เหงวียนมิงห์เกี่ยว ตัวอย่างดีเด่นในการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์

(VOVWORLD) - นาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท Song An Production Trading and Services ที่นครโฮจิมินห์ เป็นตัวอย่างดีเด่นในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ โดยซอฟต์แวร์ของบริษัทฯ ได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในโรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยา หลายแห่งทั่วประเทศ
 
 
เหงวียนมิงห์เกี่ยว ตัวอย่างดีเด่นในการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ - ảnh 1เหงวียนมิงห์เกี่ยว ตัวอย่างดีเด่นในการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์

นาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว หนุ่มชาวเบ๊นแจ อายุ 40 ปี มีประสบการณ์ในด้านซอฟต์แวร์การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์มานานกว่า 15 ปี หลังจาสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมนครโฮจิมินห์ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ นาย เกี่ยว ได้ตัดสินใจสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในการดูแลสุขภาพที่นครโฮจิมินห์ โดยเมื่อปี 2009 เขาได้ก่อตั้งบริษัท Song An Production Trading and Services ขึ้นมาและได้มีการลงนามสัญญาฉบับแรกกับศูนย์การแพทย์อำเภอต่วนหญ๊าว จังหวัดเดี่ยนเบียน เมื่อเดือนธันวาคมในปีนั้น

“ณ ตอนนั้น นาย จิ่งดึ๊กลอง ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์อำเภอต่วนหญ๊าว จังหวัดเดี่ยนเบียน ได้โทรถามทางบริษัทฯ ว่า อยากนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปยังศูนย์ฯ เพื่อสามารถประยุกต์ใช้กับโรงพยาบาลต่วนหญ๊าว ผมรู้สึกดีใจมากๆ แล้วรีบจองตั๋วเครื่องบินไปยังกรุงฮานอยและนั่งรถจากฮานอยตรงไปที่ศูนย์การแพทย์อำเภอต่วนหญ๊าว โดยท่านผู้อำนวยการได้ตั้งโจทย์ว่า อยากให้การทำงานทุกขั้นตอนต้องผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ผมเลยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อนำเสนอรูปแบบและกระบวนการให้แก่ทางโรงพยาบาลผ่านกลไกเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวเดินก้าวแรกในธุรกิจของผม”

หลังจากนั้น ซอฟต์แวร์ของบริษัทฯ ก็ได้รับการจำหน่ายให้แก่สถานพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดเดี่ยนเบียน รวมถึง ลายโจว์ หล่างเซิน กว๋างนิงห์ และนครโฮจิมินห์ นาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว เผยต่อไปว่า

“ปัจจุบัน บริษัทฯ มีฐานลูกค้าจากภาคเหนือจนถึงทางภาคใต้ ประกอบด้วยโรงพยาบาล 50 แห่ง คลินิก 1,500 แห่ง บ้านพักคนชรา 3 แห่ง และร้านขายยากว่า 5,000 แห่ง รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 1.7 ถึง 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จริงๆ แล้ว การประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพด้านไหนก็ยากทั้งนั้น ผมคิดว่า เราต้องเสริมสร้างทักษะความสามารถทางวิชาชีพให้มากขึ้นก่อน โดยต้นทุนไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่ต้องมีความรู้และทักษะการบริหารจัดการ หลังจากนั้น เราต้องหาจุดแข็งของเรา แล้วมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ตอนนี้ พวกเรามีคู่ค้าที่ญี่ปุ่นและแคนาดาที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนและพร้อมที่จะสมทบทุนให้บริษัทฯ โดยผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีจะต้องมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”

เหงวียนมิงห์เกี่ยว ตัวอย่างดีเด่นในการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ - ảnh 2นาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว ในการพบปะกับตัวอย่างดีเด่นในการสตาร์ทอัพ

เมื่อ 6 ปีก่อน บริษัทของนาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว ได้มีการจัดทำซอฟต์แวร์บริหารจัดการบ้านพักคนชรา
E-Nursing Home ซึ่งเป็นระบบนิเวศแรกๆ ในเวียดนามที่ให้ความช่วยเหลือแก่บ้านพักคนชราในการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการและการดูแลผู้สูงอายุ หลังจากนั้นสองปี เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลินิก E-Clinic พร้อมฟังก์ชันบริหารการตรวจสุขภาพและการรักษาที่ครบถ้วนตามความต้องการในการใช้งานเฉพาะคลินิกแต่ละรูปแบบ ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ระบบนิเวศซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงพยาบาล Ehis หรือซอฟต์แวร์การจัดการบันทึกผู้ป่วยโดยใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับรางวัลที่ 3 จากการประกวดด้านการแพทย์อัจฉริยะปี 2018 และรางวัล Vietnam Digital Transformation Award ปี 2019 ส่วนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการดัดแปลงระบบนิเวศซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงพยาบาล Ehis จากเวอร์ชั่นแอพพลิเคชั่นมาเป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์ เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากระบบนิเวศซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงพยาบาล Ehis แล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในระบบนิเวศทางการแพทย์ของบริษัท Song An เช่น ซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลินิก E-Clinic ซอฟต์แวร์บริหารจัดการร้านขายยา E-Med และซอฟต์แวร์บริหารจัดการบ้านพักคนชรา E-Nursinghome ยังคงได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง พร้อมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 ในการบริหารงานทางการแพทย์ จากการเป็นคนที่ใส่ใจอย่างมากในการสร้างผลิตภัณฑ์ระบบนิเวศซอฟต์แวร์บริหารจัดการด้านการแพทย์จนสำเร็จ นาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว ได้แสดงความเห็นว่า

“ปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามได้กำชับให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงซอฟต์แวร์ของบริษัท Song An ด้วย โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนา เช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน การชำระเงินโดยไม่ใช้เงินสด เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ และบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายโรงพยาบาลที่ไม่ใช้เอกสารกระดาษ พร้อมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบผ่านอินเทอร์เน็ต พวกเราต้องมีการอัพเดทและปรับปรุงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดมาให้แก่ลูกค้า สำหรับผม ภารกิจหนึ่งเดียวที่ต้องตามหานั่นก็คือ เดินเคียงข้างอุตสาหกรรมการแพทย์เพื่อการปรับเปลี่ยนจากโรงพยาบาลแบบดั้งเดิมสู่โรงพยาบาลไร้กระดาษ โดยบริษัทฯ กำลังสร้าง big data ที่ถูกต้องตามมาตรฐานเพื่อลงในระบบพอร์ทัลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงสาธารณสุข”

ทั้งนี้ ภายหลังช่วงเวลาแห่งการก่อตั้งและพัฒนาเป็นเวลา 15 ปี ปัจจุบัน บริษัท Song An Production Trading and Services ได้กลายเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับภาคการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่น่ายินดีสำหรับนาย เหงวียนมิงห์เกี่ยว และเพื่อนร่วมงานทุกคน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด