ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง (vietnamplus)

 

ในตอนต้นของบทความ ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ย้ำว่า ในตลอด 28 ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนา ฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกนับวันยืนยันถึงบทบาทเป็นกลไกความร่วมมือเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค ในโลกแห่งโลกาภิวัตน์ที่ผันผวนอย่างซับซ้อนและเอเชียแปซิฟิกพัฒนาอย่างคล่องตัว เอเปกกำลังมีทั้งโอกาสและความสะดวก ตลอดจนต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายใหม่ๆ

ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า ในฐานะประเทศเจ้าภาพเอเปก 2017 เวียดนามมีหน้าที่ร่วมกับเศรษฐกิจสมาชิกแปรความมุ่งมั่นของบรรดาผู้นำเอเปกให้เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม นำเอเปกเข้าถึงประชาชนและสถานประกอบการมากขึ้น เพื่อแปรวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่พัฒนาอย่างยั่งยืนและรอบด้านในศตวรรษที่ 21 ให้กลายเป็นความจริง

เอเปกต่อโอกาสและความท้าทายของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ย้ำว่า การพึ่งพากันและความผูกพันที่นับวันใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเปิดโอกาสใหม่เพื่อให้เศรษฐกิจสมาชิกผลักดันความร่วมมือและเชื่อมโยง

นอกจากความท้าทายต่างๆ เช่นแนวโน้มการชะลอตัวของกระบวนการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ปัญหาลัทธิคุ้มครองทางการค้าที่กำลังขยายกว้าง ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนและ ความท้าทายด้านความมั่นคงแล้ว เอเปกก็กำลังมีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งมากขึ้นต่อการธำรงให้เอเชียแปซิฟิกเป็นพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวและการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจในโลก

ข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีและพหุภาคีกว่า 150 ฉบับที่เศรษฐกิจสมาชิกเอเปกกำลังเข้าร่วมและปฏิบัติ รวมทั้งความพยายามมุ่งสู่การจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกหรือFTAAP จะเปิดศักยภาพที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับตลาด เทคโนโลยีและแหล่งการเงินให้แก่ภูมิภาค

แต่จากสถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า การแปรความท้าทายให้เป็นโอกาสและการใช้โอกาสอย่างมีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและความพยายามของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก

ในสภาวการณ์ดังกล่าว การประชุมผู้นำเศรษฐกิจที่มีขึ้นในกรอบสัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 ณ นครดานังจึงมีหน้าที่สำคัญคือสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความร่วมมือ การเชื่อมโยงและการขยายตัวของเอเปก นี่ก็คือโอกาสเพื่อให้เศรษฐกิจสมาชิกเอเปกยกระดับความสัมพันธ์ร่วมมือให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น มุ่งสู่การสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเอเชียแปซิฟิกให้พัฒนาอย่างยั่งยืนและรอบด้านในศตวรรษที่ 21

เอเปกเวียดนาม 2017: ร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตของเอเปก

ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า ในสัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 บรรดาผู้นำเศรษฐกิจเอเปกหารือถึงแนวทางสำหรับฟอรั่มเกี่ยวกับปัญหาหลักๆ ซึ่งประกอบด้วย การปลุกเร้าพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวอย่างยั่งยืน มีความคิดสร้างสรรค์และรอบด้านของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก ผลักดันการค้าเสรี การลงทุนและผลักดันการเชื่อมโยงภูมิภาค มีส่วนร่วมต่อการเสริมสร้างบทบาทการนำของเอเปกในการบริหารเศรษฐกิจโลกและรับมือกับความท้าทายร่วม

โดยเฉพาะประธานประเทศได้ย้ำว่า เพื่อเตรียมให้แก่เอเปกในทศวรรษพัฒนาที่ 4  เอเปกต้องหารือถึงก้าวเดินเพื่อสร้างวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ให้แก่ฟอรั่มหลังปี 2020

ตามความเห็นของประธานประเทศ วิสัยทัศน์นี้ต้องมีความผูกพันกับการนำเอเปกเดินหน้าในการผลักดันการเชื่อมโยง การขยายตัวที่มีคุณภาพ ยั่งยืนและรอบด้าน ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้าง เศรษฐกิจดิจิตอล การศึกษา การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงและการลดช่องว่างการพัฒนา เป็นต้น นี่คือความต้องการในการพัฒนาของเศรษฐกิจสมาชิกและแนวโน้มร่วมของความร่วมมือระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 21

ในท้ายบทความ ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า จากการตระหนักอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสำคัญของความผูกพันระหว่างเวียดนามกับเอเปก ในตลอดเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้พยายามมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบต่อหัวข้อที่เป็นความสนใจร่วมของฟอรั่ม

ในการย่างเข้าสู่ระยะเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างพร้อมเพรียงและทุกด้าน ผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปก 2017 เวียดนามมีความประสงค์ที่จะยืนยันถึงแนวทางการต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่กว้างลึก เป็นมิตรและหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของประชาคมโลก พยายามร่วมกับเศรษฐกิจสมาชิกพัฒนาประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพ ยั่งยืน คล่องตัว มีความผูกพันและเจริญรุ่งเรือง.