แปรระเบียบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เป็นรูปธรรม
Viet Ha-Anh Huyen -  
(VOVworld) - การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการเพื่อผลักดันการเตรียม พร้อมให้แก่การจัดตั้งประชามคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีได้เสร็จสิ้นลง เมื่อวันที่ 1 มีนาคมหลังจากประชุมมาเป็นเวลา 3 วันที่ประเทศมาเลเซีย ในการนี้ บรรดารัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้เห็นพ้องที่จะผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือไอร์ซี อีพีในปลายปีนี้
(VOVworld) - การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการเพื่อผลักดันการเตรียมพร้อมให้แก่การจัดตั้งประชามคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 1 มีนาคมหลังจากประชุมมาเป็นเวลา 3 วันที่ประเทศมาเลเซีย ในการนี้ บรรดารัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้เห็นพ้องที่จะผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือไอร์ซีอีพีในปลายปีนี้ ที่น่าสนใจคือในจำนวนประเทศสมาชิกอาเซียน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศเดินหน้าในการเสร็จสิ้นการปฏิบัติคำมั่นต่างๆในกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน
การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (vietnamplus)
|
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีริเริ่มมาจากแถลงการณ์ “วิสัยทัศน์อาเซียน 2020” ที่ได้รับการลงนามเมื่อปี 1997 ในโอกาสอาเซียนฉลองครบรอบ 30 ปีวันก่อตั้งโดยมีเป้าหมายหลักคือสร้างตลาดที่เป็นเอกภาพในกลุ่มอาเซียนในปลายปี 2015 ซึ่งเร็วกว่า 5 ปีเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ได้วางไว้โดยจะเปิดเสรีให้แก่การหมุนเวียนสินค้า การบริการ เงินลงทุนและแรงงาน สำหรับเวียดนาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้แสดงความเห็นว่า จากการเข้าร่วมเออีซีอาจจะช่วยให้จีดีพีของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5
เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก
ปี 2015 ถือเป็นปีแรกของขบวนการการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนและขณะนี้ อาเซียนสามารถเสร็จสิ้นแผนการแปรเออีซีให้เป็นรูปธรรมในปลายปี 2015 ได้ถึงร้อยละ 90 แล้ว
จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้รับการประเมินว่า เป็นหนึ่งใน 4 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่สามารถเสร็จสิ้นการปฏิบัติคำมั่นต่างๆในกระบวนการสร้างเออีซีเป็นอย่างดีโดยได้ลดภาษีนำเข้าให้อยู่ที่ร้อยละ 0-5 ต่อสินค้ากว่า 1 หมื่นรายการซึ่งคิดเป็นร้อยละ 98 ในตารางภาษี นาย เลเจี่ยวหยุง รองอธิบดีกรมนโยบายการค้าพหุภาคีของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้เผยว่า“การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกของเวียดนามสะท้อนให้เห็นในข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้แก่การค้าที่ได้รับการปฏิบัติกับประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งได้สร้างเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญและเอื้อประโยชน์ให้แก่เศรษฐกิจ เช่นระเบียบศุลกากร one stop service โดยปัจจุบัน เวียดนามกำลังปฏิบัติระเบียบศุลกากร one stop service ระดับประเทศและกำลังมุ่งสู่การปฏิบัติในระดับอาเซียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมการนำเข้าส่งออก ตลอดจนการปฏิบัติระเบียบการอำนวยความสะดวกให้แก่การประกอบธุรกิจของสถานประกอบการซึ่งสามารถกล่าวได้ว่า เวียดนามได้บรรลุคำมั่นที่ให้ไว้ในอาเซียนถึงร้อยละ 90”
ใช้โอกาส ฟันฝ่าความท้าทาย
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหลายคนได้แสดงความเห็นว่า การเข้าร่วมเออีซีอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เวียดนาม นั่นคือการขยายตัวด้านเศรษฐกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สร้างงานทำและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนามมากขึ้น ตลอดจนการยกระดับความสามารถในการผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น หากมองในภาพรวม ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับอาเซียนเมื่อเทียบกับโลก ตลอดจนศักยภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเองนั้น การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามมีบทบาทที่ชัดเจนและมั่นคงมากขึ้นในโครงสร้างการผลิตของภูมิภาค แต่ถึงอย่างไรก็ดี นอกจากโอกาสที่จะได้รับ ความท้าทายที่เวียดนามต้องเผชิญเมื่อเข้าร่วมเออีซีก็มีไม่น้อยซึ่งก่อนอื่นคือช่องว่างระดับการพัฒนาเมื่อเทียบกับ 6 ประเทศสมาชิกอาเซียนและแรงกดดันในการแข่งขันเมื่อประเทศสมาชิกอาเซียนต้องยกเลิกกำแพงกีดกันด้านภาษี นาย เลเจี่ยวหยุง เผยต่อไปว่า“พวกเรากำลังเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก แต่ในกระบวนการนี้ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือ การแข่งขัน เมื่อมีการเปิดเสรีให้แก่สินค้าและการบริการซึ่งทำให้สถานประกอบการต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดแต่นี่คือกระบวนการที่ต้องปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่องตามคำมั่นที่เวียดนามให้ไว้ก่อนหน้านี้แล้วโดยสำนักงานบริหารภาครัฐต้องสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวก ส่วนสถานประกอบการต้องศึกษา วิจัยตลาดเพื่อมีแผนการประกอบธุรกิจในระยะยาวและเหมาะสม รวมทั้งสามารถใช้โอกาสต่างๆได้อย่างเต็มที่”
ความพยายามผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจภูมิภาค
จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้เตรียมพร้อมทั้งด้านกลไกการบริหารและการดำเนินงานเพื่อเข้าร่วมเออีซีอย่างมีประสิทธิภาพ นาย เหงียนเกิมตู๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ยืนยันว่า“ประเด็นที่หนึ่งคือ พวกเราพยายาเสร็จสิ้นการปฏิบัติมาตรการที่ได้เสนอในแผนการแบบบูรณาการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ 2 คือพวกเราได้ปฏิบัติคำมั่นต่างๆในอาเซียน รวมทั้งคำมั่นต่อองค์การการค้าโลกเป็นอย่างดี นี่คือก้าวพัฒนาที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างเข้มแข็งเพื่อให้เวียดนามมีโครงสร้างที่มั่นคงเพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างสำเร็จ”
จากการตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายแต่เนิ่นๆได้ช่วยให้เวียดนามสามารถกำหนดแผนการที่ชัดเจน เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและรับมืออย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพต่อกระบวนการจัดตั้งเออีซีและปี 2015 จะเป็นปีที่สร้างนิมิตหมายต่อการพัฒนาใหม่ในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจอาเซียนของเวียดนามอย่างแน่นอน./.
Viet Ha-Anh Huyen