางเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนในเอเปก
เดินพร้อมกับเอเปกในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เวียดนามยังคงเป็นเศรษฐกิจที่มีความรับผิดชอบเดินหน้าในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง ตลอดจนมีส่วนร่วมต่อระเบียบวาระการประชุมของเอเปก ในปี 2021 เวียดนามเป็นประเทศสำคัญในการจัดทำวิสัยทัศน์เอเปก 2040 และกำลังมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการร่างแผนการปฏิบัติวิสัยทัศน์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่เรียกร้องให้มีการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะ ได้มีคำมั่นที่เข้มแข็งและการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในความร่วมมือเอเปกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมสุดยอดธุรกิจเอเปก ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ได้กล่าวไว้ว่า
“ในการมุ่งสู่วิสัยทัศน์เอเปก 2040 บรรดาผู้นำเอเปกกำลังสามัคคี ฟันฝ่าความแตกต่างกัน เดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือที่เข้มแข็งและรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อฟันฝ่าความท้าทาย ควมาเสี่ยง รักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาอย่างยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความรับผิดชอบของทุกประเทศซึ่งต้องมีความพยายามร่วมมืออย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ผลักดันการสนับสนุนแหล่งพลัง เทคโนโลยีใหม่และยกระดับความสามารถให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา
ในการประชุมครั้งนี้ ประธานประเทศเวียดนามได้มีข้อเสนอ 3 ข้อต่อชมรมผู้ประกอบการเอเปก นั่นคือสถานประกอบการทุกแห่งควรมีแผนการและกระบวนการปรับลดการปล่อยมลพิษตามมาตรฐานแห่งชาติ การลงทุนเพื่ออนาคตโดยมุ่งเน้นโครงการพลังงานสะอาด การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ และเอเปกควรจัดทำ "แนวทางแนะนำการส่งเสริมธุรกิจที่ยั่งยืนของเอเปก" โดยเน้นถึงสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ยืนยันว่า รัฐ สถานประกอบการและประชาชนเวียดนามทุกคนตระหนักได้ดีถึงทั้งความเสี่ยงและโอกาส และให้คำมั่นที่จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดและจริงจังเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม ในกระบวนการนี้ เวียดนามมีความปรารถนาที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับสมาชิกเอเปก ประเทศและสถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น
“นอกจากการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ เวียดนามยังได้จัดทำกลไกและนโยบายสนับสนุนสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรม เปลี่ยนแปลงใหม่และอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งนโยบายที่เข้มแข็งของเวียดนามด้วยตลาดที่มีประชากร 100 ล้านคนและข้อตกลงการค้าเสรี 14 ฉบับที่ได้รับลงนามแล้วจะเป็นโอกาสและเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนต่างชาติ ให้มาเวียดนามเพื่อร่วมมือ แบ่งปันผลประโยชน์และพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทายในปัจจุบัน เวียดนามเชื่อมั่นว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับสถานประกอบการในการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินงาน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและทำธุรกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ในฐานะเป็นเศรษฐกิจสมาชิกของเอเปก เวียดนามยืนยันอยู่เสมอถึงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือในการปฏิบัติแผนงานเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซ เพิ่มการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และจัดตั้งห่วงโซ่การผลิตและอุปทานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินพร้อมกับเศรษฐกิจของเอเปกและประชาชนเพื่อฟันฝ่าการแพร่ระบาดเพื่อภูมิภาคเอเชียที่สันติภาพ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีความเจริญรุ่งเรือง./.