ประสิทธิภาพจากการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม
Pham Hai - Ngoc Anh -  
(VOVWORLD) -การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในตำบลแถกหมี อำเภอหวิงแถง นครเกิ่นเทอได้ช่วยให้เกษตรกรหลายคนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน นี่ถือเป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบครัวเรือนที่สร้างมูลค่าและทำรายได้สูงกว่าการปลูกข้าว 3-4 เท่า
การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามทำรายได้สูงกว่าการปลูกข้าว 3-4 เท่า |
โครงการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในตำบลแถกหมี อำเภอหวิงแถงที่ปฏิบัติโดยหน่วยงานการเกษตรนครเกิ่นเทอตั้งแต่ปี 2016 นั้นจนถึงขณะนี้ได้พัฒนาขยายในพื้นที่กว่า 20 เฮกตาร์ และการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามก็ให้ผลผลิตสูงกว่าการเลี้ยงกุ้งประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถใช้เนื้อมะพร้าวแห้งที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาเป็นอาหารเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ซึ่งช่วยลดค่าอาหารเลี้ยงกุ้ง อีกทั้งกุ้งก้ามกรามยังสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาน้ำทะเลซึมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้เป็นอย่างดี
ครอบครัวของนาย เหงียนเลจุ๋ง ในตำบลแถกหมี มีบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามกว่า 1 เฮกตาร์ กำลังเข้าช่วงเวลาจับขายได้ ซึ่งเขาเผยว่า นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแทนการปลูกข้าว รายได้ของครอบครัวได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า อยู่ที่กว่า 100 ล้านด่งต่อปี "การเลี้ยงกุ้งในแต่ละเฮกตาร์มีรายได้สูงกว่าการปลูกข้าวหลายเท่า ปัจจุบันกุ้งมีราคาแพงทำให้เรามีกำไรสูงในขณะที่ค่าอาหารเลี้ยงกุ้งอยู่ที่ 120,000 ด่งต่อกิโลกรัมเท่านั้น"
หลังจากที่ได้รับการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามจากสำนักงานการเกษตรนครเกิ่นเทอเมื่อปี 2016 ปัจจุบัน ครอบครัวนาย เลวันเฟียม ในตำบลแถกหมีมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น โดยแต่ละปีมีกำไรตั้งแต่ 70-100 ล้านด่ง " เราเลี้ยงกุ้งก็ได้ผลดีมาก ในหลายปีที่ผ่านมาเราปลูกข้าวแต่มีรายได้ไม่สูงเพราะราคาข้าวไร้เสถียรภาพในขณะที่การเลี้ยงกุ้งได้ราคาดีกว่า แต่ในปีนี้ ราคาต่ำกว่าปีก่อนๆ ดังนั้น เราขอให้รัฐมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้ราคากุ้งเพิ่มสูงขึ้น"
ปัจจุบันนี้ ที่ตำบลแถกหมี เกษตรกรปลูกข้าวและเลี้ยงปลาสวายเป็นส่วนใหญ่ในขณะที่พื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามอยู่ที่ประมาณ 21 เฮกตาร์ ดังนั้น ในเวลาข้างหน้า ทางตำบลฯจะพยายามขยายพื้นที่ปลูกข้าวที่ผสมกับการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้เท่านั้น หากยังช่วยให้เกษตรปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตแบบดั่งเดิมมาเป็นการผลิตเกษตรสะอาด สร้างการผสมผสานระหว่างการเลี้ยงกุ้งกับการปลูกข้าว ช่วยลดโรคระบาดและประหยัดพื้นที่ทำการเกษตร ควบคู่กันนั้น ทางตำบลฯยังเชื่อมโยงกับสถานประกอบการหาตลาดจำหน่ายที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรด้วย นาย เหงียนก๊วกฮวี เจ้าหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมการเกษตรตำบลแถกหมีเผยว่า"กำไรจากการเลี้ยงกุ้งอยู่ที่ประมาณ 70-100 ล้านด่งต่อเฮกตาร์บวกกับกำไรจากการปลูกข้าวประมาณ 18-22 ล้านด่ง ทำให้มีกำไรทั้งหมดประมาณ 130-140 ล้านด่งต่อปี ดังนั้นในปีหน้า เราจะขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งเพิ่มขึ้น"
หน่วยงานการเกษตรนครเกิ่นเทอจะใช้รูปแบบการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในตำบลแถกหมีเป็นตัวอย่างเพื่อขยายผลไปยังเขตและอำเภอต่างๆ โดยให้ความสนใจถึงการวางผังพื้นที่เพาะเลี้ยงและผลิตกุ้งพันธุ์ที่มีคุณภาพสูงเพื่อจัดสรรให้แก่จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง นาย มายนาม รองผู้อำนวยการศูนย์ให้บริการเกษตรนครเกิ่นเทอกล่าวว่า "เราสามารถเห็นถึงประสิทธิภาพในการเลี้ยงกุ้งเมื่อเทียบกับการปลูกข้าว ดังนั้น หน่วยงานการเกษตรได้วางแนวทางให้เกษตรกรเลี้ยงสัตว์น้ำและปลูกผลไม้ผสานกับการปลูกข้าว โดยใช้ตำบลแถกหมีเป็นท้องถิ่นนำร่อง ต่อจากนั้นจะขยายผลไปยังอำเภอเก่อด๋อและเขตทดนด"
รูปแบบการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในตำบลแถกหมีมีประสิทธิภาพในด้านเศรษฐกิจในเบื้องต้น ถือเป็นอาชีพที่สร้างกำไรสูงและมั่นคงให้แก่เกษตรกร ช่วยให้หน่วยงานการเกษตรนครเกิ่นเทอพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในเวลาที่จะถึง./.
Pham Hai - Ngoc Anh