นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์กล่าวปราศรัยในงาน

ในการนี้ นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้แสดงความยินดีต่อเวียดนามที่ได้ทำหน้าที่ประธาน ASEAN ลุล่วงไปอย่างเรียบร้อย โดยได้จัดการประชุมสุดยอดผู้นำและการประชุมอื่นๆ ในแบบ New Normal และมีส่วนทำให้ ASEAN สามารถลงนาม RCEP ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ ตลอดจนยินดีที่เอกชนไทยมีส่วนในการส่งเสริมการค้า 2 ทาง รวมถึงการที่ภาคเอกชนไทยมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ นอกจากนั้นได้แสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงของนครโฮจิมินห์ เมื่อเร็วๆนี้ พร้อมทั้งย้ำถึงความสำคัญของมิตรภาพระดับประชาชน สำหรับกรณีภัยพิบัติทางธรรมชาติในภาคกลางของเวียดนามในช่วงปีนี้ รัฐบาลไทยได้บริจาคเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอยและคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ ส่วนในเวียดนามตอนใต้นั้น สถานกงสุลใหญ่ฯ ภาคเอกชนไทยและชุมชนไทยในพื้นที่ก็ได้ร่วมบริจาคเงินกว่า 1,341 ล้านด่ง และสิ่งของมูลค่า 90 ล้านด่ง ตลอดจนหน้ากากอนามัย 25,000 ชิ้น ผ่านคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ นครโฮจิมินห์

นายเยือง อัน ดึ๊ก รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ กล่าวปราศรัยในงาน

ส่วนนายเยือง อัน ดึ๊ก รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า ในช่วง 44 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามแนบแน่นทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ซึ่งความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ยังคงเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ที่การค้าทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 6 เดือนแรกของปี ไทยมีการลงทุนในเวียดนามกว่า 1,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่า เป็นผู้ลงทุนโดยตรงจากต่างชาติที่มีการลงทุนมากเป็นลำดับที่ 2 พร้อทั้งเผยว่า นครโฮจิมินห์สถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ปี 2558 และได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ไทยยังมีการลงทุนในนครฯ จำนวน 219 โครงการ ซึ่งมีเงินทุนรวม 454 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอันดับที่ 12 จาก 111 ประเทศที่มาลงทุนในนครฯ โดยนครโฮจิมินห์มีการค้ากับไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปีคิดเป็น 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้ง ยืนยันว่า ไทยและเวียดนามจะส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือเพื่อร่วมกันฟันฝ่าเวลาที่ยากลำบากนี้ ตลอดจนจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ ASEAN.

โอกาสนี้ ได้มีการแสดงชุด “ระบำมณีเมขลา” ซึ่งแสดงโดยนางสุปราณี ฟุนาชิมะ ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ชาวไทยที่พำนักในนครโฮจิมินห์ รวมทั้งจัดมุมแสดงฉากหนึ่งจากบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 9และ เรื่องพระมหาชนก.