(VOVWORLD) - ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา MindX บริษัทสตาร์ทอัพด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยีในเวียดนาม กลายเป็นหนึ่งในศูนย์บ่มเพาะและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ด้วยเป้าหมาย “ศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเวียดนาม – ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งได้รับการส่งเสริมอย่างสูงสุดเพื่อรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และเข้าใกล้ถึงระดับโลก” บริษัท MindX ได้มีการประยุกต์ใช้โมเดลระบบนิเวศเทคโนโลยี-การศึกษา ที่เป็นการจำลองรูปแบบซิลิคอนแวลลีย์ พร้อมความหวังที่จะเป็นแหล่งกำเนิดของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Google Vietnam ในอนาคต
MindX คือบริษัทสตาร์ทอัพด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยีในเวียดนาม(thanhnien.vn) |
บริษัท MindX ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 กับระบบนิเวศในปัจจุบันประกอบด้วยการศึกษา การเชื่อมโยงงานทำ และพื้นที่สำหรับการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยด้านการศึกษาเป็นส่วนธุรกิจหลัก ซึ่งมีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากที่นี่รวม 35,000 คน นาย เหงวียนแทงตุ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท MindX เผยว่า
“ผมเคยทำงานที่เยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่นั่น เพื่อนๆ ร่วมงานของผมได้เรียนการเขียนโค้ดตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แล้วเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีตอนอายุ 12-13 ปี และประสบความสำเร็จในการเปิดบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี หรือได้รับเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผู้ใช้นับล้านคน ประสบการณ์ที่ผมได้รับ ทำให้มีความมุ่งหวังและปรารถนาว่า จะนำโอกาสเหล่านั้นมาให้แก่คนรุ่นใหม่ในเวียดนาม ผมเชื่อว่า ประเทศเวียดนามสามารถสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีและปั้นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ไม่แพ้สหรัฐ ยุโรป หรืออินเดีย โดยพวกเราต้องร่วมมือกันทำในอีก 5-10 ปีข้างหน้า”
ใน MindX เด็กๆ จะเรียนไปด้วยเล่นไปด้วย ซึ่งหมายความว่า ทั้งได้เขียนโปรแกรมและเล่นเกมส์ ด้วยการเรียนการสอนแบบเปิดดังกล่าว ผู้เรียนสามารถเข้าถึงความรู้ขั้นพื้นฐานของฟิสิกส์และตรรกะ พร้อมเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นในยุค 4.0 ได้แก่ การเขียนโปรแกรม การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ หรือวิชามัลติมีเดีย เช่น การออกแบบ การวาดภาพ 3 มิติ เป็นต้น
“หนูชอบเรียนที่นี่มากๆ เพราะสามารถคิดค้นและสร้างสรรค์ตัวละครและภาพแบ็คกราวด์ต่างๆ ได้ทำงานเป็นกลุ่มเพื่อนำเสนอแนวความคิดของตนเอง”
“หลังได้เรียนมา 12-16 คาบ เว็บไซต์ที่หนูทำขึ้นมาหลังจบคอร์สเรียนเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับทีมบาสเก็ตบอลของสหรัฐที่หนูชื่นชอบมากๆ หนูทำออกมาอย่างสวยงามเหมือนเว็บไซต์มืออาชีพ หนูรู้สึกว่า มีความสุขเมื่อได้ไปโรงเรียนและตนเองมีความสามารถเพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในด้านนี้”
“การเรียนเขียนโปรแกรมได้ช่วยให้หนูคิดทุกอย่างได้ไวขึ้นเวลาเรียนคณิตศาสตร์ ในขณะที่สำหรับวิชาอื่นๆ หนูสามารถใช้ข้อมูลต่างๆ ที่หนูต้องการรวบรวมไว้ใส่ในบทเรียน”
นอกจากองค์ความรู้หลักสำคัญในด้านเทคโนโลยีแล้ว เหล่านักเรียนของ MindX ยังสามารถเข้าร่วมโครงการต่างๆ พร้อมเสริมสร้างทักษะความสามารถ เช่น การนำเสนอและการทำงานเป็นทีม โดยนักเรียนของ MindX จำนวนไม่น้อยสามารถคว้ารางวัลใหญ่ในการแข่งขันระดับนานาชาติ ในขณะที่อีกหลายคนได้เข้าทำงานในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังระดับโลก เช่น กูเกิ้ล และ เฟสบุ๊ค นาง เหงวียนถิทูห่า ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท MindX เผยว่า
“เมื่อออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรม พวกเราต้องทำการวิจัยอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอายุ รูปแบบแนวความคิดของผู้เรียน ประวัติการศึกษา โดยปกติแล้ว ในโรงเรียนหลายแห่งจะมีการสอนความรู้พื้นฐาน ในขณะที่ MindX ได้มีการเสริมสร้างทักษะที่ใช้งานได้จริง ซึ่งเป็นสิ่งต่างๆ ที่องค์กรธุรกิจมีความต้องการ โดยพวกเขาจะสามารถนำไปใช้ในอาชีพการงานของตนเองและในโลกของเทคโนโลยีสมัยใหม่แห่งอนาคต”
ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้าง Silicon Valley ขนาดเล็กหลายแห่งทั่วประเทศเวียดนาม บริษัท MindX จึงมองหาวิธีการขยายตลาดและแสวงหากลุ่มนักลงทุนจากทั้งภายในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายน ปี 2023 บริษัท MindX ได้ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 แสน 5 หมื่นล้านดอง จากกองทุนรวม Kaizenvest ของสิงคโปร์ ก่อนหน้านี้ บริษัท MindX ได้เสร็จสิ้นการระดมทุนรอบแรกด้วยวงเงินจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุน venture capital ที่เชี่ยวชาญด้านการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนรายย่อย
นาย เหงวียนแทงตุ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท MindX (thoidai.com.vn) |
จนถึงปัจจุบัน บริษัท MindX กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 40 แห่งทั่วประเทศเวียดนาม สำหรับคอร์สการฝึกอบรมต่างๆ ของบริษัทฯ ประกอบด้วย การเขียนโปรแกรม บล็อกเชน การวิเคราะห์ข้อมูล การออกแบบ UI-UX รวมถึงการทดสอบซอฟต์แวร์ นาย เหงวียนแทงตุ่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท MindX ได้ยืนยันว่า
“เป้าหมายของบริษัท MindX ในอนาคตคือ การขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 50 ถึง 100 แห่งทั่วประเทศภายในเวลา 3 - 5 ปีข้างหน้า โดยทุกพื้นที่ในเวียดนามจะสามารถกลายเป็นสถานที่ให้กลุ่มเยาวชนได้เรียนรู้ ได้สัมผัสเทคโนโลยี และพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของตนเอง เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างองค์กรธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของเวียดนามในอนาคต”
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพด้านการศึกษา MindX ได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีของเวียดนามกับกลุ่มบริษัทจากประเทศอื่นๆ ขณะนี้ MindX ได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรกับองค์กรธุรกิจกว่า 200 แห่งในหลายประเทศ ซึ่งได้เปิดโอกาสการทำงานให้กับแรงงานด้านเทคโนโลยีของเวียดนาม โดยความฝันที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งบนแผนที่เทคโนโลยีโลกของเวียดนามนั้น อาจเริ่มต้นจากการบ่มเพาะทรัพยากรบุคคลของกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งอย่าง MindX .