(VOVworld) - ในปี 2015 ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับไทยได้พัฒนาอย่างดีงามใน ทุกด้าน เช่น การเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ แรงงาน กลาโหม การลงทุนและพลังงาน

1.เหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุดที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากประชาชนทั้ง 2 ประเทศคือการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่3 ณ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม โดยได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือฉบับต่างๆ ประกอบด้วย แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่ 3  บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านแรงงาน บันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจังหวัดลองอาน ประเทศเวียดนามกับจังหวัดตราด บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจังหวัดกอนตุมกับจังหวัด อุบลราชธานี  โอกาสนี้ ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ได้เห็นพ้องกันในการวางแนวทางความร่วมมือใหญ่ๆในเวลาที่จะถึงเพื่อทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยมีความลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

2.ในกรอบการเสด็จเยือนประเทศเวียดนามตามคำเชิญของนางเหงียนถิ่ยวาน รองประธานประเทศเวียดนามในระหว่างวันที่ 5 – 8 พฤษภาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีได้เสด็จเยือนจังหวัดกว๋างนาม นครโฮจิมินห์และจังหวัดนิงบิ่ง  โดยที่จังหวัดกว๋างนาม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงศึกษาจุดแข็ง มาตรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมรดกของจังหวัด ส่วนที่นครโฮจิมินห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จเข้าร่วมพิธีเปิดศูนย์วิจัยไทย ณ มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์สังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์ภายใต้การสนับสนุนด้านการเงินจากรัฐบาลไทย  ส่วนที่จังหวัดนิงบิ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเสด็จเยือนโรงเรียนประถมนิงหมี อำเภอฮวาลือและทรงพระราชทานของขวัญให้แก่นักเรียนที่เรียดี พร้อมทั้งทรงตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติโครงการ“ยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในเอเชียแปซิฟิก” ขององค์การยูเนสโก้และกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีที่ได้ปฏิบัติในโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี2006 มาจนถึงปัจจุบัน
3.เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติมติใหม่ที่มีการเพิ่มเติมและแก้ไขมติเมื่อวันที่10กุมภาพันธ์และมติเมื่อวันที่10พฤศจิกายนปี2015  โดยมติฉบับดังกล่าวระบุถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานเวียดนามที่ถือหนังสือเดินทางเวียดนามและเดินทางเข้าประเทศไทยก่อนวันที่10สิงหาคมปี2015ที่สิ้นสุดระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยและมีสัญญาจ้างงานกับนายจ้างชาวไทย  ส่วนสำหรับแรงงานที่ประกอบอาชีพแม่บ้าน แรงงานในภาคการก่อสร้าง ประมงและพนักงานร้านอาหารจะได้รับการพิจารณาออกใบอนุญาติทำงานเป็นเวลา1ปี  หลังจากนั้น แรงงานในภาคการก่อสร้างและประมงสามารถทำเรื่องขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน  คาดว่า การขึ้นทะเบียนแรงงานจะใช้เวลา30วัน
4.ในกรอบการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของบรรดาประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในระหว่างวันที่18-23พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปของเวียดนามได้ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมไทยจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมาย การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยรัฐบาลไทยจะให้การช่วยเหลือด้านเทคนิกและการเงินแก่สำนักงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเวียดนามเพื่อรับมือกับการลักลอบผลิตซื้อขายยาเสพติดและสารตั้งต้น ผลิตยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ
5.บริษัทPower Buyของไทย ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเป็นบริษัทในเครือ Central Retailที่เพิ่งเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์(Robins)ที่กรุงฮานอยได้ซื้อหุ้นร้อยละ 49 ของบริษัท New Solution and Technology Development Investment (NTK)ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการห้างจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเหงวียนคิม ซึ่งใหญ่ที่สุดในเวียดนาม  นอกจากบริษัทPower Buyแล้ว นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครที่เปิดนิคมอุตสาหกรรมอมตะที่เบียนหว่า จังหวัดด่งนาย กำลังมีแผนสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยแห่งใหม่ในจังหวัดกว๋างนิงห์ จังหวัดบิ่งดิ่งและจังหวัดด่งนาย
6.จังหวัดกว๋างจิของเวียดนามกับบริษัทOne Asiaจำกัดของไทยได้บรรลุข้อตกลงที่จะส่งเสริมและพัฒนาเขตเอนกประสงค์ด้านพลังงานเพื่อเตรียมพร้อมให้แก่การผสมผสานเข้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของเวียดนาม ตามข้อตกลงฉบับนี้ที่ได้ลงนามกันที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่22พฤษภาคม นักลงทุนของไทยจะประสานงานกับจังหวัดกว๋างจิดำเนินโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 1,200เมกะวัตต์ที่ใช้เงินทุนก่อสร้าง2.4พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะดำเนินการในระหว่างปี2017–2019 นี่คือโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแห่งแรกของเขตเอนกประสงค์ด้านพลังงานของจังหวัดกว๋างจิ

7.เมื่อวันที่27สิงหาคม สถานทูตไทยประจำเวียดนามได้มอบเงิน4000ดอลลาร์สหรัฐให้แก่ สมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทย เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆของสมาคมฯ  ในการนี้ นายปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้กล่าวย้ำถึงความตั้งใจของสถานทูตไทยในการส่งเสริมการดำเนินงานของสมาคมฯ โดยเฉพาะกิจกรรมฉลองครบรอบ40ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง2ประเทศในปี 2016
8.นายเลหว่างกวน ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์และม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯได้ลงนามในข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่างสองนคร โดยทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือในด้านที่เป็นจุดแข็งและมีศักยภาพ เช่นด้านการค้า การลงทุน การศึกษาฝึกอบรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การวางแผนพัฒนาตัวเมืองและสิ่งแวดล้อม ข้อตกลงฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา5ปีนับตั้งแต่วันลงนามหลังจากนั้นจะได้รับการขยายเวลาอีก5ปีโดยอัตโนมัติ

9.ในโอกาสฉลองครบรอบ125ปีวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งตรงกับวันที่19พฤษภาคม สมาคมภาพยนตร์เวียดนามได้ร่วมกับสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง“เฒ่าจิ๋นในประเทศสยาม”สู่สายตาชาวเวียดนามที่อาศัยในไทย  โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวปฏิวัติของท่านเหงวียนอ๊ายก๊วก หรือประธานโฮจิมินห์ ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่าเฒ่าจิ๋นในช่วงปี1928 -1929ที่ประเทศไทยเพื่อสร้างฐานที่มั่นการปฏิวัติ เตรียมรวม 3 องค์กรพรรคเข้าเป็นองค์กรเดียวเพื่อมุ่งสู่การจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในวันที่3กุมภาพันธ์ปี1930

10.เมื่อวันที่8สิงหาคมนี้ ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตของวงร่วมสมัยบิ๊กแบนด์ของไทย โดยสถานทูตไทยประจำเวียดนาม กรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.)สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมไทย กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนามจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา83พรรษา 12 สิงหาคม วงร่วมสมัยบิ๊กแบนด์เป็นวงดนตรีเยาวชนวงแรกของประเทศไทยที่รวมนักดนตรีเยาวชน อายุ12–19ปีที่มีความสามารถโดดเด่นจากทั่วประเทศ  ส่วนตัวแทนฝ่ายเวียดนามที่ได้รับเชิญเข้าร่วมในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือนักร้องหญิงเยืองหว่างเอี๊ยน.