(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน นาย หวอวันเถือง ประธานประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปก ปี 2023 และกิจกรรมทวิภาคีณ ประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นนิมิตหมายในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของเอเปกและเป็นการยืนยันว่า เวียดนามเป็นประเทศสมาชิกที่แข็งขันและมีความรับผิดชอบ มีความคิดริเริ่มและโครงการร่วมมือที่ได้รับการชื่นชมจากบรรดาสมาชิกเอเปก
นาย หวอวันเถือง ประธานประเทศเวียดนามพร้อมภริยา |
สำหรับเวียดนาม ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและฟอรั่มเอเปกมีความหมายที่สำคัญ ดังนั้นจากการสานต่อผลสำเร็จของความร่วมมือในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา ในสัปดาห์ผู้นำเอเปกปีนี้ เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทการเป็นสมาชิกที่แข็งขัน เป็นฝ่ายรุก มีส่วนร่วมอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพต่อผลสำเร็จของสัปดาห์ผู้นำเอเปก
นิมิตหมาย ใน25 ปีเป็นสมาชิกของเอเปก
นับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเอเปกเมื่อปี 1998 เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง มีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพต่อความร่วมมือในทุกด้านและสร้างนิมิตหมายสำคัญในกระบวนการพัฒนาของเอเปก โดยเวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่เศรษฐกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 2 ครั้งในปี 2006 และปี 2017 ซึ่งภายใต้อำนวยการของเวียดนาม การประชุมผู้นำเอเปกที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อปี 2006 และนครดานัง เมื่อปี 2017 ได้ประสบความสำเร็จ บรรลุผลงานที่สำคัญและมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อฟอรั่มเอเปก ความร่วมมือ การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นาง เหงวียนมิงหั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเผยว่า
"ในปีเอเปก 2006 เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายด้วยแผนปฏิบัติการฮานอยเพื่อปฏิบัติเป้าหมายโบกอร์เกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน เมื่อปี 2017 เวียดนามได้เสนอความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการจัดทำวิสัยทัศน์ใหม่ของเอเปกหลังปี 2020 และการจัดตั้งกลุ่มวิสัยทัศน์เอเปก นี่คือผลงานที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการเข้าถึงอย่างคลอบคลุมในระยะยาวของเวียดนามและได้รับการสนับสนุนและชื่นชมจากบรรดาประเทศสมาชิก สร้างพื้นฐานเพื่อให้เอเปกอนุมัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ปุตราจายาจนถึงปี 2040 ที่กำหนดแนวทาง เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์และประเด็นความร่วมมือที่ได้รับความสนใจอันดับต้นๆของเอเปกในระยะใหม่”
ในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในสมาชิกที่มีความกระตือรือร้นที่สุดในการเสนอความคิดริเริ่มและโครงการร่วมมือในกรอบเอเปก โดยมีโครงการร่วมมือเกือบ 150 โครงการด้านการพัฒนาแหล่งบุคลากร การพัฒนาอีคอมเมิร์ซ ความมั่นคงด้านอาหาร การเพิ่มอำนาจด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรี การพัฒนาชนบทและตัวเมือง การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น นอกจากนั้นเวียดนามยังได้ยืนยันบทบาทในการบริหารและส่งเสริมการปฏิบัติโครงการความร่วมมือของเอเปกในขณะดำรงตำแหน่งที่สำคัญในกลไกต่างๆของฟอรั่ม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงวียนมิงหั่ง (Photo: กระทรวงการต่างประเทศ) |
ร่วมกับเอเปกฟื้นฟูและพัฒนาอย่างยั่งยืน
สัปดาห์ผู้นำเอเปกปีนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลก การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยความเสี่ยงและความท้าทายมาพร้อมกับโอกาสใหญ่ให้แก่ความร่วมมือและการพัฒนา ตลอดจนความท้าทายด้านความมั่นคงทั้งในรูปแบบใหม่และรูปแบบเก่านั้นมีความซับซ้อน ดังนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องการให้บรรดาประเทศสมาชิกเอเปกส่งเสริมการสนทนาและผลักดันความร่วมมือเพื่อแปรความท้าทายเป็นโอกาสเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากความหมายที่สำคัญพิเศษของการประชุมผู้นำเอเปกปีนี้และในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐพัฒนาอย่างเข้มแข็งในเวลาที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน การเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกและกิจกรรมทวิภาคีในสหรัฐของประธานประเทศ หวอวันเถือง มีความหมายที่สำคัญมาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงวียนมิงหั่ง ย้ำว่า
“ประธานประเทศเวียดนามจะร่วมกับบรรดาผู้นำเอเปกหารือเกี่ยวกับปัญหาที่มีความหมายสำคัญต่อเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก กำหนดแนวทางความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรมและด้านอื่นๆ เวียดนามจะร่วมกับบรรดาประเทศสมาชิกส่งเสริมจิตใจแห่งการสนทนา การสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ เชิดชูลัทธิพหุภาคี ร่วมมือและร่วมกันปฏิบัติเพื่อการพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืนและรุ่งเรือง”
ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปก ประธานประเทศ หวอวันเถือง จะเข้าร่วม กล่าวปราศรัยและพบปะหารือในกรอบการประชุมสุดยอดสถานประกอบการเอเปก ซึ่งเป็นการประชุมที่ใหญ่ที่สุดของชมรมสถานประกอบการในภูมิภาค โดยมีการเข้าร่วมของผู้บริหารเครือบริษัทชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและโลกกว่า 2 พันคน
สำหรับสหรัฐ กิจกรรมต่างๆของประธานประเทศเวียดนามในกรอบการประชุมผู้นำเอเปกและกิจกรรมทวิภาคีกับผู้นำและหุ้นส่วนต่างๆของสหรัฐ โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียจะมีส่วนช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีบนเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆ
เมื่อหวนมอง 25 ปีที่ผ่านมา สามารถยืนยันได้ว่าจากการปฏิบัติแนวทางคือเวียดนามพร้อมเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก เวียดนามได้เข้าร่วมทุกภารกิจของเอเปกอย่างแข็งขัน มีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมมากมายต่อการพัฒนาของฟอรั่มเอเปก อันเป็นการมีส่วนร่วมยกระดับบทบาท สถานะและเชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก สนับสนุนเวียดนามใช้โอกาส ระดมแหล่งพลังจากความร่วมมือเอเปกและกลไกความร่วมมือ การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศ.