ทำธุรกิจสตาร์ทอัพจากโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจร

(VOVWORLD) - โครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรอาจเป็นโครงการใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุเหลือใช้ในการผลิต เช่น ต้นข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วลิสง กากมันสำปะหลัง ชานอ้อยและแกลบเป็นอาหารสัตว์หรือปุ๋ย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรไม่ต้องทิ้งอะไรเลย และสามารถสร้างรายได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ในการผลิต ไม่ปล่อยของเสียที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมและความเสื่อมโทรมของดิน โดยโครงการฟาร์มเกษตรอินทรีย์ครบวงจรของสามีภรรยานางเหงวียนเฟืองถาวและนายเหงวียนเลืองเกวียดในจังหวัดฟู้เถาะเป็นแบบอย่างของโครงการดังกล่าว

ทำธุรกิจสตาร์ทอัพจากโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจร - ảnh 1สามีภรรยานางเหงวียนเฟืองถาวและนายเหงวียนเลืองเกวียดเป็นผู้ริเริ่มโครงการฟาร์มเกษตรอินทรีย์ครบวงจร(khoinghiep.org.vn

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศอังกฤษและเดินทางกลับประเทศ นาง เหงวียนเฟืองถาว มีความหวงแหนและพยายามแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมในเขตชนบทและผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษให้แก่ประชาชน ต่อมาเมื่อปี 2017 นาง เหงวียนเฟืองถาว และสามีที่เป็นวิศวกรก่อสร้างได้ย้ายจากกรุงฮานอยไปพัฒนาโครงการฟาร์มเกษตรอินทรีย์ครบวงจรในอำเภอเอียนเหลิบ ซึ่งโครงการนี้แตกต่างจากโครงการฟาร์มเกษตรในเวียดนามในปัจจุบันที่เน้นพัฒนาการเพาะปลูกและปศุสัตว์เพียงอย่างเดียว โดยมีการวิจัยเรื่องการกำจัดขยะมูลฝอยและนำขยะอินทรีย์ไปทำเป็นวัตถุดิบอื่นๆเพื่อใช้ประโยชน์ต่อ"ในโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจร มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการกำจัดขยะมูลฝอยจากปศุสัตว์ เช่น ใช้วัสดุกรองและพืชน้ำเพื่อกำจัดไนโตรเจนและฟอสฟอรัสที่มีต้นทุนต่ำ ไม่ใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตปุ๋ยจากขยะอินทรีย์ ซึ่งเป็นการจัดการขยะอินทรีย์แบบครบวงจร"
สิ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในโครงการนี้คือการพัฒนาฟาร์มเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตร นาง เหงวียนเฟืองถาวเผยต่อไปว่า"เราผลิตเนื้อไก่และเนื้อหมูสดแช่เย็น ชากุหลาบ ชาดอกเบญจมาศและชาดอกรักเร่ หลังการปฏิบัติโครงการฟาร์มเกษตรอินทรีย์เป็นเวลา3 ปี พวกเราได้พัฒนาตัวแทนจำหน่ายอย่างสมบูรณ์ โดยตั้งแต่ปี 2018ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า 600 คนและมีลูกค้าครึ่งหนึ่งกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์อีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก"

ทำธุรกิจสตาร์ทอัพจากโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจร - ảnh 2นางเหงวียนเฟืองถาวแนะนำผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า (hanoimoi.com.vn

จากความได้เปรียบของการผลิตเกษตรอินทรีย์ โครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรของสามีภรรยานางเหงวียนเฟืองถาวได้รับรางวัลต่างๆ เช่น รางวัลการประกวดทำธุรกิจสาต์ทอัพอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ "สตรีและอนาคตของเศรษฐกิจแห่งสีเขียว"ปี2019 ที่ได้รับการยกย่องจากธนาคารโลกเนื่องจากมีแผนทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมีความคิดสร้างสรรคเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งสีเขียว นาย ฝ่ามดึ๊กเหยียม รองอธิบดีกรมพัฒนาตลาดสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ประเมินว่า "โครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรได้ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปันที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในขั้นตอนต่างๆ เช่น การวางผังเขตเพาะปลูก วิธีการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตอย่างเต็มที่เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานประกอบการสตาร์ทอัพที่มีวิสัยทัศน์และความปรารถนาอันแรงกล้าสามารถปรับปรุงรูปแบบการผลิตเกษตรแบบดั้งเดิมให้ทันสมัยได้"

นอกจากนี้ ผู้ริเริ่มโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรกำลังโน้มน้าวให้ฟาร์มต่างๆจัดตั้งเขตเพาะปลูกและปศุสัตว์ที่ปลอดสารพิษและได้มาตรฐานด้านคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภค นาง เหงวียนเฟืองถาวได้เผยว่า"พวกเรามีความประสงค์ว่า จะขยายโครงการนี้ให้เป็นเขตปศุสัตว์ที่สามารถจัดสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานการเกษตรอินทรีย์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเครื่องหมายการค้าเขตผลิตเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถผลักดันการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตเองได้ง่ายขึ้น"

ส่วนดร.เจิ่นยวีแคง หัวหน้าสถาบันวิจัยและอบรมนักธุรกิจเอเปกได้ประเมินเกี่ยวกับศักยภาพการพัฒนาเขตผลิตเกษตรอย่างยั่งยืนในกรอบโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรว่า"รูปแบบการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรคือแนวโน้มการพัฒนาในอนาคต ซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการเลี้ยงสัตว์ โดยโครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรได้สร้างรูปแบบการผลิตใหม่ที่สามารถขยายผลการปฏิบัติในวงกว้าง"
จากจุดแข็งต่างๆ เช่น การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงานฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ โครงการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรของสามีภรรยานางเหงวียนเฟืองถาวได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่ยั่งยืนและค้ำประกันความปลอดภัยด้านอาหารให้แก่ผู้บริโภคเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด