ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC(laodong.vn)

ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC ตั้งอยู่ในเขตหว่าหลาก ห่างจากใจกลางของกรุงฮานอยประมาณ 15 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2019 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีภารกิจเพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงระบบนิเวศนวัตกรรมภายในประเทศและระหว่างประเทศ

NIC คือเวทีนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและมีการใช้กลไกให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี  สำนักงาน  องค์การสนับสนุนสถานประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญและปัญญาชนทั้งภายในและต่างประเทศ นาย หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการ NIC สังกันกระทรวงวางแผนและการลงทุนเผยว่า

“เรากำลังสร้างสรรค์ระบบหุ้นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในระบบนิเวศ เช่น สถานประกอบการและกลุ่มบริษัทรายใหญ่ภายในและต่างประเทศ กองทุนเพื่อการลงทุน องค์การสนับสนุนนวัติกรรมและสำนักงานภาครัฐให้เชื่อมโยงปัจจัยต่างๆ ของระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อช่วยให้ความร่วมมือมีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เทคโนโลยี ผลักดันการค้า การทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ”

การเปิดตัว NIC ได้ช่วยให้เวียดนามมีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่พร้อมเพรียง มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีโซนสำหรับการวิจัยและการทำกิจกรรมด้านนวัตกรรม ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้แก่ชมรมสถานประกอบการเวียดนาม นาย เหงียนวันหุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของบริษัทหุ้นส่วน 3DP เวียดนามกล่าวว่า NIC คือเวทีที่ช่วยให้สถานประกอบการ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศพบปะเชื่อมโยงกันเพื่อพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี

“ผลิตภัณฑ์ของเราเกี่ยวข้องถึงการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์จึงใช้ต้นทุนมาก โดยเฉพาะในการลงทุนให้แก่โรงงานและคลังเก็บสินค้า การเปิด NIC  ช่วยสนับสนุนบริษัทของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการเช่าโรงงานและสำนักงานด้วยราคาพิเศษ แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพคือ ต้องขายสินค้าให้ได้ ซึ่ง NIC ได้ให้เราเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนใหญ่และสนับสนุนเราในการประชาสัมพันธ์สินค้าด้วย”

ส่วนนาย หวูแทงทั้ง ผู้ก่อตั้งบริษัทความมั่นคงทางโลกไซเบอร์อัฉริยะ SCS กล่าวว่า

“NIC เป็นศูนย์นวัตกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกองทุนผจญภัยต่างชาติ ซึ่งในขณะที่สถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนามต้องการเงินลงทุน ถ้าหากตั้งอยู่ที่ NIC ก็จะมีความได้เปรียบมาก เพราะสามารถติดต่อกับกองทุนหลายๆแห่งในทั่วโลกได้”

นาย หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการ NIC (laodong.vn)

ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 นับเป็นครั้งแรกที่คำว่า “นวัตกรรม” ได้ถูกระบุในมติของพรรคฯ ส่วนกฎหมายการลงทุนปี 2020 ก็ได้ระบุเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษต่อสถานประกอบการนวัตกรรม นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้พยายามเพื่อปฏิบัตินโยบายต่าง ๆ และให้การช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสำหรับ NIC รัฐบาลเวียดนามได้มีกลไกเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากทั่วโลก โดยนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า

“ต้องวิจัยและกล้าคิดกล้าทำในการทดลองปฏิบัติกลไกเฉพาะต่างๆ ในด้านนวัตกรรมเพื่อสร้างก้าวกระโดดและพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่เศรษฐกิจ ต้องจัดทำยุทธศาสตร์ แผนการและโครงการปฏิบัติเพื่อเน้นพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับสูงให้แก่เวียดนามในระยะต่อไป เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีไฮโดรเจนสีเขียว ควบคู่กันนั้น ก็ต้องเตรียมความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ส่งเสริมจิตใจแห่งความร่วมมือ การเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืนและรอบด้านระหว่างเจ้าของของระบบนิเวศนวัตกรรม”

ด้วยความพยายามและความคาดหวังอันแรงกล้า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เวียดนามได้ติดอันดับที่ 46 จากจำนวน 132 ประเทศและเศรษฐกิจที่มีดัชนีนวัตกรรมที่ปรับเปลี่ยนอย่างเข้มแข็งในทั่วโลกจากองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลกหรือ WIPO เลื่อนขึ้น 2 อันดับเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งอาศัย 5 มาตรฐานในการประเมินคือ กลไก แหล่งบุคลากรและการวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาของตลาดและการพัฒนาของสถานประกอบการ

นอกจากนี้ เวียดนามเป็น 1 ใน 7 ที่มีรายได้ปานกลางที่ได้บรรลุความคืบหน้าในด้านนวัตกรรมมากที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมทั้งเป็น 1ใน 3 ประเทศที่มีผลงานสูงกว่าอัตราการพัฒนา 13 ปีติดต่อกัน นี่คือพื้นฐานที่สำคัญที่ช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายพัฒนานวัตกรรมให้เป็นพลังขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจ พร้อมทั้งช่วยให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งนวัตกรรม ระดมสติปัญญา ขยายผลประโยชน์ของภูมิภาคและโลกในยุคดิจิทัล.